“พิธีตัดกรรม” แบบโบราณแห่ง “วัดปราโมทย์” อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ดำเนินพิธีทุกขั้นตอนอย่างละเอียดโดย “หลวงพ่อเลิศ” ที่ลูกศิษย์ลูกหาหลายๆคนจากหลายๆพื้นที่รู้จักมักคุ้นกันดี...เลื่องลือในเรื่องความสำเร็จมรรคผลตามประสงค์ต้องใจนั้นทำกันมาเนิ่นนานหลายปีมาแล้ว

“โยมที่ทำแล้ว...รู้สึกประสบความสำเร็จ ทำแล้วมีความสบายใจ ได้มาขอขมากรรม ได้มารับศีลก่อน แล้วก็มาถวายสังฆทาน แล้วการสวดเจริญพุทธมนต์ก็เพื่อขอพรบารมีพระพุทธเจ้า พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ แล้วก็บุญบารมี ถึงเวลาทำก็สามารถนั่งกรรมฐานไปในตัวด้วย...”

ศรัทธา ความเชื่อ “พิธีตัดกรรมแบบโบราณ” นี้นั้น หลวงพ่อเลิศ หรือ พระครูปราโมทย์ปัญญาวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดปราโมทย์ บอกว่า เป็นพิธีที่ทำมานานแล้ว เป็นขั้นตอนที่ทำสืบต่อๆกันมาจนถึงรุ่นอาตมา เมื่อคนเรามี “ทุกข์” แล้วก็ต้องหาวิธีการ “คลายทุกข์”... ป่วยไข้ก็หาหมอ แต่ความทุกข์ในใจต้องใช้ “ธรรมะ” น้อมนำเอาคำสั่งสอนพระพุทธเจ้า พระพุทธมนต์ไปช่วยให้ตัวเองแบ่งเบาความทุกข์

...

“บางคนก็สามารถแก้ทุกข์ได้ด้วยการค้นหา เจอเหตุของทุกข์ บางคนก็หาไม่ได้...แก้แล้วก็ยังไม่มีทางเดิน ก็มาทางพุทธศาสนาเพื่อจะช่วยได้บ้าง แล้วแต่วาระบุญของแต่ละคนที่จะส่งเสริมใคร”

แต่...คนทำนั้น แน่นอนว่าจะสำเร็จทุกคนคงจะเป็นไปไม่ได้ แล้วแต่วาระบุญของใครที่จะส่งเสริม

หากจะถามว่า “ดวง” แบบไหน “คน” แบบไหน...ที่ควรจะมาร่วมพิธีตัดกรรม

เอาสั้นๆง่ายๆก็คือ “คนที่ไม่สบายใจ” ทำไม...เราติดขัดอะไร?

รับ “ศีล”...ก็คือการทำบุญเป็นบุญชนิดหนึ่ง “ถวายสังฆทาน”...ก็คือบุญชนิดหนึ่ง เวลาสวดก็นั่ง “กรรมฐาน”...เป็นภาวนาก็เป็นบุญชนิดหนึ่ง รวมแล้วก็จะเป็นบุญครบ 3 ชนิด ทานมัย ศีลมัย และ ภาวนามัย สมบูรณ์แบบ...ความไม่สบายใจเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล

จะร่วม “พิธีตัดกรรมแบบโบราณ” บ่อยครั้งแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละท่านแต่ละคน ค่าบูชาพิธีดอกไม้ธูปเทียน 100 บาท ร่วมทำบุญกับวัดไม่มาก แต่ใช้เวลาทั้งหมดร่วมๆ 2 ชั่วโมง

พิธีนี้ใช้เวลาสวดนานทีเดียว อาทิ สวดโองการเทพชุมนุม อ่านธรรมจักร ตำนาน กำลังวัน หลวงพ่อเลิศสวดสดทุกรอบ รอบที่ทำ...วันอังคาร วันพุธ มีรอบเดียว เวลา 07.30 น. แล้วก็มีวันเสาร์, วันอาทิตย์ มี 2 รอบ 07.30 น. กับ 10.00 น. แต่ละสัปดาห์จะมีแค่สี่วันเท่านั้น ใครสะดวกวันไหน ช่วงเวลาใด...ก็ติดต่อสอบถามกันได้โดยตรงที่ 06-1442-6955, 0-3239–9322 สองเบอร์นี้เท่านั้น...เพราะบางวันหลวงพ่อเลิศอาจติดภารกิจด่วนกะทันหัน สอบถามกันก่อนจะได้มาแล้วไม่เสียเที่ยว

@ @ @ @

เหนื่อยกาย...แค่พักผ่อนนอนหลับก็หายได้ แต่เหนื่อยใจพักแค่ไหนก็ไม่หาย ยิ่งปล่อยให้สะสมนานวันเข้าก็ยิ่งทุกข์หนักมากยิ่งขึ้น บ่อยครั้ง...หลายคนหาเวลาอยู่กับตัวเองสักนิดให้ได้พักได้คิด ได้เข้าวัดที่สงบเย็นร่มรื่น...หันหน้าเข้าวัดได้ทำบุญทำทาน อานิสงส์ผลบุญจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ไม่มากก็น้อย

อย่างน้อยๆโยมก็เกิดมาแล้ว เป็น...“คน” ถือว่ามีบุญมากที่สุด ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่มีทุกข์...มีทุกข์ทุกคน แต่เราค่อยๆแก้ปัญหาไป สะสมบุญกันไป แต่การสะสมบุญ ทำความดีตัวเรานั้นจะต้องไม่เดือดร้อน

...

ทำแล้วเดือดร้อนถือว่า ...ไม่ใช่บุญ ผลบุญนั้นก็คือความสุข ส่วนบาปนั้นมีทุกข์ภาย หลัง เกิดมาเป็นคนนั้นมีสามทาง...จะทำบุญ ทำบาป หรือจะอยู่เฉยๆ เราเกิดมาก็ถือว่าพิสดารแล้วเกิดเป็นคนได้อย่างไร แต่ก่อนที่จะเกิดมาจากท้องแม่เรานั้นมาจากไหน...อีกไม่นานเราจะไป ซึ่งพระพุทธเจ้าบอกว่า การเกิดเป็นคนนั้นต้องมีบุญมากกว่าบาปจึงได้เกิดเป็นคน นี่เอง...เป็นคำถามทำไมเราไม่เกิดเป็นสัตว์ แสดงว่าเรามีบุญมาก

เกิดเป็นคนแล้ว เราได้ทำอะไรมากมายมีบ้านมีรถมีลาภยศตำแหน่ง ทรัพย์สินเงินทอง แสวงหาได้มากมาย ตามความต้องการของมนุษย์ได้ ส่วนในเรื่องปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาตินั้น อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นวาระ “บุญ” ของแต่ละคน ไม่สามารถที่จะกำหนดและลิขิตได้ แล้วแต่ว่า “วาระบุญ” ใครจะส่งผลหรือไม่เท่านั้นเอง

บางคนทำเท่าไหร่ๆ...ก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่สุดท้ายที่สุดแล้วที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นคนเราต้องมี “ปัญญา” เท่านั้น จึงจะประสบความสำเร็จของความเป็นคน และความต้องการของมนุษย์จะสมบูรณ์ได้นั้นต้องมี “ทัศนะ” และ “ปัญญา” ที่ถูกต้อง จึงจะถึงจุดหมายปลายทาง สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง...“ความรู้” สำคัญมาก ถือเป็นทรัพย์...เป็นอาภรณ์...เป็นอำนาจ และเป็นอาวุธที่ดียิ่งของทุกคน

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่บอกบุญใหญ่ญาติโยม ร่วมกันปิดทอง “หลวงพ่อโตองค์ใหญ่” จุดเริ่มมหาบุญครั้งนี้มีเจ้าภาพมาเห็นหลวงพ่อแล้วก็เอ่ยปากว่าจะรับเป็นเจ้าภาพปิดทองคำแท้ให้หลวงพ่อโตทั้งองค์

...

ร่วมด้วยช่วยกันคนละเล็กละน้อย สิบบาท ยี่สิบบาท ร้อยบาท หรือตามกำลังศรัทธาของญาติโยมแต่ละคน นอกจากปิดทองคำแท้แล้วยังจะบูรณะยกฐานหลวงพ่อขึ้นมาใหม่ให้สูงขึ้น สวยเด่นเป็นสง่างดงามตามากยิ่งขึ้น...หมดทุกข์...หมดโศก ทิ้งความไม่สบายใจ “ลอยเคราะห์”...ให้ไปกับสายน้ำ

@ @ @ @

“พิธีตัดกรรมแบบโบราณ” ช่วงสุดท้าย หลวงพ่อเลิศ บอกกล่าวให้ผู้ร่วมพิธีเด็ดดอกบัวให้เหลือแต่เฉพาะดอกตั้งใจว่านะโม 3 จบ สวดมนต์พิธีตาม...ตั้งจิตอธิษฐาน ขอปล่อยเคราะห์ปล่อยโศก ปล่อยโรค ปล่อยภัย...

มือหนึ่งถือดอกบัวไว้ อีกมือหนึ่งจับที่ปลายเส้นผม...ภาวนา ทุกข์ โศก โรค ภัย สิ่งร้ายๆในตัวให้ออกไปพ้นตัว ไม่ลังเล ไม่อิจฉา ปล่อยวางใจสงบนิ่ง...แล้วกำหนดจิต ให้หลวงพ่อตัดปลายผมโยมแต่ละคนแล้วใส่เข้าไปในกลีบบัว ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วผู้ร่วมพิธีก็จะนำดอกบัวของตัวเองเดินไปลอยที่แม่น้ำ

...

เชื่อ...ศรัทธากันเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นพิธีแบบโบราณ เป็นการ...ปล่อยทุกข์ โศก โรค ภัย สิ่งร้ายๆในตัว และเป็นการอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร...ให้ไหลไปกับกระแสน้ำ กลับกันก็นำชีวิตมาสู่ความเจริญ มั่งคั่ง ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง มั่งมีศรีสุข จงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า...ครอบครัว บิดา มารดา บุตร ธิดา...ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

รัก-ยม