วันนี้ สนามพระวิภาวดี สัญจรมารายงานความเคลื่อนไหวในวงการพระอยู่ต่างประเทศ ตามที่บอกว่า เราไม่เคยปิดสนามเลย ตั้งแต่เปิดเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๙ เชื่อหรือยัง

  • องค์แรก ขอเสนอจักรพรรดิแห่งพระเครื่อง พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆษิตาราม เขตบาง กอกน้อย กรุงเทพฯ เป็นพระองค์งามจนมีฉายาเป็นตำนานว่า “องค์เกศสะบัด” ตามจุดเด่นเอกลักษณ์ในพิมพ์องค์พระ ที่ปลายยอดพระเกศ สะบัดเห็นชัด ต่างจากองค์อื่นๆในแม่พิมพ์เดียวกัน ซึ่งกูรูบอกว่า น่าจะเกิดจากการสั่นไหวตอนถอดองค์พระออกจากแม่พิมพ์ส่วนบน เพราะส่วนอื่นในพิมพ์พระยังถูกต้องคงที่ และเส้นศิลป์ติดเต็มสมบูรณ์ลึกชัดเท่ากันทั่วองค์

พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ (องค์เกศสะบัด) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังฯ ของ ธีรพล นพรัมภา.
พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ (องค์เกศสะบัด) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังฯ ของ ธีรพล นพรัมภา.

...

เดิมเจ้าของคือ เจ้าพ่อนครสวรรค์ เจ้าสัวนิยม อสุนี ณ อยุธยา นักนิยมพระชื่อดัง ซึ่งเคยเป็นรังพระใหญ่ที่ใครๆร่ำลือ ซึ่งมีพระเครื่องระดับเยี่ยมๆมากมาย จนต้องทำห้องพระขนาดใหญ่ ที่มีประตูแบบตู้เซฟ กำแพงหนาตึ้กไว้คุ้มครองพระ ป้องกันโจรบุกรุก พระรังคุณนิยมจึงเป็นที่หมายปองต้องตาของใครๆ แต่ก็บุกยาก เพราะเจ้าของไม่ค่อยอยากขาย และถ้าจะขายก็ตั้งราคาแพง แบบคนฟังหงายหลัง ชักแหง็ก

จนสิบกว่าปีก่อน พระคุณนิยมถึงมีการระบายออกสู่ตลาดเป็นระยะ รวมถึงพระสมเด็จองค์นี้ ที่มีการผ่องถ่ายถึงรัง เสี่ยวิชัย ศรีวัฒนประภา แห่งคิง เพาเวอร์ผู้ล่วงลับ โดยนิมนต์ออกไปพร้อม พระสมเด็จองค์รักทอง ต่อมาองค์นี้ก็ผ่านไปถึง “เสี่ยโป๋” ธีรพล นพรัมภา นักนิยมพระเบอร์ต้น ซึ่งสะสมอย่างมีความรู้ ตาถึง ใจถึง และเงินถึง

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส ของไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์.
พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส ของไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์.

  • องค์ที่สอง ซึ่ง “โป๊ยเสี่ย” ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ ได้มาล่าสุด คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส เขตพระนคร กรุงเทพฯ เป็นพระสภาพสวยเนี้ยบ เฉียบทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เนื้อมวลสาร สภาพคราบฝ้า รากรุ ก็ถูกต้อง  จนไม่ต้องแจกแจงอะไรกันมาก

พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ (แชมป์ศรีนคร) วัดนางพญา ของธีรพล นพรัมภา.
พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ (แชมป์ศรีนคร) วัดนางพญา ของธีรพล นพรัมภา.

  • ตามมาด้วย พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ (แชมป์ศรีนคร) วัดนางพญา อ.เมือง จ.พิษณุโลก องค์นี้คนเห็นก็จำได้ว่าเป็น “องค์แชมป์” ระดับตำนานจากอดีตถึงปัจจุบัน ที่ยังหาองค์เทียบชั้นไม่เจอ เพราะฟอร์มทรงที่สมส่วน พิมพ์พระที่ล่ำ และลึกสุดพิมพ์ รายละเอียดชัดทั้งตา จมูก ปาก หู เนื้อมวลสารชั้นใน ผิวเนื้อชั้นนอก คราบฝ้า รากรุ รายละเอียดทุกเส้นศิลป์สมบูรณ์เต็มร้อย

...

และพอบอกว่า เคยเป็นพระของนักสะสมรุ่นใหญ่ท่าน สมชาย มาลาเจริญ ซึ่งคว้าแชมป์มา จากงานประกวดพระครั้งประวัติศาสตร์ของแบงก์ศรีนคร พ.ศ. ๒๕๑๙ คู่กับพระรอด “องค์เขียว” ที่เพิ่งให้ชมไปครั้งก่อน วันนี้ถึงเวลาที่สมบัติผลัดกันชม พระจึงย้ายรังไปอยู่ในครอบ ครองของ เสี่ยโป๋-ธีรพล อีกองค์

พระเลี่ยง เนื้อเขียวหินครก กรุวัดมหาวัน ของตะวัน พระสกุลลำพูน.
พระเลี่ยง เนื้อเขียวหินครก กรุวัดมหาวัน ของตะวัน พระสกุลลำพูน.

  • ขึ้นเหนือดู พระเลี่ยง เนื้อเขียวหินครก กรุวัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน ๑ ในขุนพลพระ “สกุลลำพูน” ศิลปะพระเป็นทรงสามเหลี่ยม ยอดแหลม เนื้อดินเผา ศิลปะช่างเมืองละโว้ ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางสะดุ้งมารในซุ้ม มียักษ์ขนาบอยู่ซ้าย-ขวา เหนือฐานลูกแก้วรองรับด้วยเศียรช้าง รอบองค์มีเม็ดไข่ปลาเรียงล้อมรอบ นิยมเรียกเป็น “พระเหลี้ยม” ที่ภาษาเหนือแปลว่า แหลม ตามลักษณะองค์พระ มี ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์บัวเม็ดกับพิมพ์บัวเหลี่ยม จาก ๔ กรุ คือ กรุวัดประตูลี้ พบทั้ง ๒ พิมพ์ กรุวัดมหาวัน เป็นพิมพ์บัวเหลี่ยม แบบไม่มีเส้นขวางใต้รักแร้ องค์พระล่ำใหญ่เนื้อละเอียด ของ กรุวัดดอนแก้ว เป็นพิมพ์บัวเหลี่ยม มีเส้นขวางใต้รักแร้ และ กรุวัดดอยติ เป็นพระพิมพ์เดียวกับกรุวัดดอนแก้ว ต่างที่เนื้อจะหยาบกว่า และการปาดหลังไม่เหมือนกัน องค์นี้ของ เสี่ยตะวัน พระสกุลลำพูน สภาพพระสมบูรณ์พองาม เด่นที่สีเนื้อเขียว ที่มีน้อย หาพบยากมาก สำคัญสุดเป็น พระกรุวัดมหาวัน ร่วมกับ พระรอด ที่พบกรุนี้ที่เดียว

...

พระวัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม ของ พรรค คูวิบูลย์ศิลป์.
พระวัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม ของ พรรค คูวิบูลย์ศิลป์.

  • ตามมาด้วย พระวัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

เชื่อกันว่าสร้างบรรจุไว้โดย พระญาณสังวรฯ ตอนได้รับสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระญาณสังวร ครองวัดราชสิทธาราม ที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก สร้างรวมเป็นหนึ่งเดียวกับวัดพลับ และสำเร็จในสมัย ร.๒ โดยมี หลวงตาจัน พระเกจิฯลูกวัดชาวเขมร เป็นผู้ช่วยดำเนินการ

แยกพิมพ์ได้เป็น ๑.พิมพ์ยืนวันทาเสมา ๒.พิมพ์สมาธิเข่ากว้าง ๓.พิมพ์สมาธิ ใหญ่ กลาง เล็ก ๔.พิมพ์พุงป่อง ใหญ่-เล็ก ๕.พิมพ์ตุ๊กตา ใหญ่-เล็ก และ ๖.พิมพ์พระปิดตา ฯลฯ--องค์นี้ของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ เป็นพระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ บรรจุกรุ

...

เป็นพระที่นักเล่นพระบอกกันว่าน่าใช้บูชา เก็บรักษามากๆ เพราะมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ ครบเครื่องทั้งบู๊-บุ๋น และศักดิ์ศรีผู้สร้าง ที่ได้ชื่อเป็นพระอาจารย์ของท่านเจ้าประคุณฯ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)--พระวัดพลับจึงเป็นพระดีมีอนาคต ที่สำคัญคือราคายังจ่ายไหว และมีจำนวนหมุนเวียนให้พอหาได้ เลือกได้

เหรียญหล่ออรุณเทพบุตร พ.ศ.๒๔๖๐ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ของทองกานต์ ศรีอิสรีย์.
เหรียญหล่ออรุณเทพบุตร พ.ศ.๒๔๖๐ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ของทองกานต์ ศรีอิสรีย์.

  • องค์ที่หกเป็น เหรียญอรุณเทพบุตร รุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๖๐ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นเหรียญหล่อ ยอดนิยมอันดับ ๑ ของสมุทรสงคราม และเป็นเหรียญหล่อยอดนิยม ราคาหลักล้าน ที่หาพบพระแท้ๆ ยากสุดๆ ยิ่งเป็นองค์สภาพงามเนี้ยบเดิมๆ แบบองค์นี้ของ เสี่ยทองกานต์ ศรีอิสรีย์ นักนิยมพระเครื่องแถวหน้า ก็แทบไม่ต้องไปหาให้ยาก

สำหรับ อรุณเทพบุตร เป็นเทวดา ในศาสนาฮินดู ที่มีหน้าที่เป็นโชเฟอร์บังคับม้าของพระอาทิตย์ ซึ่งถือว่าเป็นงานสำคัญ ไม่ใช่คาวบอยธรรมดา ชาติตระกูลของ อรุณเทพบุตร ก็สูงส่งไฮโซ เป็นลูกของ นางวินตา ซึ่งมีลูกอีกคนคือ พญาครุฑ คนอ่านวรรณคดีจะพบชื่อ อรุณเทพบุตร และในศาสนาพุทธ ซึ่งชื่อ วัดอรุณราชวรารามราช วรมหาวิหาร ก็มาจากนามของเทพองค์นี้ ที่นักเล่นของเก่าทราบกันคือ เรามีศิลปะลวดลาย อรุณเทพบุตร โดย ลายอรุณเทพบุตร จะเป็นแบบครึ่งองค์ ที่เกิด ลายอรุณเทพบุตร ขึ้น ก็เพราะเหตุผลทางการเมือง ตอนเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ ที่ คณะราษฎร อยากใช้ลายที่เรียบง่าย สะท้อนความหมายความเสมอภาค และเป็นสามัญชน จึงเลือก เทพระดับโชเฟอร์ของพระอาทิตย์ มาแทนลวดลายระดับเทพผู้สูงศักดิ์ เช่น พระนารายณ์ทรงครุฑ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ แต่ตอนหลังก็สร่างซาความนิยมไป ยังมีให้เห็นอยู่หน้าบันของโบสถ์วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน และเหนือซุ้มประตูของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

เหรียญกรมหลวงชุมพรฯ รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๖๖ เนื้อเงินกะไหล่ทอง ของมีชัย เถาเจริญ.
เหรียญกรมหลวงชุมพรฯ รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๖๖ เนื้อเงินกะไหล่ทอง ของมีชัย เถาเจริญ.

  • กลับมาสนามเราต่อ ดูอีกเหรียญ เหรียญข้าวหลามตัด กรมหลวงชุมพรฯ พ.ศ.๒๔๖๖ เนื้อเงินกะไหล่ทอง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุกเสกสร้างออกในงานพิธีพระเมรุสนามหลวง มีเนื้อทองคำ เงิน ทองแดง ทองแดงผิวไฟ ทองแดงกะไหล่เงิน ทองแดงกะไหล่ทอง เป็นเหรียญรูปทรงข้าวหลามตัด ด้านหน้าเป็นรูปจำลองท่านครึ่งองค์ ฉลองพระองค์ชุดนายทหารเรือเต็มยศ จารึกข้อความรอบว่า กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ มีลวดลายกนก ด้านหลังกลางเหรียญเป็นรูปพระอาทิตย์ทรงราชรถ ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ มีข้อความจารึกรอบว่า “ที่ระฤกงานพระเมรุ ท้องสนามหลวง วันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๖”

แบ่งออกเป็น ๒ พิมพ์ คือ ๑.พระขรรค์เต็ม ๒.พระขรรค์ขาด จุดพิจารณาอยู่ตรงช่วงต่อพระขรรค์กับพระหัตถ์เหรียญ ในภาพนี้เป็นเหรียญหลักยอดนิยม ราคาหลักล้าน ที่หายากสุดๆ โดยเฉพาะองค์งามๆ สภาพเดิมๆ แบบเหรียญนี้ของ ดร.มีชัย เถาเจริญ นักนิยมพระที่แฟนคลับรอดูพระแท้หายากองค์งามๆ ที่ส่งมาให้ฮือฮากันต่อเนื่อง ตามเรื่องของคนชอบพระ

เสือ (เขาควายแกะ) หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก ของ ทองกานต์ ศรีอิสรีย์.
เสือ (เขาควายแกะ) หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก ของ ทองกานต์ ศรีอิสรีย์.

  • สุดท้ายเป็นเครื่องรางของขลัง เสือ พระครูเทพสิทธิการ (หลวงพ่ออํ่า) วัดหนองกระ บอก จ.ระยอง อมตะพระเกจิอาจารย์เมืองระยอง เจ้าของตำรับสร้าง แพะ ด้วย เขาควายเผือก ที่มีอานุภาพสูงด้านเมตตามหาเสน่ห์ เป็นเครื่องรางยอดนิยม ท่านเป็นชาวระยอง เรียนวิชาคาถาอาคมกับหลวงปู่สังข์เฒ่า วัดเก๋งจีน หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน หลวงพ่อแดง วัดหนองกระบอก--ชาวบ้านนิยมเรียกท่านว่า หลวงพ่ออ่ำเรือเก่า มีชื่อเสียงด้านเมตตามหานิยม คู่มากับหลวงพ่อวง วัดบ้านค่าย ผู้เป็นพระสหมิกธรรม ตลอดอายุท่านสร้างวัตถุมงคลเพียงเครื่องรางของขลัง เช่น สีผึ้ง ตะกรุด ผ้ายันต์ ที่มีชื่อเสียงสูงสุดเป็น ตัวแพะ ที่แกะจาก เขาควายเผือก ที่ท่านเลี้ยงไว้ และโดนฟ้าผ่าตาย จึงเอาเขามาแกะ มีทั้งตัวผู้ ตัวเมีย และเป็นรูปสัตว์ตามปีนักษัตรอื่นๆ เช่น ม้า เสือ ที่มีน้อยหาพบยาก ที่ได้รับความนิยมเป็นงานฝีมือช่าง ครูพลับ ศิริผล, ปลัดเจริญ และ ลุงพัน ซึ่งฝีมือ “ครูพลับ” ได้รับความนิยมสูงสุด ฝีมือแกะดูงดงามสมจริง เหมือนมีชีวิต

เชื่อว่า ครูพลับ เป็นผู้แกะ เสือ หลวงพ่ออ่ำ ตัวนี้ ซึ่งพบในกำปั่นของหลวงพ่อ หลังท่านสิ้น เมื่ออายุ ๘๗ ปี พ.ศ.๒๔๙๕--ปัจจุบัน เสือเขาควายเผือก ตกมาเป็นของ เสี่ยทองกานต์

ลากันด้วยเรื่องปิดท้ายของ คุณย่าสำรวย เจ้าของสวนผลไม้ ในนครปฐม ซึ่งมี พระเนื้อผงยาวาสนา จินดามณี มรดกของสามี ที่ตายไปปีก่อนเก็บรักษาไว้ เพื่อให้หลานชายกำพร้าพ่อแม่ ที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก พอหลานเรียนจบรับปินยา คุณย่าก็ทำตามคำสั่งเสียของคุณปู่ เอาพระไปให้หลานบอกว่า ไม่รู้พระอะไร ปู่แกให้ไว้ เพื่อใช้ปกป้องคุ้มครองตัว หลานรับพระแล้วบอกว่า จะเอาพระไปตรวจดูว่าเป็นพระอะไร...รุ่งขึ้นหลานจึงกลับมาบอกย่าอย่างตื่นเต้นว่า เป็น พระของหลวงปู่บุญ ราคาหลายแสน ย่าฟังแล้วมีอาการตกใจ บอกหลานให้รีบเอาไปขาย เอาเงินเก็บไว้ดีกว่า ที่ย่าฝ่าฝืนคำสั่งปู่ เพราะแกหัวคิดทันสมัย บอกว่า ถ้าอยากให้พระคุ้มครอง ก็ใช้วิธีจุดธูปอธิษฐานเอาก็ได้ เพราะสมัยนี้เอาของดีมีราคาติดตัวเป็นอันตราย พระราคาขนาดนี้ขืนเอามาใช้ย่าก็กลัวว่าหลานจะต้องคุ้มครองพระมากกว่าพระคุ้มครองหลาน เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง

คลิกอ่านคอลัมน์ “สนามพระ” เพิ่มเติม