“โอมชุมพร จุติ อิทธิกะระนังสุขโข นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะ กะสะ มาอะอุ” คำบูชากรมหลวงชุมพรฯ มีความ หมายอย่างยิ่ง นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย อธิบายสรุปความไว้ว่า...

“ข้าพระพุทธเจ้าขอนมัสการพระรัตนตรัย ขอถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึกกับขอน้อมไหว้บูชา พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย แม้สิ้นพระชนม์แล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขอบูชาด้วยการปฏิบัติตนนอบน้อมพระพุทธองค์

.....ดำเนินชีวิตด้วยการไม่คบคนพาล สังสรรค์บัณฑิต ทำดีเป็นนิตย์ คิดถึงอนิจจังตลอดไป ขอพระองค์โปรดประทานความสำเร็จ ความสุขสมหวัง แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเทอญ”

นาวาเอกทองย้อย ย้ำว่า...รู้ว่าดีแล้วปฏิบัติได้ผลชะงัดยิ่งกว่าท่องคำบูชา

ศรัทธาความเชื่อคาถาบูชาเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้คนไม่น้อยบูชาเพื่อขอพรเสริมดวง เมตตา แคล้วคลาด ปลอดภัย...กล่าวพร้อมตั้งจิตอธิษฐาน ขอพรตามความปรารถนา คำแนะนำในการบูชา ให้จุดธูป 9 ดอก พร้อมตั้งน้ำ 1 แก้ว...บูชาในวันอังคาร (วันคล้ายวันสิ้นของเสด็จเตี่ย) ยิ่งเป็นมงคล หากมีโอกาสไปสักการะที่ศาลกรมหลวงชุมพร นิยมถวาย “หมาก พลู พวงมาลัย บุหรี่ซิก้า น้ำแดง”

...

ว่ากันตามความเชื่อของผู้ศรัทธา สำหรับชาวเรือ ชาวเล ชาวประมงทั่วทุกภูมิภาคของไทย “เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” มิได้เป็นเพียงแค่พระราชวงศ์ ผู้วางรากฐานกองทัพเรือไทย แต่คือ “เทพเจ้าประจำทะเล” ผู้ที่พวกเขาศรัทธา เคารพบูชา และยึดเหนี่ยวจิตใจในยามต้องฝ่าคลื่นลมกลางทะเล

...ขอพรได้ทั้งเรื่องคุ้มครองชีวิต ปัดเป่าโรคภัย ให้โชคลาภ และการค้าการเดินทาง

ชาวประมงจำนวนไม่น้อยเล่าตรงกันว่าในคืนทะเลแปรปรวน ฝนกระหน่ำ คลื่นลมแรงบางครั้ง “เรือเกือบล่ม” แต่กลับมีแสงสว่างแปลกๆปรากฏขึ้น บางรายบอกว่าเห็น “ชายสูงวัยในชุดราชนาวี” ยืนโบกมือริมดาดฟ้า หลังจากนั้น...คลื่นสงบลงทันทีและพวกเขากลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย

เรื่องราวแบบนี้ถูกเล่าซ้ำจากรุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นความเชื่อว่าเสด็จเตี่ยคอยคุ้มครองลูกเรือกลางทะเล โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งจิตระลึกถึงพระองค์ท่าน ความเชื่อของชาวประมง...ก่อนลงทะเลต้อง “ไหว้เสด็จเตี่ย” โดยก่อนจะออกเรือ...ชาวประมงจะตั้งโต๊ะบูชาหรือหันหน้าไปทางทิศที่ตั้งศาลเสด็จเตี่ยและกล่าวคำอธิษฐานว่า...“ขอให้เสด็จเตี่ยคุ้มครองลูกหลาน อย่าให้เจอคลื่นร้าย ไต๋เจ็บ ไต๋ตาย ขอให้ปลามา น้ำดี กลับฝั่งปลอดภัย”

นอกจากนี้แล้วบางคนยังพกพระบรมรูปเล็กๆ หรือเหรียญเสด็จเตี่ยติดตัว บางคน...ก็สวมไว้ที่คอ บ้างฝังในหัวเรือ บ้างเก็บในหิ้งบูชาประจำลำเรือ เมื่อรอดจากอันตราย...จะกลับมาแก้บนด้วยของไหว้ เช่น หมาก พลู ผลไม้ พวงมาลัย หัวหมู หรือแม้กระทั่งยิงปืนขึ้นฟ้าสามนัด เพื่อ “สลุต” แด่เสด็จเตี่ย

จุดศรัทธาสำคัญของชาวเรือ ศาลเสด็จเตี่ย วัดเขตอุดมศักดิ์ อ.เมือง จ.ชุมพร (ศาลหลัก), ศาลเสด็จเตี่ย แหลมพันวา จ.ภูเก็ต, ศาลเสด็จเตี่ย บ้านปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช, ศาลเสด็จเตี่ย เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

และ “หิ้งบูชาเสด็จเตี่ย” บนเรือประมงหลายหมื่นลำทั่วไทย

คำบูชาเสด็จเตี่ย (แบบชาวเรือนิยมใช้) นะโม 3 จบ ข้าพเจ้าขอกราบบูชาเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์โปรดเมตตาคุ้มครองลูกหลานเดินทางปลอดภัย พบปลา เจอน้ำดี มีโชคมีลาภ กลับเข้าฝั่งด้วยสวัสดิภาพเทอญ

...

พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆว่า “เสด็จเตี่ย”

ตามบันทึกตอนหนึ่งของทหารเรือระบุว่า เสด็จในกรมฯมีพระเมตตาต่อนักเรียนนายเรือยุคแรกๆที่จำนวนหนึ่งมีอายุไล่เลี่ยกับพระองค์ ที่ลำบากใจในการใช้ราชาศัพท์ และอีกจำนวนหนึ่งก็เยาว์วัย ซึ่งพระองค์ทรงรักและเมตตาดั่งลูกหลาน จึงทรงใช้คำแทนพระองค์ว่า...“เตี่ย”

นอกจากนี้แล้ว “กรมหลวงชุมพร” สมัยที่ออกไปรักษาชาวบ้าน ทรงวางพระองค์เป็นหมอชาวบ้านธรรมดาโดยมีชื่อว่า “หมอพร” ไม่ประสงค์ให้ใครเรียกพระองค์ว่ากรมหลวงชุมพร และชาวจีนย่านสำเพ็งซึ่งมีความรัก ความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมากก็ได้เรียกขานพระองค์ว่า “เตี่ย” ซึ่งหมายถึง “พ่อ”

กระนั้นแล้วความประสงค์ของพระองค์ท่านที่มักเรียกแทนพระนามว่าเตี่ยก็เพราะเรียกแล้วให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับชาวบ้าน...โดยมีหัวใจสำคัญเชื่อมโยงไปถึงสำนึกในความรักชาติ รักแผ่นดินบ้านเกิด

บันทึก “กรมหลวงชุมพร” ในเรื่องราวข้างต้นนี้มีว่า กู...กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยมหาราช ขอประกาศให้รับรู้ไว้ว่า...แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษ ได้เอาเลือดเอาเนื้อเอาชีวิตแลกไว้

ไอ้อีมันผู้ใด คิดชั่วร้ายทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ฤา กระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว

ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตรให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยามอันเป็นที่รักของกู

ตราบใดที่คำว่า “อาภากร” ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาผืนแผ่นดินสยามของกู

ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้เรากำเนิดมา มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น

แผ่นดินใดที่ให้ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้... “ลบหลู่”.


รัก-ยม

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม