ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นาถ ที่ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาการทอผ้าแพรวา ทำให้ผ้าทอมืออันเป็นเอกลักษณ์ของชาวผู้ไทยหรือภูไท ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงได้นำเรื่องราวของผ้าแพรวามาจัดเสวนาให้เป็นที่ทราบถึงที่มาในหัวข้อว่า “ผ้าแพรวา : จากผ้าเบี่ยงธรรมดา สู่ราชินีแห่งไหมไทย” พร้อมการแสดงพื้นบ้านชุดรำแพรวากาฬสินธุ์ ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ประธานในงาน ได้เล่าถึงผ้าแพรวาว่า ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพฯ เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จเยี่ยมพสกนิกรชาวบ้านโพน กิ่งอำเภอคำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ในปี พ.ศ. 2520 ได้ทอดพระเนตรเห็นชาวภูไทบ้านโพน แต่งตัวโดยใช้ผ้าแพรวาห่มแบบสไบเฉียง หรือเรียกว่า “ผ้าเบี่ยง” จึงสนพระราชหฤทัยและโปรดให้มีการสนับสนุนทอผ้าประเภทนี้ ทรงมีพระราชดำริให้ขยายหน้าผ้าให้กว้างขึ้น เพื่อที่จะได้นำไปใช้เป็นผ้าผืนสำหรับตัดเสื้อผ้าได้ อีกทั้งพัฒนาลวดลายให้เหมาะสมตามความต้องการของตลาด และผู้ที่รับสนองพระราชดำริเป็นคนแรกในการฟื้นฟูผ้าแพรวาคือ “คำใหม่ โยคะสิงห์” ประธานกลุ่มทอผ้า
แพรวาคนแรกของศิลปาชีพ
...
ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์เล่าต่อว่า “ตอนนั้นไม่มีใครกล้ารับทำผ้าแพรวาเลย มีแต่ แม่คำใหม่ เพียงคนเดียวที่กล้าหาญที่สุด และอาสารับทอผ้าแพรวาให้เอง ทั้งๆที่ทอไม่เป็น และยังบอกให้พวกเรากลับไปก่อน ซึ่งเราก็มอบเส้นไหมไว้ให้ แต่แม่คำใหม่มีพื้นฐานการทอผ้าไหม แต่ทอผ้าแพรวาไม่เป็น พอปีต่อมา (พ.ศ.2521) แม่คำใหม่ก็บอกว่า ทอได้แล้ว ในตอนนั้นสมเด็จ พระนางเจ้าฯ ประทับที่วังไกลกังวลหัวหิน ได้รับสั่งให้เชิญชาวบ้านโพนไปที่หัวหิน และเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูการทอผ้าไหมแพรวาที่บ้านโพน กาฬสินธุ์ โดยมีแม่คำใหม่เป็นประธานกลุ่มทอผ้าแพรวาคนแรกของศิลปาชีพ ปัจจุบันบ้านโพนมีรายได้จากการจำหน่ายผ้าแพรวาปีละหลายสิบล้าน โดยเมื่อเดือนมกราคมถึงมิถุนายนที่ผ่านมา ผ้าแพรวาสามารถทำรายได้เข้าหมู่บ้านถึง 48 ล้านบาทเลยทีเดียว”
ด้าน คำใหม่ โยคะสิงห์ วัย 83 ปี บอกเล่าถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เริ่มต้นทอผ้าแพรวาผืนแรกว่าไม่เคยสนใจเรื่องการทอผ้าแพรวามาก่อนเลย ตัวเองไม่ใช่คนบ้านโพน แต่สามีมาเป็นครูอยู่ที่นี่ ตอนย้ายมาอยู่ใหม่ๆ ก็ทำไร่ ทำนา เลี้ยงลูกไปตามประสา จนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นาถ เสด็จฯมาทรงเยี่ยมชาวบ้านที่บ้านโพน ความที่อยากจะไปเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จทั้งสองพระองค์ ก็พยายามหาของมีค่าเพื่อจะไปถวาย ไปขอซื้อผ้าแพรวาจากเพื่อนบ้าน เขาก็ไม่ยอมขายกัน จนได้หมอนขิด จึงนำไปทูลเกล้าฯถวายพระองค์ท่าน พอวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่จากอำเภอ ก็มาเรียกกลุ่มคนที่ถวายผ้าให้ไปพบท่านผู้หญิงสุประภาดากับท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ และได้ให้ตัวอย่างผ้าแพรวาที่ต้องการให้พวกเราทอ โดยให้ไหมมาจำนวนหนึ่งเพื่อให้กลับไปทอผ้าแพรวามาถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ “ตอนนั้นรับปากท่านผู้หญิงมาแล้ว แต่ตัวเองก็ทอไม่เป็น หาคนทอก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใครยอมทำให้ แต่เมื่อรับมาแล้วก็ต้องทำให้ได้ จนสุดท้ายได้ชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง และลองหัดทำด้วยตัวเอง ใครทอลายแบบไหนได้ ก็มาช่วยกันทอจนสำเร็จ ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่วังไกลกังวล อ.หัวหิน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นประธานกลุ่มฟื้นฟูการทอผ้าแพรวาแห่งบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา”
ส่วน บุญชัย ทองเจริญบัวงาม นักวิชาการและหนึ่งในผู้สะสมผ้ากลุ่มชาติพันธุ์แพรวา ได้ให้ความรู้เรื่องผ้าไหมแพรวาว่า เป็นผ้าทอมืออันเป็นเอกลักษณ์ของชาวผู้ไทยหรือภูไท ซึ่งเป็นชนกลุ่มหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในบริเวณแคว้นสิบสอง–จุไทย (ดินแดนส่วนเหนือของลาว และเวียดนาม ซึ่งติดต่อกับดินแดนภาคใต้ของจีน) ต่อมาได้อพยพเคลื่อนย้ายผ่านเวียดนาม ลาว แล้วข้ามฝั่งแม่น้ำโขงเข้ามาตั้งหลักแหล่งอยู่แถบเทือกเขาภูพานทางภาคอีสานของไทย ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ นครพนม มุกดาหาร และสกลนคร โดยยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อ การแต่งกาย และการทอผ้าไหมที่ทอด้วยการเก็บลายจากการเก็บขิดและการจก มีลวดลายโดดเด่น อันเป็นภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ผ้าแพรวาจึงเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มชนที่สืบเชื้อสายมาจากกลุ่มภูไท ซึ่งผ้าแพรวามีความหมายรวมกันว่า ผ้าทอเป็นผืนที่มีขนาดความกว้าง 1 วา หรือ 1 ช่วงแขน ใช้สำหรับคลุมไหล่หรือห่มสไบเฉียง ในผ้าแพรวาผืนหนึ่งจะมีอยู่ประมาณ 10 หรือ 12 ลาย ใช้เส้นไหมในการทอตั้งแต่ 2-9 สี สอดสลับในแต่ละลายแต่ละแถว ลวดลายที่ปรากฏจะประณีตเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั้งผืนผ้า และนิยมทอด้วยไหมทั้งผืน มีสีสัน ลวดลาย ที่หลาก หลาย และบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่ที่มีการทอผ้าไหมแพรวาที่งดงามและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย.
...