เปิดตลาดพระวันแรกของเดือน ๖ อย่างคึกคัก เพราะเป็นวันแห่งความหวังอันสูงสุดของคนไทยสายเลขเด็ด ที่เดือนนึงจะได้ดีใจกับผิดหวังกับผลหวยบนดิน ใต้ดิน อยู่ ๒ วัน

ส่วนสายพระเครื่องมาเริ่มกันที่องค์แรก คือ พระกริ่งพรหมมุนี สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) วัดสุทัศนเทพวราราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑ ในพระกริ่งยอดนิยม รุ่นมาตรฐานสกุลพระกริ่ง “สมเด็จพระสังฆราช (แพ)”

ทรงสร้างช่วงดำรงสมณศักดิ์ พระพรหมมุนี ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๖๐-๖๕ โดยใช้ “พระกริ่งใหญ่” เป็นพิมพ์ต้นแบบ เทหล่อด้วยเนื้อนวโลหะ ภายในสีนากกลับขาว แล้วกลับดำสนิท บรรจุกริ่งในตัว

องค์นี้ตกอยู่กับ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง เพราะตรงสเปกที่เป็นพระสภาพงามสมบูรณ์ มีประวัติเป็นตำนาน ที่ “สายตรง” เล่าว่า เป็นองค์ที่เทหล่อสำเร็จสมบูรณ์ ตกแต่งรายละเอียดของ ช่างถม และ อาจารย์หนู–นิรันดร์ แดงวิจิตร ได้ชื่อเป็นองค์ที่งดงามที่สุดองค์หนึ่ง แต่ยังมีตำหนิเหลือเป็นเส้นรอยแฉลบตรงหัวคิ้วขวา วิ่งขึ้นหน้าผาก

เป็นองค์ที่มีภาพเป็น “องค์ดารา” ในตำราพระกริ่งมาตรฐานหลายเล่ม หลังสุด อ.กิจจา วาจาสัตย์ ลงมือตกแต่ง ลบรอยตำหนินั้นได้เรียบร้อยตามที่เห็น ซึ่งพอได้พระมา เสี่ยเพชร–อิทธิ ก็ส่งภาพโฉมใหม่ มาให้แฟนคลับสนามพระวิภาวดีทันที

พระกริ่งพัชรีตีอ๋อง สมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ.๑๓๔๙-๑๓๖๙) ของพรรค คูวิบูลย์ศิลป์.
พระกริ่งพัชรีตีอ๋อง สมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ.๑๓๔๙-๑๓๖๙) ของพรรค คูวิบูลย์ศิลป์.

...

ต่อด้วย พระกริ่งพัชรีตีอ๋อง ฝีมือช่างมณฑลซัวไซ ราชวงศ์ถัง (พ.ศ.๑๓๔๙-๑๓๖๙) รูปหล่อองค์พระแบบมหายาน (เซียน) เนื้อทองสำริดแก่ทองคำ (ม้าฬ่อ หรือทองดอกบวบ) เทหล่อแบบพิมพ์ประกบ มีตะเข็บข้าง ก้นกลวง ไม่บรรจุเม็ดกริ่ง แต่เรียก พระกริ่ง ตามพระกริ่งใหญ่ พระกริ่งบาเก็ง หนองแส ที่พบพร้อมกัน

ตำนานว่าเป็นพระที่กษัตริย์จีนนิยมสร้างไว้บูชาคู่ตัว ต่อมาพ่อค้าชาวจีนนำเข้าสู่สยาม เพื่อคุ้มครองป้องกัน และมอบเป็นบรรณาการสมัยอยุธยาตอนปลาย พระจึงมีพบเห็นในวงการพระเครื่องไทย แต่ก็ราว ๑๐ องค์

ลักษณะเป็นองค์พระห่มผ้าลายสี่เหลี่ยมแบบเซียน นั่งเหนือฐานบัวสองชั้น พระหัตถ์ซ้ายโอบหม้อน้ำมนต์ ด้านหลังมีลวดลายบนจีวรสังฆาฏิ

เป็น ๑ ใน “พระกริ่งนอก” ที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูง คือ ๑.พระกริ่งใหญ่ ๒.พระกริ่งอุบาเก็ง ๓.พระกริ่งหนองแส ๔.พระกริ่งพัชรีตีอ๋อง ที่มีอายุการสร้างสูงสุด องค์นี้ของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ เป็นพระแท้ ดูง่าย สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ ๑ ใน ๑๐ องค์ ที่คู่ควรเก็บรักษา

พระรูปเหมือนหล่อโบราณ พิมพ์ขี้ตา ๓ ชาย หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ของอาร์ม พระราม ๓.
พระรูปเหมือนหล่อโบราณ พิมพ์ขี้ตา ๓ ชาย หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ของอาร์ม พระราม ๓.

องค์ต่อไปเป็น รูปเหมือนหล่อโบราณ พิมพ์ขี้ตา ๓ ชาย หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร รูปเหมือนพระเกจิฯ ยอดนิยมอันดับ ๑ มี ๒ พิมพ์มาตรฐานคือ พิมพ์ขี้ตา กับ พิมพ์นิยม

สำหรับ พิมพ์ขี้ตา สร้างก่อน โดย หลวงพ่อเงิน เป็นประธานขึ้นหุ่น ทำพิมพ์ (ประกบ) เทหล่อแบบโบราณ ด้วยฝีมือช่างชาวบ้าน โดยอนุญาตให้ชาวบ้านนำเนื้อโลหะเข้าหลอมรวมเป็นเนื้อพระ ณ ลานพิธีวัดบางคลาน พร้อม เหรียญหล่อ พิมพ์จอบเล็ก

เมื่อได้องค์พระพบว่าไม่สวย จึงเรียกเป็น “พิมพ์ขี้ตา” และได้จำนวนน้อย ไม่พอความต้องการ หลวงพ่อกับกรรมการวัด จึงจัดสร้าง รูปหล่อ ขึ้นอีกครั้ง ด้วยรูปทรงเดิม โดยให้โรงหล่อในกรุงเทพฯ ดำเนินการ ทั้งพิมพ์ เนื้อและพิธีเทหล่อ พร้อมทำ เหรียญพิมพ์จอบใหญ่ จนได้องค์พระสมบูรณ์งดงาม

พอปลุกเสกที่วัดก็จำแนกแจกจ่ายออกไป ได้รับความนิยมแพร่หลายเรียกเป็น “พิมพ์นิยม” ได้รับความนิยมสูงกว่า “พิมพ์ขี้ตา” มีแม่พิมพ์แยกเล่น ยึดตามจำนวน เส้นชายผ้าจีวร เป็น ๓ ชาย ๔ ชาย ๕ ชาย--อย่างองค์นี้ของ เสี่ยอาร์ม พระราม ๓ ที่เป็น พิมพ์ ๓ ชาย สภาพงาม สมบูรณ์เดิมๆแบบนี้ ปัจจุบันราคาหลายล้าน

เหรียญจอบหล่อโบราณ เนื้อฝาบาตร รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๘ หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ของดามส์ สุพรรณ.
เหรียญจอบหล่อโบราณ เนื้อฝาบาตร รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๘ หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ของดามส์ สุพรรณ.

...

ถัดไปเป็น เหรียญจอบหล่อโบราณ เนื้อฝาบาตร รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๘ หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

ท่านเกิดสมัย ร.๔ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๐๓ พออายุ ๘ ขวบ ได้เรียนหนังสือไทย ขอม กับ พระอาจารย์ทัต วัดสิงห์ จนอายุ ๒๓ ปี พ.ศ.๒๔๒๖ อุปสมบทโดย พระอาจารย์ทัต เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพ่วง วัดกก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อดิษฐ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้นามฉายา “ฉันทสโร”

ท่านมีวัตรปฏิบัติเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสเคารพศรัทธาของชาวบ้าน (ไม่เหมือน พระชั่ว มั่วสีกา วัดไร่ขิง ที่ทำเอาวงการพุทธศาสนาแทบแตกอยู่ตอนนี้) จนได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตบางขุนเทียน จนต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๑ และมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๙ สิริอายุ ๘๖ ปี ๖๓ พรรษา

ท่านได้ชื่อเป็นอมตะพระเกจิฯจนมีชื่อเป็นคำขวัญเขตบางขุนเทียนว่า “หลวงพ่อไปล่วัดกำแพง แหล่งเกษตรกรรม วัฒนธรรมมอญ บางกระดี่ พื้นที่ทะเลกรุงเทพฯ” ท่านสร้างเหรียญนี้ ออกเป็น รุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๔ ได้รับความนิยมเป็นอีก ๑ เหรียญหล่อพระเกจิฯยอดนิยมแถวหน้า ด้วยอานุภาพพุทธคุณที่ลือลั่นจากประสบการณ์ จนมีคำขวัญคู่เหรียญว่า “มีเหรียญวัดกำแพง ไปไหนไปกัน ยิงฟันบ่ยั่น คงกระพันชาตรีดีนักแล”

สร้าง ๒ เนื้อคือ ฝาบาตร กับ สำริด เป็นเหรียญหล่อพิมพ์ประกบแบบโบราณ มี ๒ แบบพิมพ์ ๑.จอบใหญ่ ๒.รูปไข่--องค์นี้ของ เสี่ยดามส์ สุพรรณ เป็นพระพิมพ์จอบใหญ่ มาตรฐาน เนื้อจัดแท้ดูง่าย สภาพสวยสมบูรณ์เดิมๆแบบนี้ราคาหลักล้านแน่นอน

รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ ท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) วัดสุทัศนฯ ของเพชร อิทธิ.
รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ ท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) วัดสุทัศนฯ ของเพชร อิทธิ.

...

ถัดไปเป็น รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) ท่านเจ้าคุณศรี (สนธิ์ ยติธโร) วัดสุทัศนฯ กรุงเทพฯ ตามคัมภีร์มหาเทพ “ท้าวเวสสุวรรณ” เป็น ๑ ใน ๔ ท้าวจตุโลกบาล ทำหน้าที่ดูแลโลกมนุษย์อยู่ทางทิศเหนือ ที่มีอาณาเขตมากกว่าเทพองค์อื่น เป็นมหาเทพแห่งทรัพย์

ในคัมภีร์เทวภูมิบอกว่า ท้าวเวสสุวรรณบำเพ็ญพรต ตบะ บารมี อยู่หลายพันปี จนได้รับพรจากพระอิศวร พระพรหม ให้เป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย มีหน้าที่ ๑.ดูแลรักษาทรัพย์สมบัติโบราณของชาวโลก ๒.ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา พระกรรมฐาน ผู้ปฏิบัติธรรม ๓.ดูแลพุทธสถานอิทธิ ๔.เป็นเจ้านายผู้ปกครองยักษ์ภูตผีปีศาจให้อยู่ในกฎระเบียบ

ท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) เห็นเป็นอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์จึงจัดสร้าง รูปหล่อลอยองค์ เนื้อโลหะผสม (นวโลหะ) ออก ๓ วาระ คือ ๑.ปี พ.ศ.๒๔๙๐ เป็นพิมพ์ฐานผ้าทิพย์ ๕๐ องค์ ๒.ปี พ.ศ.๒๔๙๑ พิมพ์ฐานบัวเม็ด ๒๐๐ องค์ ๓.ปี พ.ศ.๒๔๙๒ เป็นพิมพ์หน้าคน--องค์นี้ของ เสี่ยเพชร–อิทธิ เป็น พิมพ์ฐานผ้าทิพย์ สภาพงามสมบูรณ์ พิมพ์ชัด เนื้อใช่ แท้ดูง่าย สวยเดิมๆ ราคาอยู่หลักแสนปลายๆถึงล้านได้เลย

เหรียญย้อนยุค พ.ศ.๒๕๖๕ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ.
เหรียญย้อนยุค พ.ศ.๒๕๖๕ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ.

...

สุดท้ายเป็นเหรียญใหม่ แต่สร้างย้อนยุค คือ เหรียญย้อนยุค พ.ศ.๒๕๖๕ (รุ่นรุ่งเงินล้าน) หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จ.สมุทรสาคร สร้างเป็นพิเศษในวาระอายุครบ ๖ รอบ พระครูสิริสาครธรรม ศิษย์ผู้สืบทอดตำรับวิชา “หลวงพ่อรุ่ง”

พระครูซึ่งได้ชื่อเป็นพระเกจิอาจารย์ มีวิชาพุทธาคมเข้มขลังของเมืองสมุทรสาครในปัจจุบัน สร้างขึ้นตามแบบ เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๔ เป็นเหรียญปั๊ม ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มีพิมพ์ใหญ่กับพิมพ์กลาง ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อรุ่ง ด้านหลังเป็นรูปยันต์หนุมานยกคันศรยันต์ไตรสรณคมน์ สื่อเป็นการออกศึกครั้งใหญ่ เป็นผู้อยู่เหนือชัยชนะทั้งปวง

จัดสร้างไม่มาก มีเนื้อทองคำ ลงยาแดง ๑๙๙ เหรียญ เนื้อทองคำ ๑๙๙ เหรียญ เนื้อนาก ๓๙ เหรียญ เนื้อเงินหน้ากากทองคำ ๒๙๙ เหรียญ เนื้อเงิน ลงยาแดง ๕๙๙ เหรียญ ฯลฯ ในภาพของ เสี่ยจั้ม เจ้าของธุรกิจนำเข้าเมล็ดกาแฟ เป็น เนื้อนาก หมายเลข ๒๑ สภาพสวยแกะกล่อง

ลาไปลุ้นผลลอตเตอรี่ ด้วยเรื่องปิดท้ายในร้านพระเครื่องบนศูนย์การค้าใหญ่ ซึ่งเจ้าของร้านกำลังเจรจาแนะนำพระบูชาให้ลูกค้าชายวัยเกษียณที่อยากหาพระบูชา เป็นของขวัญลูกชายที่กำลังจะทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ เพื่อปกป้องคุ้มครองภัย

เจ้าของร้านก็ยกพระองค์นี้มาเสนอ พร้อมบรรยายอานุภาพว่า เป็นรุ่นที่มีอภินิหารอยู่ในโรงงานที่โดนไฟไหม้วอดหมด แต่เหลือองค์พระตั้งเด่นไม่เป็นอะไรเลย มีเพียงควันไฟที่โดนองค์แผ่วๆเท่านั้น

แต่ลุงฟังแล้วส่ายหน้า ยังไม่รับ เจ้าของพระก็ย้ำว่า ที่เล่าเป็นเรื่องจริงนะ ไม่ได้โม้ คุณลุงก็พยักหน้ารับบอกว่า ก็เชื่อ แต่ไม่ใช่อย่างที่หา ผมต้องการพระที่คุ้มครองภัยให้บ้านเรือน แต่ฟังแล้ว องค์นี้ท่านคุ้มครองตัวเองแต่ไม่คุ้มครองโรงงานเลย ปล่อยให้ไฟไหม้ เฮียเอาไว้บูชาเองเถอะนะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง

คลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม

โปรย