นิว บาลานซ์ ประกาศเปิดตัวแฟล็กชิปสโตร์ในไทย ตั้งเป้าหวังมอบประสบการณ์สินค้าพรีเมียมและมีคุณภาพ มั่นใจกำลังซื้อยังคงเติบโตต่อเนื่องในโลกยุคหลังโควิด-19 โดยเฉพาะแบรนด์มีจุดแข็งครบทั้งด้านแฟชั่นและกีฬา
ดีพัค โทมา ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด บริษัทผู้ดูแลและบริหารแบรนด์นิว บาลานซ์ ในประเทศไทย กล่าวถึงการเปิดตัวนิว บาลานซ์ แฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมีการนำเสนอสินค้าทั้งในด้านแฟชั่น และกีฬา รวมถึงคอลเลกชัน Made in U.S. ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมสนีกเกอร์
ดีพัค โทมา กล่าวว่า การแตกแต่งร้านมาในแนวคิด “Flex” ซึ่งหมายความถึง ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนการตกแต่งนำเสนอเรื่องราวของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการเปิดสาขาในไทย ดีพัค ยอมรับว่า ถือเป็นย่างก้าวสำคัญสำหรับนิว บาลานซ์ ในการเชื่อมลูกค้าในประเทศไทย และเป็นช่องทางใหม่ที่ผู้บริโภคชาวไทยจะได้สนุกไปกับผลิตภัณฑ์ของนิว บาลานซ์
...
"ในเวลานี้คนไทยให้การตอบรับแบรนด์นิว บาลานซ์ ดีขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสนีกเกอร์ที่มีสไตล์ และอินเทรนด์กับกระแสโลกแฟชั่น เหมาะสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นิว บาลานซ์ กลายเป็นแบรนด์สนีกเกอร์ที่คนไทยเลือกซื้อ"
ขณะที่ การเปิดร้านแฟล็กชิป สโตร์ ในครั้งนี้ของนิว บาลานซ์ ดีพัค โทมาร์ กล่าวว่า ตั้งใจให้เป็นพื้นที่ที่นำเสนอสินค้าพรีเมียม มีคุณภาพ และยังมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า โดยผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมกับผลิตภัณฑ์ของนิว บาลานซ์ ไม่ว่าจะเป็นการถามคำถามกับพนักงานขาย การเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์ และหลักการของนิว บาลานซ์ นอกจากนี้แล้ว ภายในร้านได้กำหนดพื้นที่สำหรับผลิตภัณฑ์พรีเมียมอย่างสนีกเกอร์ Made in USA อีกด้วย
หลังการเปิดตัวสาขาแฟล็กชิปสโตร์ นิว บาลานซ์ มีแผนที่จะเปิดร้านสแตนด์อโลนอีก 8 สาขาภายในช่วงสิ้นปี 2566 โดยสิ้นปีหน้าตั้งเป้าเปิดร้านค้าสแตนด์อโลนให้ได้มากกว่า 20 สาขา และมีแผนกระตุ้นการขายในช่องทางออนไลน์เพิ่มเติมในเดือนธันวาคมนี้
ทางด้านภาพรวมของตลาดกีฬา สนีกเกอร์ และเสื้อผ้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย ดีพัค เปิดเผยว่า เวลานี้น่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และตัวเลขน่าจะเติบโตขึ้นกว่านี้ โดยเฉพาะในโลกยุคหลังโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคกลับมาทำกิจกรรม เล่นกีฬา แข่งขันกีฬาอย่างเต็มที่อีกครั้ง
ดีพัค กล่าวเสริมว่า จากเหตุผลข้างต้นทำให้แบรนด์นิว บาลานซ์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยกลยุทธ์หลังจากนี้ คือการรักษาคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ รักษาความเป็นแบรนด์นิว บาลานซ์ เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ก็เชื่อว่า ความสำเร็จทางธุรกิจก็จะตามมาเอง
“เป้าหมายของเราคือการเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องใหญ่ที่สุด เรามุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ผู้ท้าชิงขั้นสูงสุดในทุกอุตสาหกรรม”