ทัวร์ตลาดวัตถุมงคล สนามพระวิภาวดี วันนี้แล้ว ก็เป็นอันว่าสิ้นสุดเดือนที่สาม ซึ่งทันให้ท่านผู้ชมหาเลขเด็ดในสนามพระพอดี ตามที่หลายคนบอกว่าอ่านแล้วก็เอาเลขจากพระองค์นั้นองค์นี้ไปเสี่ยงโชค ซึ่งได้มั่งไม่ได้มั่ง แต่ส่วนใหญ่บอกว่าได้
- ว่ากันที่องค์แรก พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เกศบัวตูม วัดใหม่ อมตรส แขวงบางขุนพรหม กรุงเทพฯ พระพิมพ์นิยมมาตรฐานที่มีน้อยมากๆ แม้แต่ของวัดระฆังฯต้นตำรับก็น้อย จนปัจจุบันกลายเป็นพิมพ์ในความทรงจำ ส่วนฝั่งบางขุนพรหม ที่พบจากกรุองค์พระเจดีย์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ รวมทั้งพระที่แอบจิ๊กออกจากกรุก่อนหน้านั้น ก็เป็นพิมพ์พระที่มีนับองค์ได้...
เกือบทุกองค์ในวงการจึงคุ้นตา นานๆครั้ง จะมี องค์หน้าใหม่ มาสร้างความฮือฮา แต่ไม่นานก็ถูกซื้อเก็บเงียบ หายต๋อม แม้ภาพยังต้องหาดูจากหนังสือตำราเล่มเก่าๆ องค์หน้าใหม่ที่ปรากฏตัวล่าสุดของ เสี่ยก้อง พระสมเด็จ จึงสร้างความตื่นตา เพราะมีสภาพสมบูรณ์ พิมพ์พระพองาม เส้นศิลป์ติดชัด ผิวเนื้อมีรอยใช้ทั่วองค์ทั้งหน้า-หลัง ซึ่งสภาพแบบนี้เชื่อกันว่าต้องเป็นพิมพ์ที่มีอานุภาพสูงตามที่บอกว่าเป็นพิมพ์ที่ให้โชคให้ลาภความอุดมสมบูรณ์ เสริมวาสนาบารมี ให้ชีวิตสำเร็จสมหวัง ถึงใช้บูชากันมาจนมีร่องรอยการใช้ได้สัมผัส จึงเป็นพระพิมพ์ทรงค่าหายาก น่าสะสมสุดๆ
...
- องค์ที่สองเป็น พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานแซม วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ องค์สวยแชมป์อีกองค์ของ “นาย” ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ ที่เห็นแล้วโดนตาโดนใจทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ ผิวเนื้อวรรณะ มวลสารเนื้อใน รอยตัดขอบข้าง รอยปาดหลัง ถูกต้องเป็นธรรมชาติอย่าง “พระองค์ครู” ที่ใช้เป็นมาตรฐานการพิจารณาพระแท้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ป้องกันความผิดเพี้ยนในการเล่นหาได้ทุกชาติ
- องค์ที่สาม พระสมเด็จปิลันทน์ พิมพ์ปฐมเทศนา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต เสนีย์วงศ์) วัดระฆังฯ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ท่านประสูติในสมัย ร.๒ อุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.๒๓๘๕ โดยมี สมเด็จพระสังฆราชด่อน เป็นพระอุปัชฌาย์ และอยู่ที่วัดระฆังฯมาตลอด เป็นศิษย์ใกล้ชิด สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านมีความขยันหมั่นเรียน และสอบได้ปริยัติธรรม ๗ ประโยค ต่อมา ร.๔ ทรงแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะ ฐานาที่ พระพุทธบาทปิลันทน์ และได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ แทนสมเด็จฯโต ซึ่งชราภาพ จน พ.ศ.๒๔๓๕ ได้เลื่อนเป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์ และมรณภาพเมื่ออายุ ๗๙ ปี ๕๘ พรรษา....
ท่านสร้าง พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ นี้ ไว้ครั้งดำรงสมณศักดิ์ พระพุทธบาทปิลันทน์ และแจกจ่าย รวมทั้งบรรจุองค์พระเจดีย์ครั้งรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ เชื่อว่าเป็นพระพิมพ์ที่สร้างตามตำรับวิชาที่รับสืบทอดจาก “สมเด็จฯโต” องค์พระอาจารย์ โดยตั้งใจให้มีความแตกต่างทั้งแบบพิมพ์ ที่มีเป็น ๑๐ แบบ โดยฝีมือช่างหลวง และเนื้อมวลสารที่ทำเป็น เนื้อผงใบลาน ผสมผงพุทธคุณ สีเนื้อเทาดำอมเขียว ทุกพิมพ์ได้รับความนิยมใช้บูชาแทน “พระสมเด็จ” ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยศุภชัย สายัณห์ เป็นพระพิมพ์พิเศษ พบน้อยหายาก ยิ่งเป็นองค์สภาพแชมป์สวยเช้ง เดิมๆ ฟอร์มทรงลงตัว พิมพ์พระคมชัดเต็มพิมพ์ เนื้อพระหนึกแน่นถึงยุค ด้วยมวลสารครบสูตร ผิวเนื้ออุดมด้วยคราบกรุ (ไขวัว) อย่างบางเบาพองาม ไม่บดบังพิมพ์พระ แบบนี้ราคาปัจจุบันว่ากันที่หลักแสนกลางถึงปลายแล้ว
...
- อีกรายการเป็น พระพิมพ์ปางซ่อนหา เนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม เขตคลองสาน กรุงเทพฯ องค์นี้เป็นพระพิมพ์นิยมหายาก ในสกุล พระเนื้อเมฆสิทธิ์ วัดอนงค์ ซึ่งได้รับการยกย่องเป็น เจ้าตำรับสูตรเนื้อโลหะผสม “เมฆสิทธิ์” ที่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตัว ด้านคุ้มครองป้องกันภัย หนุนดวงชะตา ช่วยร้ายกลายเป็นดี ทำสำเร็จด้วย วิชาเล่นแร่แปรธาตุ ของ พระอาจารย์ทับ พระเกจิ อาจารย์คู่บุญของ สมเด็จพระพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ ที่เป็นพระสหมิกธรรมกับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งเวลามากรุงเทพฯมักจะมาพักสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนวิชากัน จึงได้รู้จัก พระครูทับ และรับวิชาทำเนื้อโลหะเมฆสิทธิ์ไปใช้สร้างพระเครื่องบางรุ่นของท่านด้วย....
...
ชื่อเสียงของ หลวงพ่อทับ วัดอนงค์ แพร่หลาย จากพระเครื่อง-ของขลัง เนื้อเมฆสิทธิ์ ที่มีสร้างไว้หลายแบบ ทั้ง พระปิดตา พระชัยวัฒน์ พระปางซ่อนหา และลูกอม มีผู้นำไปใช้บูชา ปรากฏอานุ ภาพเป็นที่กล่าวขาน องค์นี้ ของ เสี่ยทองกานต์ ศรีอิสรีย์ เป็น พระพิมพ์ปางซ่อนหา ที่ได้รับความนิยมสูง หายากที่สุด ยิ่งเป็นพระแท้ดูง่าย องค์งามสมบูรณ์เดิมๆ แบบนี้ ปัจจุบันราคาพุ่งทะลุล้านไปเรียบร้อยโรงเรียนวัดอนงค์
- ตามมาด้วย พระปิดตา ข้าวตอกแตก เนื้อชินตะกั่ว หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ พระปิดตาองค์จิ๋ว ที่มีพุทธศิลป์เรียบง่ายเป็นเอกลักษณ์ มีสร้างไว้ทั้งเนื้อโลหะตะกั่วผสม ด้านหลังพบทั้งที่มีรอยลายมือจารอักขระ ซึ่งเป็นพระสร้างยุคแรก ครั้งอยู่ที่วัดโคนอน กับที่ไม่มีรอยจาร สร้างที่วัดหนังฯ และ เนื้อผงเคลือบรัก (ดำ) นิยมเรียกพระปิดตา “ข้าวตอกแตก” ตามลักษณะขนาดอย่างเมล็ด “ข้าวตอก” อาหารกินเล่นยุคก่อน....
...
และยังเล่ากันว่า หลวงปู่เอี่ยมท่านปลุกเสกจนองค์พระที่ใส่รวมอยู่ในบาตรมีการเคลื่อนไหวกระทบส่งเสียง เหมือนข้าวตอก ที่แตกเม็ดตอนโดนคั่วไฟ กระเด็นออกจากบาตร--ใครนึกไม่ออกก็ลองคั่วเม็ดข้าวโพด ป๊อปคอร์น ซาวด์เอฟเฟกต์จะคล้ายๆ กัน ได้รับความนิยมเป็นพระปิดตาสร้างชื่อยุคแรกๆ ที่ปัจจุบันนิยมเป็น ๑ ใน พระชุดจิ๋วแต่แจ๋ว โดยเฉพาะองค์ที่เป็นพระแท้ดูง่าย สภาพสมบูรณ์สวยเดิมๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยมาร์ค ดอนเมือง ที่ราคาไม่จิ๋ว เพราะโตเกินตัว ที่หลักแสน
- รายการต่อไป เป็น พระพิมพ์ทรงเม่น (บัวโค้ง) หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พระพิมพ์นิยมมาตรฐานในชุด “พระพิมพ์ทรงสัตว์ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค” คือ พิมพ์ทรงไก่ พิมพ์ทรงครุฑ พิมพ์ทรงหนุมาน พิมพ์ทรงปลา พิมพ์ทรงเม่น พิมพ์ทรงนก ซึ่งแต่ละพิมพ์ยังมีแบบแยกย่อย อย่าง พิมพ์ทรงเม่น ในภาพนี้ ของ เสี่ยพิทยุตม์ สุนทรกลันต์ เป็น ๑ ในพิมพ์ทรงเม่นที่หายาก ได้รับความนิยมสูง แต่มีพบน้อย โดยเฉพาะองค์สภาพงามแชมป์สมบูรณ์ ผงอุดเต็มเดิมๆ แบบนี้ หลักแสนแน่
- องค์ที่เจ็ด เป็น พระรูปเหมือนบูชาชินบัญชร พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง สร้างออกครั้งพิธีสร้าง พระกริ่งชินบัญชร พระปิดตา พระสังกัจจายน์ มอบเฉพาะศิษย์ที่ได้รับการครอบครู เป็นกรรมการจัดสร้างจำนวนเพียง ๑๐ องค์ มีตอกชื่อหมายเลขกำกับที่ฐานทุกองค์ องค์นี้เป็นหมายเลข ๖ ปัจจุบันเป็นของ พระไทรัฐ คำปาน ผู้มีชื่อชั้นเป็นนักนิยมพระ “รังใหญ่” แถวหน้าของเมืองระยอง นะฮิ....
- อีกสำนัก คือ พระกริ่งไพรีพินาศ (บัวเหลี่ยม) พ.ศ.๒๔๙๕ สมเด็จพระสังฆราช (ม.ร.ว.ชื่น นพวงศ์) วัดบวรนิเวศฯ กรุงเทพฯ ประกอบพิธีเททองสร้างในวาระฉลองพระชนม์ ๘๐ พรรษา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๕ พร้อมพระพุทธรูปบูชา เหรียญพระชัยวัฒน์ ออกเผยแพร่เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๖ แยกเป็นพิมพ์บัวเหลี่ยมกับพิมพ์บัวแหลม องค์นี้เป็นพิมพ์บัวเหลี่ยม (ปลายกลีบบัวคว่ำตัดตรง) ที่ได้รับความนิยมสูงกว่าพิมพ์บัวแหลม--องค์งามๆ ดูง่ายๆ แบบนี้ราคาอยู่ที่หลักแสนมานานมากแล้ว
- มาถึงเรื่องปิดท้ายบ๊ายบายเดือนมีนาคม ของ “เฮียเนี้ยว” เจ้าของฟาร์มหมูใหญ่ที่นครปฐม และเป็นนักค้าที่ดิน รวยระดับ “เจ้าสัว” ที่ได้ชื่อเป็นนักนิยมสะสมพระเครื่องรังใหญ่ เฮียเนี้ยว มีพระเครื่องชั้นนำระดับแชมป์สะสมอยู่หลายองค์ โดยเฉพาะพระดี เกจิฯดัง ในพื้นที่นครปฐม แกมีพระแชมป์ๆเก็บครบ ประมาณว่าหลายร้อยล้าน วันก่อน นัดเพื่อนไปทำธุระในสถานที่ราชการ พอเจอก็ทักทายกันรอคิว สักพักใหญ่แกก็เริ่มหงุดหงิดกับความย้วยของระบบราชการ เพื่อนซึ่งเล่นพระเหมือนกันเห็นอาการ ก็ชวนคุยฆ่าเวลา ถามว่า เฮียมีพระดีๆ สะสมไว้มาก แล้วส่วนตัวเฮียใช้พระอะไรบูชาติดตัว ผมจะได้หาใช้บ้าง อยากรวยเหมือนเฮียอ่ะ....
เฮียเนี้ยว มองหน้าเพื่อนแล้วตอบอย่างจริงจังว่า ไม่เคยใช้พระอะไรติดตัวเลยสักกะองค์ เพื่อนก็แปลกใจว่ามีพระตั้งเยอะ น่าจะมีองค์เจ๋งๆใช้ จึงทำหน้าสงกะสัย แล้วก็ได้คำตอบจาก เฮียเนี้ยว ว่า ที่ไม่ใช้ เพราะเดี๋ยวนี้พระดีหายาก ราคาแพง กลัวทำหาย เลยให้พระจำวัดในเซฟ แล้วใช้วิธีบูชา สวดมนต์แทน เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง
คลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม