ในจำนวนพระชุดเบญจภาคีมีพระสมเด็จ พระนางพญา พระรอด พระผงสุพรรณ และพระซุ้มกอ ว่ากันโดยประจักษ์หลักฐาน มีพระผงสุพรรณเท่านั้น ที่มีจารึกลานทอง ยืนยันว่าองค์กษัตริย์ผู้สร้าง ไม่เพียงทรงเจตนาทำพระพิมพ์เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา...ยังระบุชัดถึงวัสดุที่สร้าง วิธีการสร้าง วิธีการใช้

และน่าจะเป็นพระเครื่องชนิดเดียวที่ระบุว่า สร้างไว้ให้เป็นพระเครื่อง คุ้มครองป้องกันภัย ขอโชคลาภ ฯลฯ

ในจารึกลานทองที่พบหลายแผ่น แผ่นหนึ่งกล่าวถึงการสร้างไว้...(บางตอน) ต่อไปนี้

ศุภมัสดุ 1265 สิทธิการิยะ แสดงบอกไว้ให้รู้ว่า ฤาษีทั้งสี่ตน พระฤาษีพิมพิลาไลย์ เป็นประธาน จึงพร้อมกันนำเอาแต่ว่านทั้งหลาย มาช่วยกันทำพิธีเป็นพระพิมพ์ไว้ สถานหนึ่งแดง สถานหนึ่งดำ ให้เอาว่านทำเป็นผงก้อน พิมพ์ด้วยลายมือของมหาเถรปิยะทัสสะสี ศรีสารีบุตร ให้เอาแร่ต่างๆ มีอานุภาพต่างๆกัน เสกด้วยมนตร์คาถาครบ 3 เดือน

แล้วท่านให้เอาไปประดิษฐ์ไว้มนสถูปแห่งหนึ่งที่เมืองพันทูม ฯลฯ

รู้เรื่องเดิมตามคัมภีร์โบราณแล้ว ก็ต้องรู้ต่อไปว่าค่านิยมของพระผงสุพรรณ มาตรฐานการตลาดวันนี้แพงมาก  จึงมีพระปลอมแอบแฝงจำแลงกายมาล่อหลอกมากมาย จำเป็นต้องเรียนวิชาหาหลักเกณฑ์ดูพระแท้เอาไว้

พระผงสุพรรณมีสามพิมพ์ พิมพ์หน้าแก่ พิมพ์หน้ากลาง พิมพ์หน้าหนุ่ม องค์ในคอลัมน์วันนี้เป็นพิมพ์หน้าแก่...เนื้อเหลืองอมแดง  มีคราบฝ้ารารัก จมลึกอยู่ในพื้นผนัง ทำให้องค์พระดูลอยเด่นเป็นสง่า

ในพื้นผนังที่เห็นคราบฝ้ารักราดำนั่นแล...ค่อยๆพิจารณาไล่เรียงตั้งแต่ส่วนกระจังหน้าผาก...ในองค์พระที่ติดพิมพ์ลึกชัด...จะเห็นตำหนิหลุมลึกรูปสามเหลี่ยม...ตำหนินี้ไม่ค่อยมีเซียนชี้...เพราะไม่มีทุกองค์

ยิ่งองค์ที่ติดพิมพ์ลึกมากๆจะเห็นร่องกระจังหน้าผากยกสูง เหมือนท่านสวมหมวกกะโล่ในร่องหูซ้าย...ทุกองค์มีตุ่มติ่งเกรอะกรัง แต่ในร่องหูขวา...ส่องให้ดี มีวงกลมเหมือนตะขอสับหน้าต่าง ชัดบ้างลางเลือนบ้าง

...

อ่านจากตัวหนังสือแล้วมโนตามยาก ควรหาภาพพระพิมพ์เดียวกันมาเทียบเคียงความแตกต่าง

เพราะตุ่มตำหนิ เส้น หรือเสี้ยน ที่ดูเลอะๆ เลือนๆเปื้อนๆนั่นแล...เป็นสิ่งชี้วัดพระแท้ แม้ของปลอมพยายามทำตาม แต่ลักษณะไม่เป็นธรรมชาติเหมือนพระแท้

จบจากสองร่องหูแล้วละสายตามาดูบริเวณพระศอ ที่ดูว่างๆ...ตั้งแต่บริเวณว่างตรงพระศอลงมา มีเส้นเสี้ยนยาวคดเคี้ยว...ตั้งแต่ใต้คางลงมา เหมือนราดน้ำให้ไหล...มีหลายเส้น...ไม่แน่นอน แต่มากน้อยก็ต้องมี

องค์ที่ติดพิมพ์คมชัดมาก ถ้ายังไม่สึกลบเลือน เส้นน้ำตกจากคอ ไหลบ่าขึ้นไปบนเนินอก...มโนตาม ทางน้ำตกต่อ...มีเส้นหนึ่งผ่านอกค่อนไปทางซ้าย ต่อลงมาถึงพื้นผนัง ไปชนข้อมือซ้าย

ที่จริงมีเส้นน้ำตกหลายเส้น ติดทั้งเส้นบ้าง ขาดวิ่นบ้าง ติดเต็มยาวจากเนินอกมาถึงข้อมือมีชัด อยู่เส้นเดียว...แต่ส่วนใหญ่เหลือให้เห็นเป็นเส้นก่อนชนตรงเว้าข้อมือ

มองไปที่พื้นผนังว่างระหว่างอกกับแขนขวา...องค์นี้ฝ้ารักปิดคลุมมิด...ถ้าเปิดฝ้ารักออกก็จะเห็นอีกสองสามเส้นน้ำตกเฉลงมาหาปลายนิ้ว

ยังมีตุ่มกลมเล็กสามสี่เม็ดเรียงขนานแนวเนินนมซ้าย...ไปถึงข้อเท้าล่าง มีีติ่งเม็ดกลมติดเม็ดเดียว...สองจุดนี้ ก็ถือเป็นตำหนิสำคัญ

พลิกดูด้านหลัง...เป็นไปตามจารึกลานทอง ลายมือมหาเถรปิยะทัสสะสี ศรีสารีบุตร...มีทั้งลายมือก้นหอย (ที่บางองค์มีเนินเรียบ หลักคุณมนัส โอภากุล) และลายมือมัดหวาย...ร่องลายมือคดเคี้ยวอ่อนไหวตามธรรมชาติ

ภาพรวมของแผ่นหลังพระผงสุพรรณทุกพิมพ์ทุกองค์ ไม่ได้ราบเรียบเหมือนหน้ากลอง แต่มีทั้งเนินสูง ลาดลงเป็นแอ่ง ต่างระดับหลังองค์ในคอลัมน์วันนี้ ถือว่าครบเครื่อง มีองค์ประกอบทุกอย่าง ใช้ดูเป็นหลังองค์ครูได้

วันนี้เรียนกันในบทเรียนที่ว่าด้วยแบบ พิมพ์ เอาชนิดว่า รู้กันให้จริงๆไปข้างหนึ่ง ส่วนเรื่องเนื้อหาคราบฝ้ารารัก ฯลฯ ค่อยมาว่ากันบทเรียนต่อไป.

พลายชุมพล

คลิกอ่านคอลัมน์ "ปาฏิหาริย์ จาก หิ้งพระ" เพิ่มเติม