เห็นจะต้องขอเวลานี้ ทำความเข้าใจกับจำนวนพิมพ์พระสมเด็จวัดระฆัง อีกสักครั้ง คอลัมน์นี้เอง ก็เคยเขียนคล่องมือไปตามกระแสนิยมของวงการพระเครื่องวันนี้ว่า มีห้าแม่พิมพ์ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์ฐานแซม พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์ปรกโพธิ์

แต่ในความเป็นจริง...ยังมีอีกพิมพ์ เป็นพิมพ์ที่ 6 ที่เรียกเป็นทางการ พิมพ์เศียรบาตรอกครุฑ เรียกภาษาคุ้นปาก พิมพ์ทรงไกเซอร์

ที่ยังสับสนปนเปกันบ้าง ก็เพราะเหตุว่า พิมพ์ที่ 6 นี้ วงการพระรุ่นใหม่ เชื่อกันว่าเป็นพระขึ้นจากกรุวัดใหม่อมตรส หรือที่เรียกกรุบางขุนพรหม ประกวดประขันกันอย่างนี้ ก็ไม่ว่ากัน

แต่สำหรับคนรักพระรุ่นโบราณ รวมทั้งครู “ตรียัมปวาย” เชื่อกันว่า พิมพ์เศียรบาตรอกครุฑ เป็นพิมพ์หนึ่งของวัดระฆัง...ทั้งยังมีเรื่องเล่าเสริม...ที่มาของคำเรียกพิมพ์นี้ เป็นพิมพ์ทรงไกเซอร์

เรื่องเล่ามีว่า เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเยอรมนี...ทรงได้พบกับกษัตริย์เยอรมนี พระเจ้าวิลเลียม ไกเซอร์ ระหว่างสนทนา พระเจ้าไกเซอร์ สะดุดพระเนตรของประดับชิ้นหนึ่งในกระเป๋าฉลองพระองค์ ร.5 ก็ทรงขอดู

ร.5 ถวายให้ดูแล้วตรัสว่าเป็นพระเครื่องสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆัง ที่คนไทยนับถือ เนื้อหาทำด้วยปูน

“ปูนหรือ?” พระเจ้าไกเซอร์ตรัสถาม “ทำไมปูนนี้จึงมีรัศมี”

เรื่องจบลงที่ ร.5 ถวายพระสมเด็จองค์นั้นให้พระเจ้าวิลเลียม ไกเซอร์ไป พระเครื่ององค์นั้น พิมพ์นั้น จึงเรียกขานกันเป็นพิมพ์ทรงไกเซอร์นับแต่นั้นมา

ในหนังสือปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่มพระสมเด็จ “ตรียัมปวาย” มีภาพพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เศียรบาตรอกครุฑ 3 องค์ ปนอยู่กับพิมพ์เศียรบาตรอกครุฑ กรุบางขุนพรหมอีกหลายองค์

...

คนรักพระสมเด็จรุ่นเก่า ก็เคยผ่านตา พระสมเด็จพิมพ์เศียรบาตรอกครุฑ เนื้อหาคราบไคลวัดระฆังชัดเจน ก็เล่นหากันไปตามเนื้อผ้า แต่พอระยะหลัง กระแสนิยมของวงการพิมพ์เศียรบาตรอกครุฑมีแต่บางขุนพรหม

องค์วัดระฆัง จึงถูกดูว่าเป็นพระ “นอกนิยม” จนสุดท้าย ดูจะกลายเป็นพระปลอม พอๆกับชื่อที่เคยเรียกขาน พิมพ์ทรงไกเซอร์ ก็รางเลือนจนหายไป

ข้อดีของคนเป็นพระจริง จึงมักเปลี่ยนมือซื้อได้ในราคาไม่แพง

ทำความเข้าใจเรื่องสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ที่ 6 กันบ้างแล้ว ลองทดสอบวิทยายุทธ์ ดูพระสมเด็จองค์ในคอลัมน์วันนี้ ในสองแม่พิมพ์นิยมคุ้นตา เป็นพิมพ์ไหน

สำหรับผม เรียกเศียรบาตรอกครุฑ พิมพ์ที่ 2 นอกจากเส้นสายลายพิมพ์...แตกต่างจากพิมพ์ที่ 1 แล้ว เส้นกรอบกระจกซ้าย (องค์พระ) ยังชิดกับเส้นซุ้ม ผ่านเรื่องพิมพ์ไปถึงข้อพิจารณา เรื่องเนื้อหา

องค์นี้ผิวบางสดใส ไม่ปรากฏคราบฝ้ารากรุให้เห็น แต่ประเด็น เนื้อขาวละเอียดเนียนแน่นไม่เห็นมวลสาร คนเป็นพระจะดูเป็นวัดระฆัง ก็ยังไม่ถนัด ต้องดูเป็นบางขุนพรหม ได้สถานเดียว

จุดเด่นเศียรบาตรอกครุฑองค์นี้ อยู่ที่ความคมชัดของพิมพ์ บริเวณพระพักตร์เห็นเค้า ตา จมูก ปาก หู แต่ไม่ลึกชัดเท่า องค์ครู ของพี่วิวัฒน์ เรื่องพรสวัสดิ์ ที่คุ้นตาจากหนังสือ พี่ประจำ อู่อรุณ เล่มปี 2522

โดยองค์รวม สภาพองค์นี้เป็นพระดูยาก...แต่เครดิตเป็นพระของ พ.ต.ต.คมสัน สนองพงษ์ ที่อาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ เคยเขียนแนะนำ ก็ช่วยให้ความมั่นใจว่าเป็นพระแท้เพิ่มขึ้น

เครดิตพระของมือเก่าระดับนี้ มีโอกาสดู ก็ดูเป็นองค์ครูกันเอาไว้ บุญมา วาสนามี ท่านอาจมาโปรดถึงมือสักองค์.

พลายชุมพล

คลิกอ่านคอลัมน์ “ปาฏิหาริย์จากหิ้งพระ” เพิ่มเติม