วลีฮิต “แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้ว ไม่ตายโหง” ประโยคนี้แรกเริ่มเดิมที มาจากคนกู้ภัยที่เล่าต่อๆกันมาว่า ตั้งแต่เก็บศพคนตายมา ไม่เคยเห็นมีคนห้อยพระหลวงปู่ทวดตายโหงสักคน
พระหลวงปู่ทวดมีพุทธคุณครอบจักรวาล แต่คนส่วนใหญ่ที่แขวนหรือเคารพบูชามักจะพูดถึง ประสบการณ์แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุและอุบัติภัยเสียเป็นส่วนใหญ่
ยอดอมตะเถระแห่งสยาม “หลวงปู่ทวด” วัดช้างให้ หากมีใครกล่าวถึงเชื่อว่าคนไทยทั่วประเทศคงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะท่านคือพระผู้มีอภิญญาอันแก่กล้า
“หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด”...ได้ชื่อว่าเป็นพระอริยสงฆ์เก่าแก่ ผู้เชี่ยวชาญทั้งไสยเวท... พุทธศาสตร์แห่งกรุงศรีฯ เป็นที่ศรัทธาและเคารพบูชามากที่สุดรูปหนึ่งของประเทศไทย
“หลวงปู่ทวด” เดิมชื่อ “ปู” เกิดวันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2125 ปีมะโรง ณ หมู่บ้านสวนจันทร์ ต.ชุมพล อ.จะทิ้งพระ จ.สงขลา โดยสมณศักดิ์สุดท้ายของท่าน คือ “สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์”…ตลอดชีวิตตั้งแต่บวชจนสิ้นสังขารไป ท่านใช้จีวรเพียง 4 ชุดเท่านั้น
นฤดล นาคำมูล หรือ “หมึก” อายุ 46 ปี เจ้าของร้าน ร้านพี่หมึก (ไก่โอ่ง) ถนนบางนาตราด ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ สืบสานตำนานความอร่อยไก่อบโอ่งมานาน 20 ปีเต็มแล้ว เขาคนนี้มีเรื่องราวประสบการณ์เฉียดตาย รอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์มาบอกเล่าสู่กันฟัง
พระเครื่องในคอห้อยติดตัวสะท้อนความศรัทธาที่มีอยู่มากล้น องค์แรก...หลวงปู่ทวด หลังเตารีด ปี 05 หาเช่าบูชามาด้วยราคาไม่น้อย ถัดมา...เหรียญ เสมาหลวงปู่ทิม ปี 18 แล้วก็เหรียญเจ้าสัวสองเนื้อทองแดง
...

ทั้งสามองค์ได้มาไม่พร้อมกันครับ แต่ที่เป็นเรื่องเล่าสำคัญ ทำให้มีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ มีศรัทธาอย่างยิ่งในหลวงปู่ทวดครับ ครั้งหนึ่งเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว...ปลายปี 2565 ขี่บิ๊กไบค์ออกทริปบ้านเพื่อน จังหวัดกาฬสินธุ์ ขี่กันไป 5-6 คัน ผมขับออกมาเลนขวาสุดความเร็วมากพอดู วิ่งออกมาจากปั๊มน้ำมัน...นำมาเป็นคันแรก
แล้วอยู่ๆ แว่บหนึ่งในสมองก็มีคนพูดกับเรา “เบานะ...ยกคันเร่งเบาๆให้ถอนคันเร่ง”
สุ้มเสียงที่เราได้ยินเป็นผู้ชาย มีอายุอยู่นะพอเราถอนเบาคันเร่ง...ปรากฏว่าน้องอีกคันที่ขี่ตามกันมาก็ขับแซงสวนดิ่งตรงไปข้างหน้า พอพ้นรถผมไปเท่านั้นแหละครับ...
โชคร้าย...จังหวะเดียวกันก็มีรถขับข้ามเกาะกลางถนน เสียหลักมาชนเข้าอย่างจัง
รถน้องชนประสานงาเข้าเต็มๆ ตัวลอย...บาดเจ็บสาหัสหนักมากๆ กระดูกหัก 5 ท่อน...โชคดีไม่เสียชีวิต แต่ก็รักษาตัวอยู่นานเพิ่งจะกลับมาเดินได้เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ทุกวันนี้ยังมีคลิปจากร้านข้างทางอยู่เลยครับ อุบัติเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ทุกขณะเวลาอย่างไม่น่าเชื่อ ที่สำคัญ...เป็นเสี้ยววินาทีเป็นวินาทีตายเลยทีเดียว
ถ้าผมไม่ผ่อนเบาคันเร่ง...ก็ต้องเป็นผมแน่นอนที่ต้องชนและอาจไม่รอด เพราะชนเข้าเต็มๆ
“จังหวะที่เราผ่อนคันเร่งและเบรกตอนเกิดอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นเร็วมากๆ ที่สำคัญ...เรากดเบรกเต็มที่ กดแบบสุดๆ...เบรกแรงขนาดที่ว่าซีลโช้กคู่หน้าแตกกันเลยทีเดียว”
เพื่อนๆเห็นแล้วขับมาขนาดนี้ยังคิดว่ายังไงก็เบรกไม่ทัน เอาไม่อยู่แน่ๆ...แต่ที่ทันเพราะเราถอนคันเร่งมาก่อนแล้วในเสี้ยววินาทีเบรกก็เลยเอาอยู่ ขนาดถนนมีทรายเยอะนะ... เบรกขนาดนั้นรถก็ไม่ล้มด้วย
ภาพจำ...รถยนต์คันที่ข้ามเกาะมาห่างรถเราไม่ถึงเมตร รถน้องคันที่ชนแล้วกระเด็นมาก็มาอยู่ติดด้านหน้ารถผมเลย นึกถึงทุกครั้ง...ก็กลับมาคิดทุกครั้ง ถ้าไม่มีเสียงกระซิบ ต้องเสียชีวิตตายคาที่แน่นอน

สภาพดินฟ้าอากาศก็ไม่ใช่โพล้เพล้...ค่ำมืด เหตุเกิดช่วงบ่ายโมงแดดจ้าๆ ทัศนวิสัยก็ดีชัดเจน แต่ก็เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน รถเสียหลักขับข้ามเลนเข้ามาชนเอาได้ เสียงชนกันดังสนั่น...น่ากลัวมาก
เราเห็นทุกอย่าง วันนี้ภาพในวันนั้นก็ยังติดตาเราอยู่...และเมื่อต้นปีก็ตัดสินใจขายรถไปแล้วเลิกขี่บิ๊กไบค์ นี่คือศรัทธาในองค์ “หลวงปู่ทวด” อย่างเดียว...หมึกยังเล่าให้ฟังอีกว่า ก่อนออกทริปวันนั้น ตอนกลางคืนเตรียมพระไว้ 5 องค์ แต่วินาทีสุดท้ายก่อนจะเดินทางก็หยิบหลวงปู่ทวดขึ้นคอองค์เดียว
...
คิดในใจ...อุบัติเหตุเฉียดตายนี้ ถ้าไม่แขวนหลวงปู่ทวด ไม่รอดแน่ๆ
อีกครั้งไปออกทริปอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ใส่เสื้อการ์ดปกติ คอห้อยหลวงปู่ทวด...เสื้อการ์ดค่อนข้างแน่น แต่ขับๆไปก็รู้สึกว่าพระในคอสั่น สั่นมากๆ เข้าจนรู้สึกว่าพระร่วง...หลุดจากคอแล้ว ติดอยู่ในเสื้อ

ก็ให้สัญญาณเพื่อนร่วมทริป ขอจอดแวะข้างทาง ถอดเสื้อดูปรากฏว่าพระก็ยังห้อยอยู่ที่คอปกติ แต่ความรู้สึกนั้น...พระสั่นแรงมากๆครับ นี่ก็อาจเหมือนเป็นการเตือนให้เราระวัง ทริปนั้นก็รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี...ขับขี่ระวังกันมากเป็นพิเศษ...ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นร้ายแรง ทุกคนกลับบ้านกันอย่างปลอดภัย
“เพื่อนๆก็ว่า...สงสัยหลวงพ่อท่านเตือน ให้เราระวังตัว”
สองครั้งนี้แหละที่เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ เกิดขึ้นกับตัวอย่างไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า...ศรัทธาที่ชัดที่สุดก็คือเหตุการณ์อุบัติเหตุรถชน เป็นเหตุการณ์แคล้วคลาดที่เหลือเชื่อสำหรับผม
“หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” ตามบันทึกประวัติมีอยู่หลายตำนานด้วยกัน เล่าสืบต่อๆ กันมามีอยู่ว่า วันหนึ่งมีโจรสลัดแล่นเรือเลียบมาตามฝั่ง เห็นสมเด็จพะโคะ หรือหลวงปู่ทวดเดินอยู่ มีลักษณะแปลกกว่าคนทั้งหลาย จึงใคร่จะลองดี โจรสลัดจอดเรือ แล้วจับสมเด็จพะโคะไป เมื่อเรือแล่นมาได้สักครู่ เกิดเหตุเรือแล่นต่อไปไม่ได้ ต้องจอดอยู่หลายวัน จนในที่สุด “น้ำจืด” หมดลง โจรสลัดเดือดร้อน

สมเด็จพะโคะสงสาร จึงเอาเท้าซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเล เกิดเป็นประกายโชติช่วง น้ำทะเลกลายเป็น “น้ำจืด” อย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง ด้วยเหตุนี้เอง โจรสลัดจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา กราบไหว้ขอขมา แล้วนำหลวงปู่ทวดขึ้นฝั่ง ตั้งแต่นั้นมาประชาชนจึงพากันไปกราบไหว้บูชากัน เป็นจำนวนมาก
วันเวลาผ่านมาถึงวันนี้คลื่นกระแสศรัทธายังไม่จางหาย อย่าง “หลวงปู่ทวด” ที่วัดช้างให้ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ก็มีผู้คนเดินทางไปสักการะกันเป็นจำนวนมาก...ไหว้พระ...ปิดทอง...สวดมนต์ “นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อะติภะคะวา” 3 จบแล้ว มีโอกาสก็จุดประทัดถวายหลวงปู่ฯ และไม่ลืมดูเลขเด็ด
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้... “ลบหลู่”.
รัก-ยม
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม
...