ประเพณีแขวนโคมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดลำพูนไม่ปรากฏบันทึกแน่ชัดว่าเริ่มขึ้นมาเมื่อใดกันแน่ หากแต่ “โคม” นั้นมีใช้กันมานานแล้วตั้งแต่สมัยโบราณในอดีตที่ผ่านมาเพื่อใช้ในการตกแต่ง ให้แสงสว่างตามบ้านเรือน ทางเดิน

“โคม” นับได้ว่ามีประโยชน์มากในยุคที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ นอกจากนี้แล้วยังมีความเชื่อสำคัญเกี่ยวกับการถวายโคมหลังออกพรรษา ช่วงเวลาใกล้เคียงกับเทศกาล “ยี่เป็ง” หรืองานลอยกระทงภาคเหนือ

โดยความเชื่อที่ว่านี้สะท้อนถึงการบูชาไฟ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อแสดงความศรัทธาเสมอเหมือน... ให้ไฟเป็นแสงสว่างช่วยนำทาง

อีกทั้งยังให้โคมช่วยป้องกันไม่ให้ไฟในโคมดับ เปรียบเทียบได้กับ...สิ่งคุ้มครองก็คือปกป้องดูแลผู้ที่แขวนบูชาโคมนั้นเอง

อีกข้อมูลน่าสนใจ ชื่อ “โคม” นั้นยังเป็นชื่อของเมืองโบราณจังหวัดเชียงราย โดยมีชื่อเต็มๆว่า “สุวรรณโคมคำ”...บันทึกข้อมูลความเชื่อแต่โบราณนานมาจากรุ่นสู่รุ่นไม่ต่างกันเท่าใดนัก เชื่อว่า...แสงประทีปจากโคมจะช่วยส่องประกายให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข

...

“ชาวล้านนา”...จึงนิยมปล่อยโคมขึ้นฟ้า อีกทั้งยังจุดประทีปไว้ตามบ้านเรือน น่าสนใจด้วยการปล่อยโคมลอยนั้นเชื่อกันว่าจะเป็นการปล่อยเคราะห์ ปล่อยกรรม ปล่อยสิ่งชั่วร้าย เลวร้ายต่างๆให้ลอยออกไปจากตัวเอง จากครอบครัว จากชีวิต

นอกจากนี้แล้ว การลอยโคมยังถือว่าเป็นการบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์...ว่ากันว่าเป็นการส่งเหล่าเทวดากลับคืนสู่สวรรค์อีกด้วย ประการสำคัญยังเป็นการบูชาแก่เจ้าผู้ให้กำเนิดของตนบนสวรรค์ที่เรียกว่า “พ่อเกิดแม่เกิด”

“โคมไฟล้านนา”...คืองานฝีมือจากภูมิปัญญาชาวบ้าน สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน

ก็ยังคงอยู่ให้เห็นในวันนี้ โดยโคมจะถูกนำมาใช้ในงานพิธีกรรมต่างๆ โดยเฉพาะงานประเพณียี่เป็ง

โคมจะทำเป็นโครงด้วยไม้ไผ่ แล้วนำมาปิดด้วยกระดาษแก้วหลากสีสันหลายรูปแบบ เสร็จแล้วจะถูกนำไปแขวนไว้บนที่สูง

N N N

ประวัติความเป็นมาของโคมล้านนา “ความเชื่อเกี่ยวกับโคม” (จินตนา มัธยมบุรุษ 2539) ระบุว่า ชาวล้านนาใช้โคมในงานประเพณียี่เป็ง พึงสักการบูชาพระพุทธเจ้า คืนวันเพ็ญเดือน

สิบสอง “ยี่เป็งล้านนา” ถือว่า...เมื่อได้กระทำเช่นนี้แล้ว ประทีปจากโคมจะช่วยส่องประกายให้ดำเนินชีวิตเจริญรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข

“การยกโคม” หรือ “การลอยโคม”...

แต่เดิมเป็นพิธีการทางศาสนาพราหมณ์ ทำขึ้นเพื่อบูชาพระเจ้าทั้งหลาย คือ...พระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม

ปัจจุบัน “โคม” ทำขึ้นเพื่อไปถวายพระที่วัด เพราะมีความเชื่อว่าชาติหน้าเกิดมาจะมีสติปัญญาที่ดี โดยแต่เดิมนั้นประเพณีการจุดโคมจะทำขึ้นในบ้านของเจ้านายใหญ่โต หรือผู้มีอัน

จะกินเท่านั้น โดยจะใช้ประทีปหรือเทียนจุดให้เกิดแสงสว่างแล้วนำไปใส่ไว้ในโคม

หรือ...ใช้ประทีปที่มีลักษณะเป็นผางประทีปเล็กๆ แล้วใช้น้ำมันงา น้ำมันละหุ่ง หรือน้ำมันมะพร้าวใส่ลงในถ้วยดิน เพื่อให้ไฟติดไส้ที่อยู่ตรงกลางด้วย ตามปกติการจุดโคมทำกันในวันพระ... ซึ่งความจริงแล้วการจุดโคมสามารถจุดได้ทุกวันโดยไม่จำกัดโอกาส

หรือเรียกตามภาษาธรรมว่า “อกาลิโก” ซึ่งก็แล้วแต่ความพอใจหรือความสะดวก โดยเมื่อจุดแล้วก็จะนำไปแขวนตามชายคาบ้านให้เป็นที่สวยงาม เพื่อเป็นการบูชาเทพารักษ์อีกทางหนึ่งด้วย

การประดิษฐ์โคมนั้นมีจุดมุ่งหมาย 4 ประการด้วยกัน...หนึ่ง เพื่อความสวยงาม สอง เพื่อเป็นพุทธบูชา สาม เพื่อความสว่างให้กับตัวอาคารบ้านเรือน สี่ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เจ้าของบ้าน

...

“สมัยโบราณเมื่อเกิดสงครามก็จะใช้โคมลอยช่วยในการโจมตีข้าศึก โดยจะใส่ดินไฟเข้าไว้ในนั้นแล้วจุดธูปปักไว้ในหม้อดินไฟ เมื่อโคมลอยไปยังเมืองของข้าศึกพอดีกับธูปไหม้ลงมาถึงดินไฟที่อยู่ในหม้อก็จะระเบิดขึ้นมาเผากระดาษตัวโคม ทำให้ลูกไฟตกลงมาเผาผลาญบ้านเรือนข้าศึกได้...”

N N N

สำหรับคนกรุงเทพฯ เข้าสู่เดือนเทศกาลงานลอยกระทงแล้ว วัดพระยาสุเรนทร์ เขตคลองสามวา ขอเชิญร่วมงานบุญใหญ่ “แขวนโคม” บูชาถวายองค์หลวงปู่ทวด ณ อุทยานหลวงปู่ทวด ไปจนถึงวันที่ 19 พ.ย.64

ให้รู้ไว้อีกว่า “ยี่เป็ง”...เป็นประเพณีเก่าแก่ที่มีความเชื่อหลายอย่าง เช่นเชื่อว่า...เป็นการบูชาพระแม่คงคาที่ประทานน้ำมาให้เพื่อการเพาะปลูก เป็นการบูชารอยพระพุทธบาทริมฝั่งน้ำนัมมทานทีในคติทางพุทธศาสนา ส่วนชาวบ้านก็มักเชื่อว่าเป็นการลอยเคราะห์ปล่อยเสนียดจัญไรต่างๆ

...เนื่องจากว่าในช่วงเวลานี้เป็นฤดูกาลที่ลูกหลานจะได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษของตน มีการส่งเครื่องเซ่นสังเวยตามสายน้ำเป็นเครื่องเซ่นบูชาพระนารายณ์ในเกษียรสมุทรและบูชาบรรพบุรุษ

...

โคมหรือประทีปที่ถูกนำมาใช้ตามวัดวาอาราม สถานที่สำคัญให้สวยงามเป็นพิเศษ...ทุกวัดจะมีการทำบุญทางศาสนา การเตรียมงานเริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือนยี่ ทั้งวัด...ชาวบ้านต่างจัดเตรียมสิ่งของเพื่อใช้ในงาน เมื่อถึงวันงานก็จะมีการถวายข้าวมธุปายาสตอนเช้ามืด

...จากนั้นมีการทานขันข้าว เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ ทำบุญฟังเทศน์ และในตอนกลางคืนจะจุดโคมไฟบูชาดวงประทีปที่เห็นว่าควรบูชา เช่น บ่อน้ำ ครัวไฟ หม้อน้ำ

อีกความเชื่อเรื่อง “กาเผือก” ที่มาเหตุแห่งการจุดประทีปมีว่า สมัยพุทธกาลเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ยังบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์ได้พากันไปบวชเป็นฤาษี และได้จุดประทีประลึกถึงพระคุณพ่อแม่...คือ แม่กาเผือก

ได้ออกไข่มา 5 ฟอง เกิดพายุพัดไปตกน้ำ...

มีแม่ไก่ แม่โค แม่เต่า แม่งู และหญิงซักผ้าไหมเก็บไป

เลี้ยงจนเติบโต จนกระทั่งได้บวชเป็นฤาษีและได้มาพบกัน แม่ซึ่งไปเกิดเป็นผกาพรหมจึงนำฝ้ายมาเป็นไส้ประทีปลักษณะคล้ายตีนกาให้ฤาษีทั้ง 5 จุดบูชา...เป็นจารีตสืบต่อกันมาในช่วงเดือนนี้นั่นเอง

...

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

รัก-ยม