ขอเล่าเรื่องตลกเบาๆสักนิดย้อนไปที่ "ไทยรัฐ" ของเราฉบับวันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน คอลัมน์ "ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต" นี่แหละครับ
ปกติตอนเช้าหลังจากตื่นนอนแล้ว ผมชอบไปเล่นเทนนิสตามคลับหรือก๊วนเพื่อนๆตลอดเวลา
เมื่อ อาทิตย์ที่แล้วไปเล่นที่กลุ่มเล็กๆแห่งหนึ่ง มีทั้งเพื่อนและคนรู้จักกำลังคุยกัน ที่ว่ารู้จักกันนั้นก็เพราะไม่ได้คบกันสนิทสนม เพียงแต่เคยเห็นหน้ากันเท่านั้น ไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ ผมจึงไม่กล้าเรียกว่าเป็นเพื่อน
เขากำลังคุยกันเรื่องปวดหลัง ปวดขา ปวดเข่า ปวดไหล่ ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่เขาคุยกันเสียงดัง จะตั้งใจฟังหรือไม่ตั้งใจก็ได้ยินชัดอยู่ดี
เขากำลังพูดกันถึงอาหารที่ทำให้เกิดอาการปวดตามข้อต่อต่างๆ ก็คือเรื่องที่ผมเขียนไว้ตอนท้ายบทความวันที่ 12 กันยายน นั่นแหละ
คนรู้จักท่านหนึ่งทำท่าทางเป็นหมอ พูดเสียงดังว่า "กินไม่ได้ทั้งนั้นแหละ มะเขือเทศ มะเขือยาว มะเขือต่างๆ"
อีกท่านหนึ่งเสริมขึ้นว่า "ถูกต้อง แม้แต่ แตงกวาก็กินไม่ได้"
หลายท่านสั่นหัวทำท่าเสียดาย "แย่จริง กินอะไรก็ไม่ได้ ของชอบๆทั้งนั้น"
ผม รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาทันที อยากจะเข้าไปอธิบายสักนิดว่า ที่คุณพูดไปนั้นถูกเพียงครึ่งเดียวก็ไม่ได้ เพราะท่านที่พูดออกมานั้น อาจจะไม่รู้ว่าผมเป็นคนเขียนคอลัมน์นี้
และที่รู้สึกว่าออกจะดูตลกชอบกลอยู่ก็คือ ท่านหันหน้าเหมือนจะมาบอกผมว่า "รู้แล้วก็จำไว้ให้ดีนะ แตงกวากินไม่ได้"
เอา เถอะท่านจะคิดว่าท่านเป็นเจ้าของตำรากินมะเขือไม่ได้ หรือกินอะไรไม่ได้ก็ตามที แต่ผมรู้สึกว่า ถ้าจะพูดอะไรทำนองว่า "ฉันรู้ แกต้องฟังฉันนะ เพราะแกไม่รู้จึงต้องฟัง" ละก็ ท่านอ่านหรือลอกอะไรมา ก็ต้องอ่านและจำให้ละเอียดเสียก่อน อย่าจำอย่างงูๆปลาๆ
อย่าจำครึ่งๆกลางๆ แล้วก็เที่ยวไปสอนใครอย่างผิดๆเลยครับ
เพราะ ความสำคัญของคำเตือนที่ผมระบุไว้ว่า ไม่ควรกินมะเขือเทศ มะเขือยาว ฯลฯ และอะไรต่ออะไรนั้น มีความสำคัญที่สุดตรงที่ว่า "ถ้าคุณแพ้อาหารเหล่านี้ ก็ขอให้งดไว้ก่อนถ้าไม่แพ้ก็ไม่ต้องกังวล กินทุกอย่างได้เต็มที่เลย"
นี่แหละครับ ความสำคัญอยู่ตรงนี้
ขออธิบายต่ออีกว่า แล้วที่ว่าแพ้นั้นอะไรและแพ้อย่างไร
แพ้ตรงที่พวกผักเป็นลูกๆ อย่างเช่น มะเขือยาว มะเขือเทศ พริกสด แตงกวา ฯลฯ ต่างๆเหล่านี้ เป็นพืชในตระกูลที่เราเรียกว่า NIGHT SHADE
วิธี ดูพืชตระกูลนี้ ให้ดูที่ขั้วของมัน ซึ่งจะเป็นแฉกๆ และแต่ละแฉกจะมีขนสั้นๆเกาะอยู่เต็ม แม้แต่ที่ก้านต่อจากขั้วก็มีขนเกาะด้วยเช่นกัน
พืชที่เป็นลูกๆเหล่า นี้มีสารที่เรียกว่า SOLANUM ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ทำให้ข้อต่อตามร่างกายของเราเกิดอักเสบขึ้นมา เมื่ออักเสบ มันก็ต้องบวมและเราก็เกิดอาการเจ็บปวดจนเดินไม่ได้ ทำอะไรเคลื่อนไหวนิดหน่อยก็เจ็บปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว
วิธีสังเกตดู SOLANUM ก็ให้ดูที่ผิวหรือขั้วของมัน เวลาหักขั้วหรือเอามีดกรีดผิวพืชที่เป็นลูกเหล่านี้ จะมียางเป็นเมือกใสๆไหลออกมา
เมือก เหล่านี้มีสาร SOLANUM ประจำอยู่ ลองเอาเมือกแตะลิ้นดู จะรู้สึกมีรสขื่นๆเอียนๆ นั่นแหละคือพิษหรือ TOXIN ซึ่งจะเกาะสะสมตามข้อ ทำให้คุณเจ็บปวดละ
โดยเฉพาะคนที่เป็นเกาต์บ่อยๆ เมื่อเวลาไปตรวจเลือด จะพบว่ายูริค แอซิด นั้นสูงเกินขนาด (เกิน 7.mg/dl) เมื่อคุณกินอาหารที่มีสาร SOLANUM เข้าไป จะทำให้ยูริค แอซิดของคุณเพิ่มขึ้นและแข็งขึ้นรวดเร็ว
ผมเคยมีโอกาสส่องกล้องดูยู ริค แอซิดในห้องแล็บ โอ้โฮ สวยดีนะครับ เม็ดและเกร็ดเล็กๆใสขาว เจ้าเม็ดเล็กละเอียดนั้นมีหนามแหลมคมรอบตัว มันก็เหมือนคุณเอาเศษกระจกละเอียดใส่เข้าไปในข้อต่อนั่นแหละ ไม่เจ็บ ปวดอย่างไรไหว
แต่อย่าลืมนะครับ เตือนไว้สำหรับท่านที่แพ้ สาร SOLANUM เท่านั้น ถ้ากินพวกพืชเป็นลูกเหล่านี้ไม่เคยมีอาการ โดยเฉพาะ เมื่อท่านตรวจเลือด ผลเลือดทุกอย่างปกติ ยูริค
แอซิดก็ไม่สูง ไม่ต้องวิตกนะครับ กินได้เต็มที่เลย (บอกแล้วไงว่า มะเขือจิ้มน้ำพริกปลาทูอร่อยจะตาย)
เมื่อ พูดถึงเรื่องอาหารพวกพืช NIGHT SHADE แล้ว ก็ขอพูดไปถึงสูตรหลายๆสูตร ซึ่งผมเคยแนะนำและได้เน้นว่า แนะนำเป็นวิทยาทาน และต้องการให้ท่านที่ทราบแล้วไปทำเอง
คนที่ปฏิบัติชีวจิต ต้องไม่ขี้เหนียว อะไรที่ทำเองได้ ก็ทำเถอะ ไม่ต้องไปเห็นว่าเขาทำสำเร็จรูปมาขาย ซื้อเขามาสะดวกกว่า สบายกว่า อย่าขี้เกียจครับ
อีกอย่างหนึ่งก็คือ มีบางคนขโมยสูตรไปทำ แถมยังเติมอะไรต่ออะไรเข้าไปในสูตร ทำให้กลายเป็นโทษร้ายแรง
อย่าง น้ำเอนไซม์ (ENZYME) ซึ่งผมเคยแนะนำว่าให้ใช้เป็นยาได้ อย่างเช่น ผมแนะนำให้ทำน้ำเอนไซม์จากแครอท และจากเซลเลอรี่ โดยแนะนำว่าน้ำเอนไซม์จากแครอท นั้นมีทั้งวิตามินและเอนไซม์ที่ช่วยการทำงานของตับให้ดีขึ้น และเอนไซม์จากเซลเลอรี่ (อันที่จริงเป็นโคเอนไซม์) ช่วยทำให้เลือดสะอาดขึ้น
ก็มีผู้ (อวด) รู้ ซึ่งความจริงคงไม่รู้อะไรเลย ไปแนะนำว่า ให้เอาน้ำผักต่างๆปั่นแล้วผสมน้ำผึ้งดื่มทุกวัน วันละ 3 มื้อ
ผลปรากฏว่า ผู้ที่ดื่มน้ำผักปั่นนั้น บวมไปหมดทั้งตัว
นี่ก็เป็นเพราะคนที่แนะนำนั้น เขาไม่รู้จักว่าน้ำปั่นกับน้ำเอนไซม์นั้นต่างกันอย่างไร
น้ำปั่น ถ้าปั่นหรือคั้นจากผักหรือผลไม้ก็เป็นน้ำผักและเป็นน้ำผลไม้ ไม่มีเอนไซม์
ถ้าคั้นหรือสับโดยไม่ถูกความร้อนหรือถูกกระแสไฟฟ้า ก็เป็นเอนไซม์ และเอนไซม์
มีคุณภาพเป็นยา บางครั้งบางชนิดดีกว่ายาด้วยซ้ำ
หรือ น้ำอาร์ซีซึ่งผมแนะนำให้ใช้ข้าวและเมล็ดพืช 9 ชนิด เพื่อเป็นยาบำรุงสมองโดยเฉพาะช่วยบำรุง NEUROTRANSMITTER ทำให้ สมองสดใส จิตใจก็แจ่มใส ร่างกายก็มีแรง
เขาก็เอาน้ำอาร์ซีไปทำเป็นผงขายเป็นซอง ตอนต้นประกาศว่าเป็นน้ำอาร์ซีของอาจารย์สาทิส
ผม ก็ประกาศไปว่า ทำอย่างนั้นใช้ไม่ได้ เพราะการทำให้เป็นผงนั้น ต้องใช้ความร้อนสูง วิตามิน แร่ธาตุ ดีเอ็นเอ อาร์เอ็นเอ ตายหมด เสื่อมคุณภาพ ใช้ไม่ได้
ผมประกาศไปเช่นนั้น ของของเขาก็ขายไม่ได้ พากันโกรธแค้นผมเป็นการใหญ่ ผมก็เลยโดนการกลั่นแกล้ง กล่าวหาจนเกือบจะอยู่เมืองไทยไม่ได้
เมือง ไทยเราเป็นอย่างนี้แหละครับ ผมคิดสูตรอะไรต่างๆขึ้นมามากมาย สูตรดีทอกซ์ สูตรมินิโดส เม็กกาโดส ฯลฯ ใครๆมาขอสูตรตรงๆผมก็ยินดีมอบให้
แต่เขาไม่ขอ ชอบขโมย แล้วก็ไปสอนหรือไปทำขายกันผิดๆ
ฟังแล้วคิดให้ดีนะครับ อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ.
*******
โดย : สาทิส อินทรกำแหง
...