ดูภาพพระนางพญา วัดนางพญา พิษณุโลก องค์ในคอลัมน์วันนี้ คนเป็นพระจะรู้ว่า เป็นพิมพ์ที่วงการขานชื่อว่า พิมพ์อกนูนใหญ่ ดูเนื้อก็จะเห็นว่า “ดำ” ทั้งเรื่องพิมพ์เรื่องเนื้อ มีประเด็นที่จะวิสัชนากันยืดยาว

เรื่องพิมพ์...แรกเริ่มเดิมที พิมพ์นี้ ครูตรียัมปวายเขียนไว้ในหนังสือ ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่ม 2 พระนางพญา พระเครื่องสำคัญ (สำนักพิมพ์คลังวิทยา พิมพ์ พ.ศ.2497) พิมพ์ทรงพิเศษอกนูน

ตอนนั้น “ครู” จำแนก พระนางพญาพิมพ์ธรรมดา ไว้ 5 พิมพ์ พิมพ์เข่าโค้ง พิมพ์เข่าตรง (ครูรวมพิมพ์มือตกเข่าเข้าไปด้วย) พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์อกแฟบ และพิมพ์อกตั้ง

ส่วนพิมพ์ที่ครูเน้นคำ “พิเศษ” ครูเริ่มที่ พิมพ์พิเศษอกนูน ตามด้วยพิมพ์พิเศษแขนอ่อนอยุธยา พิมพ์พิเศษแขนอ่อนสุโขทัย ผมเดาเอา หลายเซียนในตลาดพระท่าพระจันทร์ยุคนั้น ก็เล่นตาม เช่น คุณจำลอง สุริโย ที่ขึ้นชื่อเซียนพระนางพญา ที่เรียกกัน จำลอง พิษณุโลก คนหนึ่ง

แต่มีอีกหลายเซียน...ไม่ได้อ่านหนังสือ ต่อๆมา พิมพ์พิเศษอกนูน วงการเรียกกันว่า พิมพ์อกนูนใหญ่ คำพิเศษหายไป กลายเป็นอยู่ในหมวด นางพญาพิมพ์ใหญ่พิมพ์ที่ 3 ทั้งวงการ ยังเติมพิมพ์ใหญ่เข่าตรง มือตกเข่าเข้าไปอีกพิมพ์หนึ่ง

ส่วนพิมพ์พิเศษแขนอ่อนอยุธยา ถูกเรียกชื่อใหม่ พิมพ์เข่าบ่วง มีทั้งพิมพ์ใหญ่ ขนาดไล่เลี่ยพิมพ์ใหญ่เข่าโค้ง และพิมพ์ใหญ่กว่าพอๆกับขนาดขุนแผนพิมพ์ใบพุทรากรุบ้านกร่าง ใครสะดุดใจไม่ซื้อ แต่พี่จำลอง (สุริโย) ซื้อ

หลายพิมพ์ที่ว่า มีเปลี่ยนมือซื้อขายกันบ้าง จนเป็นพิมพ์ธรรมดา เหลือพิมพ์พิเศษแขนอ่อนสุโขทัยไว้องค์สององค์ ลงในหนังสือภาพพระเครื่อง ของประชุม กาญจนวัฒน์ องค์ที่สอง ลงใน “อมตะพระกรุ” ของต้อย เมืองนนท์

มาถึงเรื่อง “เนื้อ” พระนางพญาวัดนางพญา ที่ลงหนังสือวงการ ช่วงแรกนั้น เป็นเนื้อแดง เหลือง น้ำตาล หรือบางองค์เรียก“สีหม้อใหม่” เนื้อเขียวนั้นทั้งหายากและดูยาก พอๆกับเนื้อดำ ก็เข้าพวกพระ “ขายยาก” ไปด้วยกัน

...

ปี 2522 ผมไปวนเวียนทำข่าว กำนันช้อง คล้ายคลึง ที่เพชรบุรี ว่างงานข่าวก็แวะหาพี่สกล เซียนใหญ่รู้จักชื่อจากหนังสือ พระเครื่องของพี่ชุม (มหาเวทย์ ชาตรี) เจอนางพญาพิมพ์สังฆาฏิ เนื้อดำ ความเกรงศักดิ์ศรีเซียน ไม่กล้าซื้อ

พอดีตอนนั้น ตลาดท่าพระจันทร์ ลงขันกันทำนิตยสาร “ราชาพระเครื่อง” เนื้อหาเป็นวิทยายุทธของเซียนวงใน สะดุดใจประโยค “ นางเนื้อเขียว เนื้อดำ” วงการไม่กล้าซื้อ ก็ได้ใจ นั่งรถเมล์ไปเพชรบุรี ซื้อจากพี่สกลได้ในราคาหลักพัน

แล้วก็“นางพญาเนื้อดำ”องค์นี้ ก็เป็นองค์เดียว (ในจำนวนสามองค์) ที่เมื่อดั้นด้นไปหาครูตรียัมปวาย ที่บ้านหลังวัดกัลยาณ์ ฝั่งธนฯ ครูบอกว่าเป็นพระแท้ ทั้งยังแนะนำให้ศิษย์อีกสามคนที่อยู่ด้วย ได้ดูเป็นตัวอย่าง

กลับบ้านเปิดหนังสือพระนางพญาเล่มของครูอ่าน ครูมีประสบการณ์กับพระนางพญามาก จำแนกระดับเนื้อพระนางพญาไว้ เป็นเนื้อว่านนุ่ม เนื้อดินนุ่ม เนื้อดินแกร่ง เนื้ออิฐ เนื้อกระเบื้อง เนื้อยุ่ย เนื้อเกรียม เนื้อดำ เนื้อเขียว

เนื้อดำ ครูอธิบายว่า เป็นเนื้อผสมพิเศษมีสีดำสนิท เป็นสีดำอย่างแท้จริง มิใช่สีคล้ำเกรียมเพราะการเข้าไฟ หรือเพราะการอบเกรียมภายในกรุ แต่หามีสีเหมือนไม้สีดำ เช่น ไม้มะเกลือ หรือสีดำของกัลปังหา

ส่วนมากเนื้อจะละเอียดมาก ความหนึกเหมือนเนื้อว่าน เนื้อดินนุ่ม หรือมีความแกร่งเหมือนชนิดเนื้อดินแกร่ง บางองค์ปรากฏเมล็ดแร่ละเอียดให้เห็นบ้าง

ต่อมา อาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ เสนอนางพญาเนื้อดำ หลายองค์ในพรีเชียส วงการก็ขานรับ เล่นหากัน

รวบรวมชุดความรู้ เรื่องนางพญาเนื้อดำ ให้อ่านกันแค่นี้ น่าจะพอพิจารณาประกอบการดู นางพญาพิมพ์อกนูนใหญ่ องค์ในคอลัมน์ เส้นสายลายพิมพ์ถูกต้องทุกแห่งที่คมชัดเห็นหน้าตา ตำหนิครบครัน เนื้อส่วนที่ถูกสัมผัสก็ดำสนิทเหมือนสีไม้มะเกลือ เมื่อมีฉากหลัง บริเวณผิวพื้นเป็นนวลดินสีเทาอ่อน ตัดสีกัน ขับให้องค์พระลอยเด่นเห็นสง่า

ดูองค์รวม เป็นนางพญาเนื้อดำ ที่งามซึ้ง ซึ้งทั้งพิมพ์ทั้งเนื้อ ถือเป็นองค์ครูได้องค์หนึ่ง.

พลายชุมพล

คลิกอ่านคอลัมน์ “ปาฏิหาริย์จากหิ้งพระ” เพิ่มเติม