ประเพณีรับบัว วัดบางพลีใหญ่ในจังหวัดสมุทรปราการคือภาพสะท้อนของศรัทธาที่ไม่มีวันจาง...แม้โลกเปลี่ยน เทคโนโลยีรุดหน้า แต่การ “โยนดอกบัวหนึ่งดอก” จากใจยังคงสื่อถึงความเคารพในพระพุทธศาสนาและพลังศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตที่ฝังรากในใจผู้คนเสมอมา
“ประเพณีรับบัว...คือการโยนศรัทธาใส่สายน้ำ แล้วรับกลับมาเป็นพลังใจทั้งปี”
ทุกปีในวันก่อนวันออกพรรษา ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จะมีประเพณีหนึ่งที่ไม่มีที่ไหนในโลกเหมือน...คือ “ประเพณีรับบัว” หรือ “โยนบัว” พิธีศักดิ์สิทธิ์ที่รวม “ความศรัทธาในพุทธศาสนา” กับ “ตำนานหลวงพ่อโต” และ “วัฒนธรรมลุ่มน้ำเจ้าพระยา” เข้ากันไว้อย่างกลมกลืนและเปี่ยมมนต์ขลัง
ประเพณีนี้จัดขึ้นปีละครั้งในช่วงวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 โดยมีขบวนเรือหลวงพ่อโต อัญเชิญรูปจำลององค์พระล่องมาตามคลองสำโรง ผู้คนสองฝั่งคลองจะตั้งแถวแน่นตลอดระยะทางหลายกิโลเมตร
เพื่อรอ “โยนดอกบัว” ลงบนเรือหลวงพ่อโต เพื่อขอพร เสริมบุญ เสริมสิริมงคล
“ดอกบัว”...เป็นสัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนา การโยนดอกบัว คือการบูชาพระ พุทธเจ้าผ่านรูปจำลองขององค์หลวงพ่อโต ถือเป็นการแสดงความศรัทธาในรูปแบบหนึ่งที่งดงาม
และ “ถ้าโยนลงเรือได้” เชื่อกันว่าจะมีโชคลาภ ปลอดภัยตลอดปี
...
น่าสนใจว่าประเพณีรับบัวไม่ได้เป็นเพียงงานบุญหรืองานวัดธรรมดา หากแต่เป็น “พิธีร่วมจิตของชุมชน” ที่สืบสานกันมาหลายชั่วอายุคน ผู้คนในพื้นที่ต่างเข้าร่วมงานนี้อย่างสมัครสมานสามัคคี...
“บางคนโยนดอกบัวเพื่อขอพรให้หายป่วย บางคนโยนให้พ้นทุกข์จากหนี้สิน บางคนโยนเพื่อบูชาคุณบิดามารดาที่ล่วงลับ” ...ตอกย้ำทุกความตั้งใจ ทุกความศรัทธา ต่างล่องรวมลงในสายน้ำ ที่ไหลผ่านวัดบางพลีใหญ่ในไปสู่ใจผู้ศรัทธา
“พระลอยน้ำ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ...แต่เป็นเรื่องของบุญนำพา และชาติภพที่รอเวลามาเสริมใจคน” คำบอกเล่าจากคุณตาเจือ วัย 90 ปี ชาวบางพลี
เล่ากันอีกว่าสมัยก่อนชาวบ้านที่เคยมีเคราะห์หนัก หรือบ้านแตกสาแหรกขาด เมื่อมากราบหลวงพ่อโต และขอบนขอให้ชีวิตดีขึ้น บางรายก็พลิกฟื้นทันตาเห็น...
อีกทั้งยังมีผู้คนมากมายที่ “ถูกหวยจากเลขเรือ” ที่จอดหน้าวัด จนเกิดธรรมเนียม “เอาเลขเรือมาลูบ...เอาเซียมซีมาสั่น” ทุกสิ้นเดือน
ในคืนฝนตกหนัก เคยมีผู้พบเห็น “แสงเรือง” จากองค์พระราวกับมีเปลวเทียนล้อมผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าเป็นสัญญาณว่า...องค์หลวงพ่อกำลังปรากฏอิทธิฤทธิ์คุ้มครอง?
ตำนานเล่าขาน “หลวงพ่อโต” แห่งวัดบางพลีใหญ่ใน มิใช่เพียงพระพุทธรูปโบราณ แต่คือสัญลักษณ์ของความหวังของคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า คือพลังศรัทธาที่ลอยมาตามน้ำ หยั่งรากในแผ่นดิน และยังคงส่องแสงแห่งเมตตาไม่เคยเสื่อม “แม่น้ำพัดพาหลวงพ่อมา แต่ศรัทธา... พาหลวงพ่ออยู่กับเราไปตลอดกาล”
ในอดีตกาลเล่าขานกันว่า...มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ลอยตามสายน้ำมา 3 องค์ ซึ่งต่อมากลายเป็นที่เคารพในหลายท้องถิ่น ได้แก่ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม (สมุทรสงคราม), หลวงพ่อโสธร (ฉะเชิงเทรา) และ หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน (สมุทรปราการ)
ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อองค์พระลอยมาถึงคลองบางพลีมีแสงสว่างเรืองรอง ชาวบ้านจึงช่วยกันนำขึ้นฝั่งและประดิษฐานไว้ที่วัดบางพลีใหญ่ใน เชื่อศรัทธากันเป็นอย่างยิ่งว่าท่านเป็น “พระพุทธรูปมีชีวิต” มีเมตตาและปาฏิหาริย์แก่ผู้ศรัทธาอย่างแท้จริง
บางตำนานก็เล่าไว้ว่า...ครั้งหนึ่งในอดีตกาลมีพระพุทธรูป 3 องค์ลอยน้ำมาจากตอนเหนือ ไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นผลจากสงครามหรือการอพยพศาสนวัตถุ โดยพระพุทธรูปเหล่านี้ลอยมาตามลำน้ำ และ “แยกย้ายกันหยุด” ในสถานที่ที่กลายเป็นวัดสำคัญของแต่ละจังหวัด...หลวงพ่อโตลอยมาหยุดที่คลองสำโรง
และชาวบ้านบางพลีพบว่า “ไม่สามารถชักลากให้ลอยไปไหนได้” เหมือนมีพลังเหนือธรรมชาติเหนี่ยวรั้งไว้ จึงอัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ ณ วัดบางพลีใหญ่ใน และกลายเป็นศูนย์รวมศรัทธานับแต่นั้น
“หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน” จึงเชื่อได้ว่าเป็นตำนานกลางสายน้ำ ศรัทธากลางใจคนสมุทรปราการ...“เหนือสายน้ำบางพลี มีพระลอยมา แต่กลับหยุดอยู่ตรงใจกลางศรัทธานั่นคือปาฏิหาริย์”
“หลวงพ่อโต” วัดบางพลีใหญ่ใน (พระพุทธรูปปางมารวิชัย) เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทองขนาดใหญ่ ศิลปะสุโขทัยผสมอยุธยา ประดิษฐานภายในพระอุโบสถของวัดบางพลีใหญ่ใน
...
สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ราวปี พ.ศ.2310 นับกว่า 258 ปีล่วงมาแล้ว
ผู้ศรัทธามีความเชื่อว่า “หลวงพ่อโต” มีพุทธานุภาพหลายด้าน...เมตตา ค้าขายรุ่งเรือง มีพ่อค้าแม่ค้าหลายรายมาบนบานให้ธุรกิจดี เมื่อสมหวังก็กลับมาแก้บนด้วยละครชาตรีและข้าวต้มมัด...ปกป้องภัยพิบัติ ในอดีตเล่าว่าช่วงน้ำท่วมใหญ่ หลวงพ่อโตช่วยให้ชาวบ้านรอดจากกระแสน้ำรุนแรงโดยไม่มีใครเสียชีวิต
นับรวมไปถึงบนบานขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ หลายคนมาขอในเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สูงวัย เชื่อกันว่าถ้าได้อธิษฐานด้วยจิตศรัทธาบริสุทธิ์ โรคจะบรรเทาเบาบางลงไปได้ นำไปสู่ศรัทธาที่ไม่สิ้นสุด
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม