"วัดฉลอง” หรือชื่ออย่างเป็นทางการ “วัดไชยธาราราม”...ถือได้ว่าเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อ “หลวงพ่อแช่ม” หรือ “พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี” อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งชาวเมืองภูเก็ตมีความเลื่อมใสศรัทธา

จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของท่าน นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาจจะกล่าวได้ว่าใครไปภูเก็ตก็ต้องแวะเข้าไปกราบไหว้สักการบูชา ไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น หากแต่ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวก็ยังต้องตรงดิ่งเข้าไปชื่นชมความงามของวัดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

ย้อนอดีตวันวานดั่งฝันร้าย วันที่ 26 ธันวาคม 2547...แผ่นดินไหว ณ ท้องทะเล อันดามัน เกิดคลื่นยักษ์สึนามิโหมเข้าบริเวณชายฝั่ง ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง สตูล

“ภูเก็ต” ถือว่าเป็นจังหวัดหน้าด่าน

ภัยพิบัติในครั้งนั้นสร้างความเสียหายและเดือดร้อนถึง 326 หมู่บ้าน 54,672 คน ทั้งนี้ไม่ได้นับรวมผู้ที่เสียชีวิต 5,374 คนกับสูญหายไปอีก 3,132 คน และถ้าหากประเมินตัวเลขความเสียหายก็มีมูลค่าเป็นเงินมากถึง 17,508.67 ล้านบาท ทั้งยังไม่นับรวมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่เสียหายอีกราวๆกว่าพันล้านบาท

...

อีกทั้งยังมีผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมที่ล่มสลาย ซึ่งประเมินค่ามิได้

ช่วงแห่งคาบเวลาที่เกิดเหตุ “ชาวภูเก็ต” ส่วนหนึ่งพากันหลบภัยแบบหนีตายไปแน่นขนัดที่ “วัดฉลอง” หรือ “วัดไชยธาราราม”...ด้วยศรัทธาและเชื่อมั่นว่าบนผืนแผ่นดินแห่งนี้ปลอดภัย รอจนกระทั่งสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ สงบร่มเย็นแล้วจึงพากันแยกย้ายกลับถิ่นฐาน

@@@@@@

“วัดฉลอง”...ผู้คนที่มีศรัทธามากล้นต่างเชื่อกันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานเก่าแก่อยู่ 3 อย่าง นั่นก็คือพระพุทธรูป ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “พ่อท่านเจ้าวัด” กับรูปหล่อชายชรานั่งถือตะบันหมากเรียกว่า “ตาขี้เหล็ก” และ “นนทรีย์” ซึ่งเป็นรูปหล่อยักษ์ถือกระบองน่าเกรงขาม

โดยศรัทธาเป็นอย่างยิ่งว่า...มีอิทธิฤทธิ์ในด้านปกป้องคุ้มภัย

วัดฉลอง...เป็นศาสนสถานที่เก่าแก่ ตั้งอยู่ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ตำบลฉลอง ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 8 กิโลเมตร สร้างเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าเป็นช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่ 2

ด้วยสมัยนั้น....พม่ายกทัพมาตีเมืองถลาง ราษฎรจึงอพยพขึ้นมาตั้งหลักปักฐานที่นี่ จนรอดปลอดภัยอยู่เย็นเป็นสุข จึงได้สร้างวัดขึ้นเพื่อประกอบกิจทางศาสนา

โดยเชื่อและศรัทธาว่าปริมณฑลแห่งนี้เป็นชัยภูมิที่ดีมีความปลอดภัย แล้วจึงอาราธนา “พ่อท่านเฒ่า” มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก

ศิษย์เอก “พ่อท่านเฒ่า” และเป็นเจ้าอาวาสรูปต่อมาคือ “หลวงพ่อแช่ม” อริยสงฆ์รูปนี้เป็นที่เลื่อมใสนับถือกันมากของชาวภูเก็ตและใกล้เคียง แม้ว่าจะละสังขารไปนานกว่านับศตวรรษ ปัจจุบัน ความเลื่อมใสก็ยังมิคลาย จะภัยเล็ก...ภัยใหญ่ จะมาถึงหรือยังไม่มาก็ยังภาวนา “หลวงพ่อแช่มช่วยด้วย”

@@@@@@

“หลวงพ่อแช่ม”...เกิดที่ทับปุด จังหวัดพังงาในสมัยพระนั่งเกล้าฯ รัชกาลที่ 3 เมื่อปี 2370 เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ณ วัดฉลอง ตั้งแต่เป็นสามเณรได้ศึกษา วิปัสสนาธุระ และวิชาอาคมจนมีพลังแก่กล้าจนเป็นที่เลื่อมใสจากทั่วทุกทิศก็หันมาพึ่งในบุญบารมี

สามารถบำบัดรักษาโรคต่างๆแม้ต้องคุณไสย เพียงบริกรรมคาถาแล้วใช้ไม้เท้าจี้จุดก็หายได้อย่างชะงัด ถือว่า... “ไม้เท้า” ด้ามนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันหนึ่งคู่กับชีวิตของหลวงพ่อแช่ม

...

เมื่อปี 2419 ได้เกิดภัยร้ายแรงและหนักหน่วงแก่สังคม ด้วยชาวจีนอพยพรวมตัวกันตั้งเป็น “อั้งยี่” ก่อเหตุวุ่นวายจะเข้ายึดการปกครอง ไล่ล่าฆ่าชาวบ้านแม้เจ้าหน้าที่ก็ต้องลดท่าล่าถอย สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ถึงขั้นบุกทำลายเผาหมู่บ้านที่อยู่อาศัย

ว่ากันว่า...ยังมีหลักฐานปัจจุบัน หมู่บ้านนั้นมีชื่อว่า “บ้านไฟไหม้”

เหตุการณ์ครั้งนั้น...ผู้คนต่างหนีตายไปแออัดอยู่ที่วัดฉลอง เหมือนดั่งที่เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิในบรรยากาศหนีร้อนไปพึ่งเย็น

“หลวงพ่อแช่ม”...ได้เอาผ้าขาวม้ามาลงยันต์ เป็นผ้าประเจียดให้ศิษย์โพกหัวแล้วต่อสู้กับอั้งยี่ แล้วก็ปราบพวกกบฏเหล่านั้นสิ้นลงอย่างราบคาบ ยุติ ความหวาดกลัว คืนความสงบสุขให้กับชาวบ้านที่หนีร้อนไปพึ่งเย็น...ชื่อเสียงยิ่งขจรขจายมาตั้งแต่บัดนั้น

สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ทราบเรื่องจึงโปรดเกล้าฯ ให้หลวงพ่อแช่มเข้ามาในพระบรมมหาราชวัง พระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี” มีตำแหน่งเป็นสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต อันเป็นตำแหน่งสูงสุดของบรรพชิตจักพึงมีในสมัยนั้น และโอกาสเดียวกันก็พระราชทานนามวัดฉลองเป็น “ไชยธาราราม” แต่คนไม่น้อยก็ยังเรียกติดปากกันว่า “หลวงพ่อแช่มวัดฉลอง”

...

กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้บันทึกเรื่องราวต่างๆทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดย่อยในปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อแช่มทั้งเมื่อครั้งยังมีชีวิตและหลังมรณภาพ ตอนหนึ่งมีความว่า...ตั้งแต่หลวงพ่อแช่มมรณภาพไม่ได้เดินทางมาภูเก็ตอีกเลย กระทั่งปี 2471 ได้ตามเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7

ขณะนั้นหลวงพ่อช่วงเป็นเจ้าอาวาส จึงแวะไปกราบนมัสการรูปหลวงพ่อแช่มรูปที่ตั้งบูชานั้นมีคนเอาทองคำแผ่นมาปิดแก้บนกันจนเต็ม เว้นไว้เฉพาะตรงบริเวณใบหน้าหลวงพ่อแช่มให้รู้ว่าเป็นรูปใครเท่านั้น แม้แต่ไม้เท้าของหลวงพ่อแช่มก็มีการปิดทองด้วยเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงปฏิปทาในศรัทธาบารมี

คาถา “หลวงพ่อแช่ม” ตั้งนะโม 3 จบ พระอะระหัง สุคะโต ภะคะวา นะเมตตาจิต พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มหาปัญโญ สังฆะบูชา มหาโรคะวะโห ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ สวด...1, 2, 5, 7, 9 จบ จะคุ้มครองป้องกันอันตรายต่างๆได้ดีนักแล

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

รัก-ยม