โชว์เคสจากแบรนด์เนมหรูระดับโลก GUCCI ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานแสดงนาฬิกายิ่งใหญ่ “Siam Paragon Watch Expo 2012” เพราะถือเป็นครั้งแรกที่แบรนด์แฟชั่นระดับตำนานยอมเปิดเผยเบื้องหลังความลับของการสร้างสรรค์คอลเลกชั่นนาฬิการุ่นเฮอริเทจ GUCCI BAMBOO สู่สายตาแฟนๆเมืองไทย ผ่านนิทรรศการมีชีวิต “Artisan Corner” เพื่อฉลอง 4 ทศวรรษแห่งความสำเร็จ

งานนี้ได้เชื้อเชิญช่างทำนาฬิกาชื่อดังจากอิตาลี  มาสาธิตทุกขั้นตอนหัตถศิลป์ละเอียดอ่อนในการประกอบนาฬิการุ่น BAMBOO ซึ่งสร้างชื่อจากผลงานคิดค้น “กระเป๋าแบมบู” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสุนทรียศาสตร์แห่งแฟชั่นดีไซน์ อันเกิดขึ้นจากไอเดียสร้างสรรค์ท่ามกลางวิกฤติขาดแคลนวัสดุในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เห็นแล้วจะต้องทึ่งว่าคิดได้ไง โดยเฉพาะขั้นตอนเผาปล้องแบมบู ซึ่งถือเป็นศาสตร์และศิลป์ชั้นสูงเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของกุชชี่

ทุกขั้นตอนของการประกอบเรือนเวลาคอลเลกชั่นระดับตำนาน  ล้วนแต่ต้องอาศัยความชำนาญสูงสุด ตั้งแต่เริ่มคัดสรรไผ่พันธุ์ดีสุดของโลก (ส่วนราก) จากแหล่งกำเนิดที่ผ่านการดูแลเป็นเลิศ  เรียวไผ่ที่คัดเลือกคุณสมบัติอย่างละเอียดแล้ว จะถูกตัดเพื่อให้ได้ความยาวตามต้องการ รวมถึงสรรหาช่วงระยะของข้อปล้องที่สวยงาม กระทั่งมาถึงขั้นตอนสุดพิถีพิถันคือ การเผาปล้องแบมบู เพื่อให้ได้สีที่ต้องการ โดยกุชชี่แยกแบม-บูเป็น 3 กลุ่ม ตามโทนสีที่ได้จากการเผาคือ สีน้ำตาล-เข้มอีโบนี่, สีน้ำตาลธรรมชาติ และสีน้ำตาลอ่อน

ขณะที่การดัดโค้ง ต้องใช้ความละเมียดละไม และอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะบุคคลของช่างทำนาฬิกา เพราะอาจเกิดการแตกหักเสียหายได้ง่าย โดยเคล็บลับที่เพิ่มความยืดหยุ่นให้ท่อนแบมบูคือแช่ในน้ำร้อนสักพัก ก่อนที่จะนำมาดัดโค้ง และขัดเกลาเพื่อให้ได้พื้นผิวสัมผัสเนียนเรียบที่สุด จากนั้นจึงบรรจงขึ้นเงาให้โค้งแบมบูทีละชิ้นอย่างประณีต แต่ละโค้งแบมบูจะมีการดามเหล็กเข้าไปในแกนกลางของวงแบมบูเพื่อเสริมความแข็งแรง และคงรูปทรงไม่ให้เปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากปัจจัยภายนอกต่างๆที่มีผลกระทบต่อกรอบโค้งแบมบู โดยทุกขั้นตอนรังสรรค์ขึ้นในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ก่อนส่งไปประกอบเข้ากับตัวเรือนที่กุชชี่ วอทช์ เวิร์กช็อป ในเมืองลาโชซ์-เดอฟองด์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนแห่งความเป็นเลิศด้านนาฬิกา.

...