เชื่อกันว่า ทำบุญปล่อยสัตว์...จะเป็นการซื้อชีวิต เกิดชาติหน้าฉันใดจะมีสุขภาพที่ดี อายุยืน หากปล่อยนกปล่อยปลา...จะช่วยให้พ้นเคราะห์ มีลูกหลานเต็มบ้าน ครั้น...ทำบุญไหว้พระ ถวายพวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียนบูชา หากตายไปแล้ว เกิดชาติหน้าก็จักอุดมด้วยลาภยศ ชื่อเสียง

หรือแม้นหากมีโอกาสได้ทำบุญ...สร้างโบสถ์ สร้างวิหารสืบต่อพระศาสนา เกิดชาติหน้าจะมีวาสนา บารมีมากมายเหลือคณา หรือทำบุญสวดมนต์ ก็มีความเชื่อกันว่าจะทำให้มีสติปัญญาแหลมคม

ถ้าบริจาคยา...สุขภาพจะแข็งแรง บริจาคหนังสือ... จะส่งผลหนุนนำทำให้อนาคตได้ดี มีการศึกษาสูงๆหรือทำบุญน้ำมันตะเกียง...จะทำให้ชีวิตโชติช่วง ชัชวาล เจริญรุ่งเรือง มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นต้น

“ความเชื่อ” ของ “มนุษย์” คือการยอมรับ ว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นจริง บางครั้งความเชื่อก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีเหตุผลประกอบ อย่างที่เราๆ ท่านๆหลายคนเชื่อในเรื่องฤกษ์ยาม วันเวลา ตกฟาก เชื่อเรื่องเครื่องรางของขลัง ปาฏิหาริย์สิ่งยึดเหนี่ยวที่ให้คุณแก่ตนได้

อำนาจลี้ลับ พลังเหนือธรรมชาติ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆที่มีอยู่มากมาย ทั้งที่ได้เจอกับตัวเองในแบบที่อธิบายไม่ได้ รวมถึงเรื่องเล่าต่างๆอีกมากมายที่มีถ้วนทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย

...

จำกัดความตามข้อมูลวิชาการ ให้ความหมายเกี่ยวกับ “ความเชื่อ” ไว้ 2 อย่างด้วยกันคือ หนึ่ง... การยอมรับข้อเสนอข้อใดข้อหนึ่งได้ว่าเป็นความจริง หมายถึงว่า ความเชื่อนี้อาจจะมีพื้นฐานจากหลักฐานข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้ หรือมีพื้นจากการนึกรู้เอาเอง หรือจากความเข้าใจที่ไขว้เขวของตนเองก็เป็นได้

ความเชื่อ...จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความจริงเสมอไป เมื่อเป็นเช่นนั้น คนเราก็อาจจะกระทำอะไรที่จริงจัง บ้าคลั่งได้ด้วยความเชื่อที่ผิดๆ เท่าๆกับที่ทำด้วยความเชื่อที่ถูกต้อง

อาจจะกล่าวได้อีกว่า...การทำอะไรก็ตามที่ใช้สติปัญญา ต้องอาศัยความเชื่อด้วยเสมอ แต่สติอาจใช้ทดสอบความเชื่อ ตรวจสอบความถูกต้องของความเชื่อได้

สอง...การยอมรับความเป็นจริงโดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์ด้วยวิธีการของวิทยาศาสตร์ ความเชื่อที่ว่านี้ก็คือการยอมรับต่างๆว่าเป็นจริง มีอยู่จริง... โดยอาจส่งทั้งผลดี ผลร้ายขึ้นมาได้เช่นกัน

@@@@

“ผีบรรพบุรุษ” เชื่อว่าจะคอยคุ้มครองลูกหลานในครอบครัวให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข บางทีก็เรียกกันว่าเป็นผีประจำตระกูล...“ผีพ่อ”...“ผีแม่” เมื่อครั้งลูกหลานออกเรือน แยกไปสร้างครอบครัวใหม่กันแล้ว ก็ยังต้องกลับมากราบไหว้ กลายเป็นพิธีกรรม ความเชื่อสืบทอดต่อๆกันมา

“วิญญาณ”...สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ เชื่อไม่เชื่อขึ้นอยู่กับวิจารณญาณแต่ละท่าน บางคน...เห็นภาพเงาดำ บางคน...ก็เห็น เป็นกลุ่มหมอกควัน ลอยมาใกล้ตัวแล้วก็จางหายไปยามคล้อยเคลิ้ม เสมือน...กับเป็น “ฝัน” แต่ไม่ใช่ฝัน

ความเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณกับคนไทยมีมายาวนาน คนโบราณเล่าขาน ทั้งเจ้าป่า เจ้าเขา เจ้าไม่มีศาล เจ้าที่เจ้าทาง ผีนา ผีป่า ผีบ้าน ผีฟ้า ผีปอบ ผีกระสือ ผีกระหัง ผีเร่ร่อน ผีตายโหง ฯลฯ อีกทั้ง...“สิ่งลี้ลับ” ที่เราๆท่านๆมีความเชื่อข้างต้นนี้ ยังถูกนำมาผูกโยงเข้าไว้กับ “โชคชะตา” หวังจะให้โชคช่วย พบกับความสำเร็จ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุขภาพแข็งแรง สมดังหวังตั้งใจ

หรืออีกหลากหลายความเชื่ออย่าง...ห้ามเคาะจานข้าว เพราะจะเป็นการเรียกวิญญาณเร่ร่อนพเนจรให้มาใกล้ตัวจะเป็นภัย ห้ามกวาดบ้านเวลากลางคืน ห้ามตัดผมวันพุธ...จะบวช แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ออกรถ อยากโชคดีมีชัยก็ให้ถือ “ฤกษ์มงคล” จะได้ดีแก่ตัวเอง

หรือ...แม้กระทั่งให้ระวังตรงทางสามแพร่งจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้นมาได้ ปะเหมาะเคราะห์ร้ายอาจถึงขั้นเสียชีวิต พิการ เชื่อกันว่า...“บริเวณสามแพร่ง” เป็นที่รวมของวิญญาณเร่ร่อน สัมภเวสี ต่างก็อยากจะหาตัวตายตัวแทน อยากจะขอส่วนบุญ หิวโหย...โหยหา

...

@@@@

“ผีบ้านผีเรือน”...คนไทยให้ความเคารพศรัทธามาแต่โบราณแล้ว กล่าวกันว่า “ผีบ้านผีเรือน” นั้นมีความแตกต่างจากผีทั่วไป โดยเฉพาะเป็นวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าบ้านให้ความเคารพ กราบไหว้บูชา ที่สำคัญเป็นวิญญาณที่ปกปักคุ้มครองผู้ที่อยู่อาศัยในบ้าน

แน่นอนว่าเมื่อถึงวันสำคัญอย่างเทศกาลปีใหม่ เจ้าบ้านก็จะมีการทำบุญบ้านเซ่นไหว้

“พิธีกรรมการเซ่นไหว้ผีบ้านผีเรือน” นิยมทำกันในวันตรุษ วันสารท วันเกิดบรรพบุรุษ วันเอาข้าวขึ้นยุ้ง วันรับขวัญ เลือกเอาวันใดวันหนึ่ง...ในบางบ้านจะเซ่นด้วยอาหารคาวหวานที่บรรพบุรุษชอบ บางบ้านก็เซ่นด้วยหัวหมู ไก่ หมากพลู ขนม บุหรี่ เหล้า ดอกไม้ ซึ่งนิยมใช้ดอกพุด

บางบ้านจุดตะเกียง บางบ้านจุดเทียน...ผู้ทำพิธีบอกกล่าวผีบ้านผีเรือน “ลูกหลานเอาของ... มาเซ่นไหว้เชิญมารับประทาน และขอให้คุ้มครอง... ให้อยู่ดีกินดีและร่ำรวย”

บางครั้ง...บางบ้าน...มี “คนป่วย” หรือมี “ความทุกข์” ต้องการให้ผีเรือนมาช่วยก็อาจทำพิธีเซ่นไหว้ได้...เมื่อหายทุกข์ หายป่วยแล้วก็อาจจะต้องแก้บนตามที่บอกกล่าวผีบ้านผีเรือนไว้

นอกจากนี้ยังมี...“วิธีไหว้เจ้าที่กลางบ้าน” เพื่อความสุขสงบ ร่มเย็น หรือหวังไปไกลๆให้ผู้คนในบ้าน...“อยู่แล้วรวย” โดยการจุดธูป 5 ดอก ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน เตรียมเครื่องไหว้ ผลไม้มงคล มุ่งหวังเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย อาจปรับเป็นเทียน 1 คู่, ธูป 5 ดอก, น้ำ 1 แก้ว, ดอกดาวเรืองหรือพวงมาลัย ส่วนผลไม้มงคลก็แล้วแต่ความสะดวกหาได้ง่าย เช่น ส้ม กล้วย องุ่น ทับทิม ฯลฯ

“ผู้ไหว้” จะต้องหันหน้าเข้าบ้านและหันหลังให้กับประตูบ้าน และให้นำของไหว้ทั้งหมดจัดวางไว้บนผ้าขาว จากนั้นก็จุดธูปเทียนบูชา พร้อมกล่าวคำขอขมา...ข้าแต่เจ้าที่เจ้าทาง วันนี้วันดีของข้าพเจ้า...บอกบ้านเลขที่ ใครเป็นเจ้าของ ชื่อ...นามสกุล เราจะทำการขอขมากรรมแก่ท่าน หากมีสิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้ทำผิดพลาดไป ตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดีทั้งที่รู้และไม่รู้ก็ดี ขอท่านเมตตาและอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าและโปรดช่วยให้ข้าพเจ้าที่อยู่บ้านเลขที่...หลังนี้อย่างมีความสุข ราบรื่น เงินทองไหลมาเทมา หรือ...จะขอพรอื่นๆได้ตามที่ใจปรารถนาก็ว่ากันไป

...

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

รัก-ยม