พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆังฯ องค์บริบูรณ์บาล์ม ของ ธีรพล นพรัมภา.
ก้าวเข้าสนามพระวันนี้ ก็มีทั้งคนหน้าเหี่ยวหน้าบาน ซึ่งเป็นผลมาจากหวยรัฐ--หวยเจ้ามือเมื่อวานนี้ แต่คนที่ถูกเต็งๆก็ยังมีบ่นว่าเจ้ามือเอาเปรียบ มีเลขอั้น งวดนึงเป็นร้อยๆตัว จนน่าจะบอกตรงๆว่า อั้นจ่ายครึ่งเดียวทุกตัว ส่วนแผงขายลอตเตอรี่ก็ยังบวกเกินราคา เพราะต้องผ่านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว--เป็นปัญหาเดิมๆที่แก้ไม่เคยสำเร็จ แต่ยุคนี้ถือว่าดีขึ้นมาก เพราะให้ซื้อราคายุติธรรมผ่านแอปเป๋าตังได้
ไปว่ากันที่พระเครื่องของเรา ซึ่งเป็นหนึ่งในที่พึ่งทางจิตวิญญาณของพี่ไทยมาแต่โบราณ องค์แรกคือ พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ ลงรัก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังฯ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เป็นพระสมเด็จองค์ดังในตำนาน ฉายา องค์บริบูรณ์บาล์ม ที่น้อยคนจะได้เคยเห็นองค์จริง ที่มีความงามสมบูรณ์ระดับ “พระองค์ครู”
ได้รับการเรียกขานตามชื่อเจ้าของ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทยาสามัญประจำบ้าน มีทั้งยาหอม ยาลม ยาดม ยาหม่อง ซึ่งรุ่นเก่ารู้จัก ยาหม่องบริบูรณ์บาล์ม ทุกคน
เจ้าของมีชื่อชั้นเป็นนักสะสมพระเครื่องแถวหน้ายุคแรกๆ ได้พระองค์นี้มาก่อนปี พ.ศ.๒๕๐๐ ก็เก็บรักษามาอย่างดี รู้คุณค่า นานๆจะนำ องค์จริง ออกมาให้ชมไม่กี่ครั้ง และไม่กี่คน มีเพียงภาพให้ได้กล่าวถึงความงามสมบูรณ์ของฟอร์มทรงที่สมส่วน
พิมพ์พระคมชัด มองเห็นได้แม้มีการลงรักเคลือบองค์พระหน้า-หลัง ซึ่งมีส่วนหนาบางต่างกัน เป็นที่กล่าวถึงว่า เป็นพระสมเด็จมีรักเคลือบเต็ม ที่งามสมบูรณ์เป็นที่สุด
จน ๑๐ กว่าปีที่ผ่านมา นักนิยมพระยุคปัจจุบันนำโดย เสี่ยต้า บางแค กับพรรคพวก ได้เข้าเจรจากับทายาท ผู้รับมรดก นำพระเปลี่ยนมือออกมาสำเร็จ แล้วส่งเข้ารัง เสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ ซึ่งเป็นนักนิยมพระใหม่ไฟแรงของยุคนั้น ก็เก็บรักษาอยู่นาน ก่อนมีเหตุให้ต้องปล่อยออกมาพร้อมๆพระหลักชั้นเยี่ยมชุดใหญ่
...
ซึ่งตกไปเป็นพระของ “เสี่ยโป๋ ” ธีรพล นพรัมภา นักนิยมพระเบอร์ใหญ่ที่สะสมพระดังองค์เด็ดประวัติดีแบบเงียบๆ แต่เก็บเรียบ เพราะทุ่มไม่อั้น--ปัจจุบันได้ชื่อเป็น “รังใหญ่” ที่มีพระดี พรีเมียม องค์ดังอยู่มาก รวมถึงองค์นี้และอีกหลาย องค์ที่จะมีมาให้ แฟนคลับสนามพระวิภาวดี ได้ชมต่อเนื่อง
องค์ที่สอง เป็น พระสมเด็จ พิมพ์เจดีย์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ อีกองค์ของ โป๊ยเสี่ย–ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์
เป็นพิมพ์เดียวกับองค์ที่ลงภาพไปอาทิตย์ก่อน สีเนื้อผิวพรรณขาวสะอาด สภาพงามสมบูรณ์สูสีกัน “นาย” เพิ่งได้มาใหม่เหมือนกัน ยืนยันความเป็นนักนิยมพระเครื่องด้วยจิตวิญญาณ ที่ใจอ่อนทุกทีที่เจอพระสวยแชมป์
องค์ที่สาม เป็น พระรอดเนื้อเขียว พิมพ์ใหญ่ (องค์คุณสมชาย) วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน องค์นี้ก็มีชื่อขึ้นเป็นตำนาน ว่าเป็นพระที่ได้สมญานามว่า องค์ “คุณสมชาย” ตามชื่อเจ้าของ คุณสมชาย มาลาเจริญ นักนิยมสะสมพระเครื่องผู้มีรสนิยมอยู่แถวหน้าตั้งแต่ยุคเริ่มแรก
ได้รับการยกย่องว่าเป็น “พระรอดพิมพ์ใหญ่” ที่งามสมบูรณ์พร้อม ทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เนื้อมวลสาร ผิวพรรณวรรณะ (สีเนื้อ) สภาพคราบกรุ ระดับท็อป ๕ ของวงการ
และก็เป็น องค์แชมป์ พระรอดเนื้อเขียว พิมพ์ใหญ่ ที่ถึงบัดนี้ยังหาองค์เทียบเคียงไม่เจอ ซึ่งเมื่อกล่าวถึงสมญานามพระองค์นี้ นักนิยมพระรุ่นก่อนจะนึกถึงภาพพระองค์นี้ได้อย่างแจ่มชัดทันที--ถึงวันนี้องค์พระได้มีการถ่ายย้ายรังมาเป็นของ เสี่ยโป๋–ธีรพล นพรัมภา เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคนในวงการบอกว่าคงจะอยู่จำวัดที่นี่อีกนาน
...
องค์ที่สี่ คือ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้น อกตัน วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ของ เสี่ยวีระชัย ไชยเจริญ
เป็นพระพิมพ์กลาง ๑ ใน ๓ พิมพ์มาตรฐาน ในสกุลพระสมเด็จเกศไชโย ที่มีการ ซื้อขายคล่องตัวมากสุดในปีที่ผ่านมา
ต่อเนื่องถึงปีนี้ก็ยังเป็นพระอินเทรนด์อยู่ เพราะเป็น ๑ ใน ๓ พระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต ที่มีราคาเบาสุด--ที่สำคัญมีจำนวนพระออกหมุนเวียนพอให้หาได้ไม่ยากนัก
...
ตามมาด้วย พระบาง เนื้อเขียว หินครก วัดดอนแก้ว อ.เมือง จ.ลำพูน ของ เสี่ยปรีดา คูวิบูลย์ศิลป์
เป็นพระสภาพงามสมบูรณ์ สวยแชมป์เดิมๆ เด่นสุดที่สีเนื้อ (เขียวหินครก) นิยมหายากสุด
รายละเอียดในพระพักตร์ พระเนตร พระนาสิก พระโอษฐ์ ติดชัด เส้นศิลป์ที่ติดเต็มรูปทรงตรงสเปก หลังพระเนื้ออูมเต็ม รอยปาดข้าง ถูกต้องตามตำรา แบบนี้ราคาว่ากันหลักแสนกลางถึงปลายแน่ๆ ขอบอก
อีกรายการ เป็น เหรียญพระพุทธ ๒๕ พุทธศตวรรษ เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๐๐ ของ พุทธสมาคม โดย พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เป็นประธานกรรมการ จัดสร้างในวาระปีกึ่งพุทธกาล คือ ๒,๕๐๐ ปี พร้อมสร้างองค์พระพุทธลีลา องค์ประธานขนาดความสูง ๒,๕๐๐ นิ้ว บนเนื้อที่ ๒,๕๐๐ ไร่ ที่ ต.ศาลายา อ.สาม พราน จ.นครปฐม
...
และสร้างวัตถุมงคลหลายแบบ พระเครื่อง เรียกว่า พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ มี พระเนื้อชิน พระเนื้อดิน รวม ๔,๘๔๒,๕๐๐ องค์
พระบูชาจำลอง แบบองค์ประธาน สูง ๙ ซม. ๔ องค์ เป็นเนื้อทองคำ นน.รวม ๕๕ บาท กรมธนารักษ์เป็นผู้จัดสร้างเหรียญเนื้อทองคำ แบบเดียวกับเนื้อชิน หนัก ๖ สลึง ๒,๕๐๐ องค์ ราคาสั่งจององค์ละ ๒,๕๐๐ บาท ผู้สั่งจองต้องจ่ายมัดจำวันสั่งจอง ๑,๐๐๐ บาท วันรับพระชำระส่วนที่เหลือ
ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ๓ วัน ๓ คืน ในพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม โดยสมเด็จพระราชาคณะ ๒๕ รูป เจริญพระพุทธมนต์พระคณาจารย์ทั่วประเทศร่วมปลุกเสก บรรจุพุทธาคม ๑๐๘ รูป
องค์นี้ของ เสี่ยต้อม พระสิงห์ เป็นพระเนื้อทองคำ ๑ ใน ๒,๕๐๐ องค์ ที่มีสภาพงามสมบูรณ์สวยเดิมๆ--ปัจจุบันมีราคาสูงถึงหลักล้าน มากน้อยตามสภาพ
อีกเหรียญเป็น หล่อหลังเตารีด ปั๊มซ้ำ พ.ศ.๒๕๐๕ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จัดสร้างคราวเดียวกับ เหรียญหล่อหลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ กลาง เล็ก
โดย พระองค์ เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร (พระองค์ชายกลาง) ทรง รับเป็นประธานอุปถัมภ์ โดยนำชนวนโลหะเนื้อต่างๆ อาทิ ก้อนทองคำ เงิน แผ่นจารอักขระเลขยันต์ ไปทำพิธีเทหล่อที่กรุงเทพฯ
โดย อ.สวัสดิ์ เดชพวง เทหล่อ เป็น ๓ ขนาด คือ ใหญ่ กลาง เล็ก ส่วน เนื้อเมฆพัตร เทเป็นช่อไม่ได้ ต้องใช้แม่พิมพ์เป็นเหล็ก เทหยอดทีละองค์ ได้จำนวนพระเพียง ๑ พันองค์ เนื่องจากส่วนผสมเนื้อหมด
สำเร็จแล้วนำกลับเข้าพิธีปลุกเสกที่พระอุโบสถวัดช้างให้ เมื่อวันที่ ๑๖-๑๙ พ.ศ.๒๕๐๕ พร้อม พระรูปเหมือนหลวงปู่ทวด ขนาดบูชา รูปหล่อลอยองค์เนื้อนวโลหะ ตอกเลขใต้ฐาน ๙๙๙ องค์ เหรียญทรงน้ำเต้า แหวนเนื้อทองเหลือง พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน (รุ่นพินัยกรรม) จำนวน ๒,๐๐๐ องค์
องค์นี้ของ เสี่ยโอ ช.เจริญฟาร์มาซี เป็น พระหลังเตารีดใหญ่ปั๊มซ้ำ (เป็นองค์ที่หล่อไม่คมชัด จึงนำมาปั๊มซ้ำ) ที่อยู่ในสภาพสวย คมจัดชัดเจนเดิมๆ ระดับแชมป์ สมราคาหลักแสนปลาย
ถัดไป เป็น พระสมเด็จปิลันทน์ พิมพ์ปรกโพธิ์เล็ก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต เสนีย์วงศ์) วัดระฆังฯ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ศิษย์สายตรงองค์จริง ผู้รับสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังฯโดยตรง และรับถ่ายทอดวิชาพุทธาคมในฐานะศิษย์เอก
ท่านสร้างพระพิมพ์นี้ขึ้นครั้งดำรงฐานา พระพุทธบาทปิลันทน์ เป็น พระเนื้อผงพุทธคุณ (ขาว) กับเนื้อผงใบลาน สีเทาดำพบทั้งที่บรรจุกรุ มีไขขาวขึ้นคลุมผิวเนื้อ กับที่ไม่บรรจุกรุ ไม่มีคราบกรุไขขาว
ได้รับความนิยมเป็นพระพิมพ์ใช้แทน “พระสมเด็จฯ” ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต เพราะเชื่อว่ามี ผงพุทธคุณ ๕ ประการ ของสมเด็จโต เป็นมวลสารผสม จึงมั่นใจว่ามีอานุภาพพุทธคุณเหมือนกัน
มีพิมพ์พระแตกต่าง ไม่ซ้ำแบบองค์พระอาจารย์มากกว่า ๑๐ พิมพ์ เช่น พิมพ์ซุ้มประตู พิมพ์ครอบแก้ว ใหญ่-เล็ก พิมพ์เปลวเพลิง ใหญ่-เล็ก พิมพ์ปรกโพธิ์หลายพิมพ์ทั้งซุ้มสี่เหลี่ยม ซุ้มครอบแก้ว พิมพ์ใหญ่-เล็ก พิมพ์โมคคัลลาน์-สารีบุตร พิมพ์ปางปฐมเทศนา พิมพ์พระปิดตา และอื่นๆ--องค์นี้ของ เสี่ยก้อง ท่าพระจันทร์ เป็นพระพิมพ์ปรกโพธิ์เล็ก เนื้อขาวอมเหลือง ที่หายากเวรี่มาก
ลากันด้วยเรื่องปิดท้ายของ โทนี่ ครูสอนภาษาชาวแคนาดา อายุ ๕๖ ปี มาอยู่ในเมืองไทย ๖ ปีแล้ว ได้ภรรยาเป็นคนอุบลฯ จึงตัดสินใจปักหลักอยู่เมืองไทย ไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่บ้านเมีย มีเวลาเหลือก็ช่วยทำไร่ ทำนา ด้วยความขยันขันแข็ง
แต่ผ่านไป ๒ ปี คุณเมียฝรั่งนิสัยเปลี่ยนไป อารมณ์เสียง่าย หาเรื่องด่าว่าผัวเสมอถึงขนาดตบตีก็บ่อย โทนี่ ก็เครียดจึงไปปรึกษาเพื่อนบ้านคนไทย ซึ่งมีอาชีพหลักเป็นครู อาชีพรองเป็นเซียนพระท้องถิ่น
ก็ได้รับคำปลอบใจว่า คงวัยทอง และแนะนำว่าคนไทยถือว่ากำลังซวย ต้องหาพระเครื่องดีๆมาคล้องคอ ให้มีเมตตามหานิยม เมียจะได้ไม่ด่า
โทนี่ หูผึ่ง บอกเพื่อนให้ช่วยหาพระดีๆให้หน่อย เพื่อนก็บอกว่า พอหาได้ แต่พระเครื่องดีๆแพง อย่างผู้ชายต้องใช้ พระสมเด็จ ตอนนี้มีอยู่ ๔ องค์ องค์หนึ่งเป็นพระใช้สึก ไม่สวย แต่ราคาเบาๆแค่สองแสน แต่ไม่ต้องตกใจ ซื้อไว้เป็นการลงทุน พอเมียพ้นวัยทองเลิกด่า ก็ค่อยเอามาขายคืน อาจได้กำไร
โทนี่ ก็สนใจ และไปบอกเมียว่า ถ้ายังไม่เลิกด่าไอจะเอาเงินสองแสนไปซื้อพระมาใช้ป้องกัน เมียได้ฟังก็หูผึ่ง บอกอย่าไปเชื่อเพื่อนไม่ชัวร์ว่าจะได้พระแท้ และก็ไม่แน่ว่าจะทำให้ไอเลิกด่ายูได้
และแนะนำว่า เอาแน่ๆ ยูเอาเงินสองแสนมาให้ไอดีกว่า ไอสัญญาว่าจะเลิกด่าตลอดชีวิตเรยย์ เพราะที่ไอเครียด หาเรื่องบ่อยๆ ไม่ใช่เพราะวัยทอง แต่เพราะเอาโฉนดบ้านไปจำนองไว้ ๒ แสน พอดีถึงกำหนดเขาจะมายึดแล้ว แต่ถ้าได้เงินยูมาไถ่ ไอก็ไม่เครียดถ้าไม่เครียด ก็ไม่ต้องอาละวาด
เป็นอันว่าเงินสดสองแสนเจ๋งกว่าพระ เพราะทำให้เมียเลิกด่าได้ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง