แม้ว่าสงกรานต์จะจบลงไปแล้ว แต่ประเพณีสงกรานต์ของชาวมอญยังจัดต่อเนื่องถึง 7 วัน สืบสานประเพณีดั้งเดิมของชาวมอญที่ส่งต่อถึงปัจจุบัน โดยช่างภาพไทยรัฐออนไลน์ไปเก็บภาพบรรยากาศความสนุกสนานมาให้ชมกัน
ประเพณีสงกรานต์ ชาวมอญจะถือเอาวันสงกรานต์เป็นเทศกาลสำคัญ และมีการจัดงานบุญถึง 7 วัน ระหว่างวันที่ 13-19 เมษายนของทุกปี และเนื่องจากเดือนเมษายนเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของปี กิจกรรมที่กระทำกันในเดือนนี้ คือ รดน้ำดำหัว ทำข้าวแช่เพื่อรับประทานคลายร้อน โดยชาวบ้านจะทำข้าวแช่ กวนกะละแม อาหารคาวหวาน พร้อมหมากพลู ไปทำบุญตามวัดต่างๆ เรียกว่า “เปิงสงกรานต์” ในวันที่ 13, 14 และ 15 ผู้เฒ่าผู้แก่จะอยู่วัดถือศีล ส่วนวันที่ 16 นั้นจะสรงน้ำพระ รดน้ำเคารพผู้ใหญ่ การละเล่นทะแยมอญ บ่อนสะบ้า เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 ที่วัดบางกระดี่ บางขุนเทียน
พิธีสงกรานต์ของชาวมอญจะเริ่มจากการทำบุญฉลองสงกรานต์ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญๆ คือ การแห่ข้าวแช่ แห่น้ำปลาหวาน ปล่อยปลา แห่สงกรานต์ และจบลงด้วยการทำบุญกลางบ้าน และรำเจ้าประจำปีของแต่ละหมู่บ้าน
...
คนมอญถือกันว่าประเพณีนี้เป็นการขึ้นศักราชใหม่ จึงจัดให้มีการเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการทำบุญรักษาศีล เพื่อเป็นการต้อนรับศกใหม่ และเพื่อบูชาพระรัตนตรัย และนางสงกรานต์ การเตรียมการจะเริ่มก่อนวันสงกรานต์ประมาณ 1 สัปดาห์ โดยจะมีการเตรียมกวนขนมกาละแม ซึ่งเป็นขนมที่ต้องใช้แรงงานคนมากในการทำ ชาวบ้านจะช่วยกันกวนกะละแมในกระทะเหล็กขนาดใหญ่ ใช้เวลากวนประมาณ 4 ชั่วโมงต่อกระทะ
นอกจากกะละแมแล้ว จะมีการกวนข้าวเหนียวแดง หรือข้าวเหนียวแก้ว ซึ่งเป็นขนมสำหรับทำบุญในเทศกาลนี้เช่นกัน แล้วยังมีการทำ “คะนอบจิน” หรือขนมจีน ซึ่งเป็นอาหารของมอญแต่โบราณมาแล้ว เพื่อเตรียมทำบุญด้วย แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ข้าวแช่ ซึ่งมอญเรียกว่า “เปิงฮงกราบ”
ในเช้าวันที่ 13 เมษายน ชาวบ้านจะจัดเตรียมข้าวแช่ใส่สำรับ โดยนิยมใส่ในหม้อดินเผา เพราะจะทำให้ข้าวแช่เย็นและมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน และในสำรับก็จะมีอาหารที่ใช้รับประทานกับข้าวแช่ ชาวบ้านจะนำข้าวแช่นี้ไปถวายพระสงฆ์ที่วัดตั้งแต่เช้าตรู่ ขณะเดียวกันที่บ้านก็จะทำพิธีบูชานางสงกรานต์ที่มอญเรียกว่า “มิ๊ห์ซงกราน” ด้วยการสร้างศาลเพียงตาที่บริเวณหน้าบ้าน แล้วนำข้าวแช่พร้อมเครื่องบูชามาวางไว้
การทำบุญในวันสงกรานต์จะทำกัน 3 วัน คือวันที่ 13, 14 และ 15 เมษายน ในระหว่างการทำบุญนี้ จะมีการส่งสำรับให้แก่ญาติและผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือด้วย โดยลูกหลานหรือผู้น้อยจะนำสำรับอาหารไปไหว้ผู้ใหญ่ เพื่อเป็นการแสดงความคารวะ ซึ่งปกติจะทำกันปีละ 2 ครั้ง คือ ในวันสงกรานต์ และวันออกพรรษา
ส่วนในตอนเย็นและเวลากลางคืนจะมีการละเล่นตามหมู่บ้านต่างๆ โดยส่วนมากแล้วจะจัดเป็นที่เล่นสะบ้ามอญและการแสดงทะแยมอญ การละเล่นสะบ้าเป็นการเปิดโอกาสให้หนุ่มๆ สาวๆ ได้มีโอกาสรู้จักและสนิทสนมกัน แต่ทั้งนี้ก็เป็นการกระทำที่อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ เพราะสถานที่เล่นสะบ้านั้นจะจัดขึ้นในบริเวณหมู่บ้าน
...
หลังวันที่ 15 เมษายนมาแล้ว จะมีการแห่นางสงกรานต์ ปล่อยปลา เช่น ที่พระประแดง ทางเกาะเกร็ดจะมีการแห่น้ำหวานมาบรรจุขวดไปถวายพระตามวัดต่างๆ โดยมีการจัดขบวนแห่กันอย่างยิ่งใหญ่
...
คนมอญจะยังคงทำบุญและสนุกสนานกันต่อไปจนถึงวันทำบุญกลางบ้าน สรงน้ำพระ และแห่หางหงส์ การทำบุญกลางบ้าน หรือที่ชาวมอญเรียกกันว่า “ป๊ะห์กาวยา อาโต้ห์กวาน” เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวบ้านและหมู่บ้านนั้น มีการเลี้ยงพระในตอนเช้า ชาวบ้านในหมู่บ้านจะมาช่วยกันจัดอาหารมาถวายพระและเลี้ยงกันในหมู่ชาวบ้าน เมื่อทำบุญกลางบ้านแล้ว การเฉลิมฉลองการขึ้นศักราชใหม่ จะมีการทำบุญต่อเนื่องไปอีกด้วยการจัดพิธีทำบุญสรงน้ำพระ
เนื่องจากสงกรานต์เป็นช่วงที่อากาศร้อนจัดมาก ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดทำบุญสรงน้ำพระ ซึ่งในการสรงน้ำพระนี้ ชาวบ้านจะทำพิธีสรงน้ำพระพุทธรูปและพระเจดีย์ที่สำคัญประจำวันเกิด หลังจากการสรงน้ำพระ ชาวบ้านจะมาร่วมกันแห่หางหงส์ ซึ่งหงส์นี้จะทำขึ้นด้วยผ้าสีสันคล้ายๆ ธง ยาวประมาณ 2-3 วา ชาวบ้านจะช่วยกันทำก่อนงานแล้ว เมื่อถึงวันงานจะนำมาเข้าขบวนไว้ที่เล้าหงส์ในบริเวณวัด
...
โดยวัดมอญส่วนใหญ่จะมีเล้าหงส์อยู่หน้าวัด ในทุกๆ ปีเมื่อมาถึงเทศกาลสงกรานต์ จะต้องมีการนำหางหงส์ขึ้นประจำเล้าหงส์ด้วยการจัดให้มีการแห่หางหงส์จากหมู่บ้านมาที่วัด และช่วยกันชักเอาหางหงส์นั้นขึ้นลอยสู่ยอดเล้าหงส์ และก่อนจะถึงขั้นนั้นชาวบ้านจะทำพิธีบูชาพระเจดีย์ หรือพระพุทธรูปสำคัญของวัด พร้อมทั้งมีการสวดมนต์ จากนั้นจึงช่วยกันชักหางหงส์ขึ้นสู่ยอดเล้า
เมื่อการทำบุญต่างๆ ผ่านมาจนถึงวันที่มีการสรงน้ำพระนี้แล้ว คนมอญทั้งหลายก็เชื่อว่าความร่มเย็นเป็นสุข ความเป็นสิริมงคลทั้งหลายมีพร้อมอยู่ในหมู่บ้านและเป็นของชาวบ้านเหล่านั้น อันเป็นผลบุญที่ได้จากการประกอบการกุศล ทั้งคุณพระรัตนตรัยและเทพยดาอารักษ์ปกปักรักษาให้มีความสุข ความเจริญ ร่มเย็น การเฉลิมฉลองศกใหม่จึงเป็นนิมิตหมายอันดีงาม ที่จะทำให้ทุกคนมีชีวิตอย่างสงบสุขตลอดไป
ข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี