หนึ่งในตัวละครสำคัญจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส คงหนีไม่พ้น ‘แม่มะลิ’ หรือ ‘มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (ตองกีมาร์)’ หรือ ‘ท้าวทองกีบม้า’ ที่ได้เข้ารับราชการในพระราชวัง ตำแหน่งหัวหน้าห้องเครื่องต้น ดูแลอาหารหวานหลากหลายเมนู
ไทยรัฐออนไลน์ ขอชวนคุณย้อนอดีตเปิดประวัติท้าวทองกีบม้า พร้อมเจาะสูตรเมนูขนมไทยที่มีมาแต่สมัยอยุธยา ว่ากันว่าเป็นการคิดค้นขนมไทยยุคแรกเริ่มในสยามเลยทีเดียว
1. แม่มะลิ ออเจ้าเป็นผู้ใด?
ท้าวทองกีบม้า มีชื่อตัวว่า มารีอา กูโยมาร์ เด ปิญญา (Maria Guyomar de Pinha) แต่มักเป็นที่รู้จักในชื่อ มารี กีมาร์ หรือ มารี ตองกีมาร์ เกิดที่กรุงศรีอยุธยา เป็นลูกครึ่งโปรตุเกส-ญี่ปุ่น และเบงกอล โดยมารดาของท้าวทองกีบม้าชื่อ เออร์ซูลา ยามาดะ ซึ่งมีเชื้อสายญี่ปุ่นผสมโปรตุเกส
ส่วนบิดาชื่อ ฟานิก กูโยมา เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นผสมแขกเบงกอลและโปรตุเกสจากอาณานิคมกัว (ปัจจุบันคือรัฐกัว ประเทศอินเดีย) เธอเป็นภรรยาของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน ชาวกรีกที่เข้ามารับราชการในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

...
2. เจ้าตำนานขนมไทย
มารี กีมาร์ มีชื่อเสียงจากการปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าห้องเครื่องต้นวิเสทในราชสำนัก ในตำแหน่ง "ท้าวทองกีบม้า" ว่ากันว่านางได้ประดิษฐ์ขนมไทยที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารโปรตุเกส จนได้สมญาว่าเป็น "ราชินีแห่งขนมไทย"
(แต่ก็มีกระแสคัดค้านในอีกมุมหนึ่ง บอกว่าขนมโปรตุเกสเหล่านี้แพร่หลายมาพร้อมกับกลุ่มชนเชื้อสายโปรตุเกสที่เข้ามาพำนักในกรุงศรีอยุธยามากว่า 150 ปี ก่อนที่นางจะเกิดเสียอีก เรื่องที่นางดัดแปลงขนมไทยจากตำรับโปรตุเกสเป็นคนแรกเห็นจะผิดไป)

3. ทำขนมต้อนรับราชทูตฝรั่งเศส
ย้อนกลับมาที่เรื่องขนมไทย ว่ากันว่าท้าวทองกีบม้าเป็นต้นตำรับทำขนมไทย ประเภททองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เคยได้ทำอาหารเลี้ยงต้อนรับคณะราชทูตฝรั่งเศสที่มาเยือนในสมัยนั้น จนมีผู้ยกย่องว่าเป็น “ราชินีแห่งขนมไทย”
4. สมรสกับเจ้าพระยาวิชเยนทร์
มารี กีมาร์ ได้สมรสกับเจ้าพระยาวิชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ขุนนางชาวกรีกอันเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขณะนั้นที่นางมีอายุได้ 16 ปี เบื้องต้นบิดาของนางแสดงความไม่พอใจในพฤติกรรมและวัตรปฏิบัติของลูกเขยที่หลงลาภยศสรรเสริญและมักในโลกีย์นัก ฟอลคอนจึงแสดงความจริงใจด้วยยอมละนิกายแองกลิคันที่ตนนับถือ เปลี่ยนเป็นนิกายโรมันคาทอลิกตามมารีอา ฟานิกจึงเห็นแก่ความรักของคอนสแตนตินและยินยอมได้ทั้งสองสมรสกัน

5. เคร่งศาสนา
หลังการสมรส มารี กีมาร์ ก็ยังดำรงชีวิตอย่างปกติ ไม่โอ้อวดในยศถาบรรดาศักดิ์ ซ้ำยังชี้ชวนให้สามีคือเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ประพฤติและปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอขึ้นกว่าเก่า
6. มีบุตร 2 คน
มารี กีมาร์ หรือ ท้าวทองกีบม้า มีบุตรกับเจ้าพระยาวิชเยนทร์ด้วยกัน 2 คนคือ จอร์จ ฟอลคอน กับคอนสแตนติน ฟอลคอน แต่ชีวิตสมรสของเธอก็ไม่ราบรื่นนัก เหตุก็เพราะความเจ้าชู้ของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ที่นอกใจนางไปมีสัมพันธ์สวาทกับคลารา (Clara) นางทาสชาวจีนในอุปการะของเธอ

...
7. ช่วงชีวิตตกต่ำ
แต่ชีวิตที่รุ่งโรจน์ของเธอก็พลันดับวูบลงเมื่อเจ้าพระยาวิชเยนทร์ผู้เป็นสามี ถูกตัดสินประหารชีวิตและริบราชบาตรหลังเกิดจลาจลก่อนสิ้นรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเพียงไม่กี่วัน
8. ถูกส่งตัวเข้าวัง
หลังจากที่สามีถูกประหารชีวิต ท้าวทองกีบม้าถูกส่งตัวเข้าไปเป็นคนรับใช้ในพระราชวัง และได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ทำอาหารหวานประเภทต่างๆ ส่งเข้าไปในพระราชวังตามกำหนด การทำหน้าที่จัดหาอาหารหวานส่งเข้าพระราชวัง ท้าวทองกีบม้าได้ประดิษฐ์ขนมขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา

9. ดัดแปลงและคิดค้นสูตรขนม
ท้าวทองกีบม้าได้ดัดแปลงตำรับเดิมของโปรตุเกส และนำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีในสยามเข้ามาผสมผสาน ซึ่งหลักๆ ได้แก่ มะพร้าว แป้งและน้ำตาล จนทำให้เกิดขนมใหม่ที่มีรสชาติอร่อย พระราชวังก็ได้ให้ความชื่นชมมากและถูกเรียกตัวเข้าไปรับราชการในพระราชวังในตำแหน่งหัวหน้าห้องเครื่องต้น


10. ขนมไทยในสมัยอยุธยา
ท้าวทองกีบม้า เมื่อเข้าไปรับราชการในพระราชวังได้สร้างสรรค์ขนมหวานหลายชนิด โดยดัดแปลงมาจากตำรับอาหารโปรตุเกส ให้เป็นขนมหวานของไทย และเผยแพร่ไปทั่วจวบจนทุกวันนี้ ขนมที่เชื่อว่าท้าวทองกีบม้าได้ดัดแปลงเป็นขนมหวานของไทยนั้น ได้แก่ ทองม้วน, กะหรี่ปั๊บ, ขนมหม้อแกง, ทองพลุ, ทองหยอด, ทองหยิบ, ฝอยทอง, ทองโปร่ง, สังขยา, ขนมผิง, สัมปันนี, ขนมขิง, ขนมไข่เต่า, ลูกชุบ

...

ที่มา : th.wikipedia , ปกนิยายเรื่อง "ท้าวทองกีบม้า" โดยคึกเดช กันตามระ สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย