เดินเข้าสนามวันนี้ ก็เห็นทั้งลูกค้าและเซียนพระหน้าตาซึม บอกว่าทั้งอาทิตย์ตลาดหุ้นสาละวันเตี้ยลงๆ เจ๊งกันป่นปี้ แต่หลายคนบอกยังดีที่มีตลาดพระให้ได้มาคุยแก้เซ็งกันได้บ้าง แล้วเลยมีการเปรียบเทียบว่า ลงทุนตลาดพระ ถ้าเลือกแต่พระดีๆ มีมูลค่าเพิ่มดีกว่าตลาดหุ้นเยอะเลย แล้วก็ยกตัวอย่าง การเช่าพระ ๓๐ กว่าปีก่อน สมเด็จวัดระฆังฯ องค์สวยๆ ๓-๕ ล้าน มาตอนนี้ไม่มีองค์ไหนต่ำสิบหรือหลายสิบ บางองค์เฉียดร้อย ที่ดูง่ายๆคือ ตลับพระทองทำ ซึ่งต้องหนักอย่างน้อย ๓ บาท แต่ก่อนใบละ ๓,๐๐๐ กว่า เพราะทองยังบาทละ ๑,๐๐๐-๑,๒๐๐ มาตอนนี้ ต้องมีแสนห้าถึงจะหากุฏิหรูให้ท่านห่มได้
เข้าสนามต่อ ไปดูองค์แรกกัน คือ พระขุนแผนเคลือบ พิมพ์อกใหญ่ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา พระพิมพ์เนื้อดินขาว ผสมปูนขาว ผิวเคลือบน้ำยาอย่างเครื่องกระเบื้องเคลือบ กระเบื้องมุงหลังคาสมัยโบราณ
...
มีบันทึกจากความเชื่อว่า เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชชนะยุทธหัตถี เสด็จฯกลับถึงกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว จึงให้จัดสร้างพระพิมพ์ขุนแผนเคลือบ บรรจุเป็นที่ระลึก และทรงเปลี่ยนนาม “วัดป่าแก้ว” เป็นวัดใหญ่ชัยมงคล
มาค้นพบครั้งแรก ปี พ.ศ.๒๕๐๐ เมื่อกรมศิลปากรสำรวจขึ้นทะเบียนวัดเป็นโบราณสถาน มีจำนวนมากมาย แยกได้ ๓ พิมพ์ ๑.พิมพ์อกใหญ่ฐานสูง ๒.พิมพ์อกใหญ่ฐานเตี้ย ๓.พิมพ์เล็ก (แขนอ่อน)
ต่อมาพบพระพิมพ์เดียว-เนื้อเดียวกัน แต่ไม่มีน้ำยาเคลือบ เรียกเป็น “กรุโรงเหล้า” ถึงปี พ.ศ.๒๕๐๖ มีการค้นพบพระนี้อีกจำนวนมากที่วัดเชิงท่า อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พิมพ์เดียวกัน แต่น้ำยาเคลือบสีอ่อนกว่า
หลังสุดเมื่อปีพ.ศ.๒๕๒๘ พบพระพิมพ์เดียวกัน-เนื้อเดียวกัน จำนวนไม่มาก น้ำยาเคลือบออกสีเขียวอ่อน ต่างจากองค์นี้ ของ เสี่ยกบ-ฐิการ ศุภวิรัชบัญชา ที่เป็นพระกรุวัดใหญ่ชัยมงคล สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ เป็น “องค์ดารา” คู่วงการมาแต่ยุคแรกๆ และเป็น “องค์ครู” ถึงปัจจุบัน
องค์ที่สอง เป็น พระนางพญา พิมพ์อกนูนใหญ่ กรุวัดนางพญา อ.เมือง จ.พิษณุโลก พระพิมพ์เนื้อดินเผา ทรงสามเหลี่ยม ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางมารวิชัย พุทธศิลป์สมัยอยุธยา ด้านหลังปาดเรียบ
มีประวัติการสร้างบรรจุไว้ ระหว่างปีพ.ศ. ๒๐๙๐-๒๑๐๐ มาค้นพบครั้ง ร.๕ เสด็จประพาสเมืองพิษณุโลก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๔ มี ๗ พิมพ์ คือ ๑.พิมพ์ใหญ่ เข่าโค้ง ๒.พิมพ์ใหญ่ เข่าตรง ๓.พิมพ์อกนูนใหญ่ ๔.พิมพ์ (กลาง) สังฆาฏิ ๕.พิมพ์เล็กอกแฟบ หรือพิมพ์เทวดา ๖.พิมพ์อกนูนเล็ก ๗.พิมพ์พิเศษ
องค์นี้ของ เสี่ยทอม อิ่มใจ เป็น พระพิมพ์อกนูนใหญ่ มีจำนวนน้อย หายากสุดในสกุล “นางพญา”--สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ ดีกรีแชมป์ งาน ร.ร.นายร้อยสามพราน พ.ศ.๒๕๕๘ แบบนี้ราคาต้องว่ากันถึงหลักล้านแน่
ตามมาด้วย พระขุนแผน พิมพ์เทวดา กรุวัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี พระพิมพ์เนื้อดินเผา ต้นกำเนิดนาม “พระขุนแผน” พิมพ์พระเหมือน พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล ที่มีหลักฐานให้เชื่อได้ว่าสร้างขึ้นก่อนยกทัพออก “ยุทธหัตถี” เพื่อบำรุงขวัญทหาร หลังชนะศึกจึงนำพระกลับมาบรรจุไว้ในเจดีย์ของวัด
พิมพ์พระแยกเป็นหมวดใหญ่ ๒ แบบ คือ พลายเดี่ยว มีแยกเป็นพิมพ์ทรงพลใหญ่-เล็ก พิมพ์อกใหญ่-เล็ก พิมพ์แขนอ่อน พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์เถาวัลย์เลื้อย พิมพ์หน้าเทวดา อย่างองค์นี้ของ เสี่ยโต้ง สุพรรณ
พระสภาพสมบูรณ์-สวยแชมป์ ฟอร์มทรงตรงสเปก พิมพ์พระมีรายละเอียดคมจัดชัดลึก ทั้งพระโอษฐ์ พระเนตร พระกรรณ เส้นศิลป์ ผิวเนื้อเดิมๆ ดูงามตา ราคาอยู่ที่หลักแสนต้นๆ
...
อีกองค์เป็น พระพุทโธน้อย พิมพ์จัมโบ้ เนื้อผงใบลาน รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๙๔ คุณแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธวิกสิตาราม เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
เป็นพิมพ์นิยมสูงสุด ในสกุลพระพุทโธน้อย ที่คุณแม่ชีบุญเรือน (อุบาสิกา ๕ แผ่นดิน) อธิษฐานธรรมสร้างไว้เป็นรุ่นแรก และได้รับการยกย่องเป็น “จักรพรรดิพระพุทโธน้อย” ที่ปัจจุบันองค์งามๆ สภาพแชมป์เดิมๆแบบองค์นี้ของ เสี่ยเล็ก มรดกไทย ราคาสูงถึงหลักล้านแล้ว
...
อีกรายการเป็น เหรียญยันต์ ๕ เนื้อเงินรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๒ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์ พระเกจิฯที่ชาวบุรีรัมย์ศรัทธาที่สุด ตอนท่านมีชีวิตมีสาธุชนไปกราบท่านแน่นวัดเหมือนหลวงปู่ศิลา เมืองกาฬสินธุ์ในปัจจุบัน
วัตถุมงคลพระเครื่องของขลังที่ท่านสร้างได้รับความนิยมสูงโดยเฉพาะ เหรียญรูปเหมือนหลังยันต์ ๕ รุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๖ กับเหรียญเนื้อเงินที่สร้างออกเป็นรุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๒--เหรียญนี้ของ เสี่ยนิรันดร์ ผดุงคุณธรรม เรตอยู่ที่หลักแสนปลาย ขึ้นหลักล้าน เพราะสร้างน้อยมากเพียง ๙๙ เหรียญ
สุดท้ายเป็น พระราหูสุริยะประภา เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อกริ่ง ปัญญาพโล วัดโพธิ์เลี้ยว จ.กาญจนบุรี ศิษย์สายตรง ที่รับวิชาสร้างพระราหูจากหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ทั้งแบบสุริยะประภา (กลางวัน) จันทรประภา (กลางคืน)
...
ท่านจะเคร่งในเรื่องเวลาฤกษ์ยามอย่างมาก พิถีพิถันในการลงลายมือจารอักขระเลขยันต์ เสกกำกับ เฉพาะตอนเกิดราหูอมจันทร์หรือพระอาทิตย์ที่มืดสนิทเท่านั้น ราหูของท่านจึงมีน้อยมาก โดยเฉพาะที่ลงจารอักขระสุริยะประภา ที่ทำในขณะเกิดสุริยคราส ซึ่งนานทีปีหนจะมีเกิดสักครั้ง อย่างองค์นี้ของ เสี่ยพีท เมืองกาญจน์ ที่แท้ ดูง่าย ใช่ทั้งฟอร์มทรง เนื้อ และลายมือลงอักขระเลขยันต์
ลาด้วยเรื่องปิดท้าย สไตล์ สนามพระวิภาวดี ที่มีคนเล่ามาให้เฮฮากันเยอะแยะ เพราะพอตั้งวงส่องพระ แต่ละคนก็จะมีเรื่องมาคุยถึงอภินิหารความเข้มขลังของวัตถุมงคลที่ตัวเองใช้
วันก่อนที่ เฮียตุ่ย เจ้าของร้านอาหารย่านสะพานใหม่ ซึ่งนานๆ จะไปร่วมวง ฟังใครๆอวดความเจ๋งของพระตัวเองกัน ก็ไม่ยอมเสียหน้า บอกว่า สู้ที่ผมใช้มาสิบกว่าปีไม่ได้ มีแต่ให้โชค ให้ลาภ อยากได้อะไร ก็ได้สมหวังทันที พิสูจน์ได้ด้วย
พรรคพวกก็ตาโต ขอดูว่าใช้บูชาอะไร เฮียตุ่ย จึงล้วงเป๋าเงินหยิบซองบัตรเครดิต ซึ่งหน้าซองแปะรูป หลวงพ่อทันใจ ที่ไปบูชาจากพม่ามาให้ดู ว่านี่ไง อยากได้อะไร ไม่เคยไม่ได้ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
"สีกาอ่าง"
คลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม