ในสายตาคนทั่วไป “ปลัดขิก” คือวัตถุเล็กๆ แกะสลักเป็นอวัยวะเพศชาย ดูแปลกตาและบางครั้งน่าขบขัน แต่ในสายตาคนรุ่นเก่า โดยเฉพาะ “ชาวบ้าน ชาวนา ชาวป่า และนักรบ” ปลัดขิกไม่ใช่ของล้อเล่น…แต่คือของจริง...ของศักดิ์สิทธิ์
“ปลัดขิก” คือเครื่องรางอันทรงพลังของชายไทยโบราณ ที่เชื่อกันว่าให้พลังอำนาจในด้านเมตตามหานิยม ค้าขายดี มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด คงกระพัน
พลิกแฟ้มค้นหาประวัติและตำนาน ในพื้นบ้านบางภาคมีเรื่องเล่าถึง “ชายเร่ร่อนนักเลงเจ้าชู้” ที่เดินทางไปทั่วพร้อมพกปลัดขิกไม้แกะฝังตะกรุดไม่ว่าไปที่ใดก็มีคนรักใคร่เมตตาเจรจาไม่เป็นรองใคร แม้ถูกโจรดักปล้นก็เอาตัวรอดทุกครั้ง...ในสายไสยเวทปลัดขิกเป็นเครื่องรางที่ต้อง “ลงนะ ปลุกเสก จารอักขระ” อย่างเข้มขลัง
หลายสำนักอาคมครูบาอาจารย์ไทยมีชื่อเสียงในการสร้างปลัดขิก เช่น หลวงพ่อเหลือ วัดสร้อยทอง... ว่ากันว่าสร้างปลัดขิกที่ “กันปืนตก มีเสน่ห์มหานิยม”, หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ... ผู้ปลุกเสกปลัดขิกที่ว่ากันว่า “โดนยิงไม่เข้า มีไว้แล้วเมียรัก”...หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธินิมิตร ปลัดขิกรุ่นแรกๆแกะจากไม้มงคลฝังตะกรุด 3 ดอก

...
กล่าวกันว่าปลัดขิกที่ผ่านพิธีใหญ่ บางครั้งมีการนำเข้าพิธี “ลงรัก...ถักเชือก...ฝังเส้นเกศา...รอยมือพระอาจารย์” จักยิ่งทำให้กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องบูชาด้วยความเคารพ
คนไทยไม่น้อยเชื่อด้วยว่า...ปลัดขิกมีวิญญาณสถิตอยู่ ซึ่งในสายพรายเชื่อว่าเป็นวิญญาณเพศชายที่ฝังไว้ในปลัด การบูชาต้องมีการตั้งจิตอธิษฐาน เช่น ขอให้ค้าขายดี เจรจาง่าย ลูกค้ารัก หรือกันภัย
วิธีบูชา (แบบพื้นบ้าน)...ตั้งไว้ที่บูชาพระต่ำกว่าพระพุทธรูป จุดธูป 5 ดอก บูชาในวันขึ้น 15 ค่ำ หรือวันพฤหัสบดี ถวายกล้วยน้ำว้า หมากพลู หรือน้ำหวาน บางแห่งบูชาด้วย “เสียง” เช่น ขอบคุณ บอกกล่าว
สำหรับพิธีกรรมและข้อห้าม พึงจำไว้ว่าปลัดขิกเป็นวัตถุมงคลที่ต้อง “ให้เกียรติ” ไม่ควรวางไว้ในที่อับหรือในห้องน้ำ ไม่ควรใช้หยอกล้อหรือแสดงความไม่เคารพ เช่น พกไว้ล้อคน หรือเอาโชว์เล่น...

ผู้มีปลัดขิกติดตัว หากมีเจตนาดี ใช้ในทางเมตตา ค้าขาย ป้องกันภัย เชื่อว่าจะหนุนนำ แต่ถ้าหวังใช้ผิดจารีต เช่น ล่อลวง หรือใช้ในทางชู้สาวอย่างไม่สุจริต เชื่อว่าจะกลับกลายเป็นผลร้าย
คนในแวดวงเครื่องรางของขลังน่าจะรู้กันดี กล่าวขานกันว่า หากจะนับสุดยอด “เครื่องรางของขลัง” ที่เป็นที่สุด...ความนิยมประดุจดั่งพระเครื่องเบญจภาคี...ใครมีไว้ครอบครองนั่นหมายถึงสุดยอดแห่งความเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร
ไล่เรียงกันไปก็มี “ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ” ...วัดสาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอาจจะแทนได้ด้วย “ปลัดขิกหลวงพ่ออี๋” วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี
ใครมีไว้ครอบครองนั้นขึ้นชื่อลือชาเรื่อง คงกระพัน เมตตา โชคลาภ...
....ทำมาค้าขายดีเยี่ยม ใส่แล้วเหลือกินเหลือใช้แบบไม่ต้องร้องขอแต่ประการใด

อันดับสอง “เขี้ยวเสือ”...หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ อันดับสาม “ลิง”...หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือจะทดแทนด้วย “หนุมาน” หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี...“ขุนกระบี่ วานรฤทธิไกร หนึ่งในสยาม” ก็พอว่ากันได้
แล้วก็มี “เบี้ยแก้”...หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ใกล้ๆนี่เองจังหวัดนนทบุรี ว่ากันว่าทดแทนกันได้ด้วย “เบี้ยแก้”...หลวงปู่รอด วัดนายโรง ก็ยังไหวเพราะแลกวิชากันกับหลวงปู่บุญ ตบท้ายด้วย “ตะกรุด”...หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง จังหวัดนนทบุรี ที่ลือเลื่องในพุทธานุภาพยิ่งนัก
...
ปลัดขิก ไม่ใช่แค่เครื่องราง หากแต่เป็นหนึ่งในศรัทธาความเชื่อของผู้ชายไทย ที่เป็น “สัญลักษณ์พลังชีวิต...ความเป็นชาย...พลังเมตตา...ความอุดมสมบูรณ์”...เป็นภูมิปัญญาแห่งไสยเวทที่บอกเล่าเรื่องราวของการต่อสู้ดิ้นรนของคนธรรมดาในสังคมที่ไม่แน่นอน “คนสมัยก่อน…ไม่มีประกันชีวิต ไม่มีพรหมลิขิต มีแต่ปลัดขิกในย่าม ที่ให้ทั้งเมตตา คงกระพันและความมั่นใจเดินไปข้างหน้า”

ในตำนานพื้นบ้านไทยหลายภาค เชื่อว่าปลัดขิกมีต้นกำเนิดมาจากความเชื่อดั้งเดิมของมนุษย์เกี่ยวกับ “พลังแห่งเพศชาย” โดยมองว่าอวัยวะเพศชายเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ พลังชีวิต และการกำเนิด ดังนั้นจึงมีการแกะสลักเป็นรูปปลัดขิกจากไม้ศักดิ์สิทธิ์ เช่น ไม้คูณ ไม้รัก ไม้มะยม ฝังตะกรุดหรือวัตถุขลัง
เพื่อใช้เป็นเครื่องรางในการป้องกันภัย เรียกโชคลาภ เสริมเสน่ห์
ความเชื่อพื้นบ้าน นับตั้งแต่กันผี กันคุณไสย เชื่อว่าปลัดขิกที่ปลุกเสกดี สามารถป้องกันภูตผีปีศาจหรือสิ่งลี้ลับไม่ให้เข้ามาทำร้ายเจ้าของ... แคล้วคลาด คงกระพัน บางรุ่น บางอาจารย์จะปลุกเสกให้คงกระพันยิงไม่เข้า ฟันไม่เข้า เป็น “ของดี” ที่นักรบและนักเลงรุ่นเก่าใช้กันมาก
...
อีกทั้ง...มหาเสน่ห์เมตตามหานิยม พ่อค้า แม่ค้า หรือผู้ประกอบอาชีพบริการนิยมบูชาเพราะเชื่อว่าเสริมเสน่ห์ทางการเจรจา ค้าขายดี มีแต่คนรักใคร่เมตตา...ขอพรโชคลาภ ความรัก “บางคนใช้ปลัดขิกในการอธิษฐานขอเนื้อคู่ ขอให้คนรักกลับมาโดยทำพิธีในคืนวันศุกร์ หรือวันเพ็ญ”
ย้ำว่าศรัทธา...ความเชื่อที่มีต่อ “ปลัดขิก” ว่ามีพุทธคุณด้านใดนั้นอาจจะกล่าวได้ขึ้นอยู่กับคาถาที่ลงไว้ อาจจะเป็นด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ก็ไปในทางค้าๆขายๆ ร่ำรวย เฮงๆ ดึงดูดเพศตรงข้าม...หรืออาจจะเป็นเรื่องคงกระพัน แคล้วคลาด...กันสัตว์ร้าย ทำร้ายก็ว่ากันไป
“ศรัทธา” นำมาซึ่ง “ปาฏิหาริย์” เชื่อไม่เชื่ออย่างไรโปรดอย่าได้ “ลบหลู่”.
รัก-ยม
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม