“สยามะเทวาธิราชา เทวาติเทวา มหิทธิกา เทยยรัฏฐัง อนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะเอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สุวัตถิ โหตุ สัพพะทา สยามะเทวานุภาเวนะ สยามะเทวะเตชะสา
ทุกขะโรคะภะยา เวรา โสกา สัตตุ จุปัททะวา อเนกา อันตะรายาปี วินัสสันตุ อะเสสะโต ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง โสตถิภาคะยัง สุขัง พะลัง สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒิ จะ ยะสะวา สะตะวัสสา จะ อายุ จะ ชีวะสิทธิ ภะวันตุ เม”
ข้างต้นนี้คือ คาถาบูชา “พระสยามเทวาธิราช” มีคำแปลความว่า...พระสยามเทวา ธิราชเป็นจอมเทวดา ยิ่งใหญ่กว่าเทวดาทั้งหลาย ทรงมีมหิทธิฤทธิ์ ขอจงอภิบาลรักษาประเทศไทยโดยให้ปราศจากโรคาพาธ อุปัทวอันตราย ความพินาศทั้งหลาย ขอให้ประเทศไทยมีความร่มเย็นเป็นสุข โดยประการทั้งปวง
ด้วยอำนาจสัจจะวาจาที่อ้างถึงพระสยาม เทวาธิราชนี้ ขอจงประทานความสุขสวัสดี จงบังเกิดแก่ประเทศไทยด้วยประการทั้งปวง
ด้วยอานุภาพพระสยามเทวาธิราชและเดชพระสยามเทวาธิราชขอจงขจัดทุกข์ โรคภัย ความโศก ศัตรู อุปัทวะ และอันตรายมิใช่น้อยให้พินาศไปโดยไม่เหลือ ขอชัยชนะความสำเร็จแห่งกิจการทรัพย์ ลาภ ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง ศรี อายุ วรรณะ โภคสมบัติ ความเจริญและยศ มีอายุยืนตลอดหนึ่งร้อยปีขึ้นไป
ความสำเร็จแห่งกิจการงานในความเป็นอยู่จงบังเกิด แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญฯ
เชื่อ...ศรัทธากันเป็นอย่างยิ่งว่าคาถาบูชา “พระสยามเทวาธิราช”...นี้นั้นผู้ที่สวดบูชาเป็นประจำจะเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว มีความร่มเย็นเป็นสุข เจริญในหน้าที่การงาน
พระราชพิธีบวงสรวง “พระสยามเทวา ธิราช” มีกำหนดการประกอบพิธีกรรมในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินไทย ตามคติความเชื่อ...คนไทยมักนิยมทำบุญตักบาตรเลี้ยงพระเนื่องในวันปีใหม่ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณบรรพบุรุษ รวมถึงบูชาเซ่นสรวงเทพยดาอารักษ์ที่เคารพนับถือ
...

การบวงสรวงเป็นธรรมเนียมที่ปรากฏในสมัยรัชกาลที่ 4 เนื่องมาจากพระราชดำริว่า...
“สยามประเทศดำรงความเป็นเอกราช ดำรงความผาสุกยั่งยืนมาตั้งแต่โบราณ แม้หลาย ครั้งหลายคราวจะมีเหตุที่ทำให้บ้านเมืองเพลี่ยงพล้ำข้าศึกศัตรู หรือมีเหตุจะเสียบ้านเสียเมือง แต่ก็รอดพ้นมาได้ทุกครั้ง ก็น่าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทพยดาอารักษ์คุ้มครองให้รอดพ้นภัยอันตรายมาได้ทุกครั้ง”
ตอกย้ำด้วย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง กล่าวไว้ในบันทึกว่า พระสยามเทวาธิราชเริ่มมีเมื่อสมัยก่อนรัชกาลที่ 4 แต่ก่อนพระเจ้าแผ่นดินสมัยนั้นก็บูชาเทวาชื่อนั้นชื่อนี้ที่เป็นญาติผู้ใหญ่เป็นคนสำคัญ ขออย่างนั้นอย่างนี้...ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 ท่านเป็นนักปราชญ์ เป็นนักบาลีก็มาตั้งชื่อใหม่ว่า “พระสยามเทวาธิราช”
หมายถึงว่า “เทวดาทั้งหมดที่รักษา ประเทศสยาม” ทีนี้ถามว่า...ให้คุณให้โทษทางไหน ให้โทษนี้ก็ไม่กราบ ให้คุณนี่ก็ไม่รู้ แต่ท่านเป็นเทวดา
“พระสยามเทวาธิราช” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองไทยเรามาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระองค์มีพระราชดำริว่า...ประเทศไทยมีเหตุการณ์ ที่เกือบจะต้องเสียอิสรภาพมาหลายครั้ง แต่บังเอิญมีเหตุให้รอดพ้นภยันตรายมาได้เสมอ
...ชะรอยคงจะมี “เทพยดา” ที่ “ศักดิ์สิทธิ์” คอยอภิบาลรักษาอยู่
สมควรที่จะทำรูปเทพยดาองค์นั้นขึ้นสักการบูชา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระองค์เจ้าประดิษฐวรการปั้นรูปสมมติขึ้นแล้วหล่อด้วยทองคำแท่ง
ลักษณะแบบเทวรูป ความสูง 8 นิ้ว ทรงเครื่องอย่างเทพารักษ์ ทรงมงกุฎ ประทับยืน พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นในท่าจีบเสมอพระอุระ ประทับในเรือนแก้วทำด้วยไม้จันทน์ มีลักษณะแบบวิมานเก๋งจีน ถวายพระนามว่า... “พระสยามเทวาธิราช”
โปรดเกล้าฯให้ประดิษฐานไว้ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง
พระองค์ทรงเคารพบูชาพระสยามเทวาธิราชเป็นอย่างสูง ทรงถวายเครื่องสักการะเป็นประจำทุกวัน...ทรงถวายเครื่องสังเวยทุก “วันอังคาร” และ “วันเสาร์” ก่อนเวลาเพล...โปรดเกล้าฯให้จัดพิธีสังเวยเทวดาในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งตรงกับ “วันขึ้นปีใหม่” ทางจันทรคติแบบโบราณด้วย
...เป็นที่ร่ำลือกันว่า “พระสยามเทวาธิราช” ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง
คนไทยเราแต่โบราณนานมาเชื่อว่า...มี “เทวดา” ผู้ปกปักรักษาบ้านเมือง

...
“Jaruvat Chanposri” โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง “สงครามคุณไสย”...cr.ทิพยจักร “เพื่อนบ้าน...พยายามทุกทางที่จะข่มจะครอบงำไทย ใช้ทั้งไสยศาสตร์มนต์ดำ พยายามทำอาถรรพณ์ใส่พระสยามเทวาธิราช เวลามาเที่ยวปราสาทในไทยก็มาทำไสยศาสตร์ใส่...การ กระทืบเท้าสามทีบนแผ่นดินไทย บนปราสาทตาควายนั่นก็เป็นการข่มเจ้าที่เจ้าทาง ข่มธรณีสยาม...การทำอาถรรพณ์ใส่สิ่งใดหรือใส่ใครนั้นหากไม่ดูตาม้าตาเรือ ของสะท้อนกลับครับ... ทำต่ำเท่าไหร่สะท้อนความต่ำนั้นเข้าหาตัว... ทุกคนที่เกี่ยวข้อง”
สิ่งที่พวกเราพึงทำได้ในสงครามทางวิญญาณ คือ การภาวนาคาถา “นะโมวิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา” คาถา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เมื่อเราร่วมภาวนาคาถานี้ พระสยามเทวาธิราชก็จะมีพละกำลัง... “แผ่นดินมีพลัง ใจผู้ภาวนาก็ มีพลัง ประเทศชาติก็จะชนะภัย คนคิดร้ายก็จะแพ้ภัยตัวเอง”
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม