สนามพระวันนี้ ตรงกับวันรัฐธรรมนูญของไทย ซึ่งกำหนดขึ้น เมื่อรัชกาลที่ ๗ ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุด ในการปกครองประเทศ เมื่อวันที่ ๑๐ ธ.ค.๒๔๗๕ ทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยเหมือนประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก รู้ไว้ใช่ว่า ประเทศที่มีรัฐธรรมนูญชาติแรกคือ อังกฤษ ใช้รัฐธรรมนูญ เมื่อ พ.ศ.๑๗๕๘ ก็ ๘๐๐ กว่าปี ของเราเพิ่งมีมา ๙๐ ปี ก็ปรับเปลี่ยนแก้รัฐธรรมนูญกัน ๒๐ ฉบับ ล่าสุดที่ใช้กันอยู่คือฉบับ ๒๕๖๐ ซึ่งมีข่าวว่า จะเปลี่ยนอีกแร้ววววว
- เข้าไปดูพระเครื่อง ซึ่งจะเมื่อไหร่ก็ตาม ศรัทธาค่านิยม ไม่เคยเปลี่ยน จะเปลี่ยนก็แต่ราคา องค์แรก คือ พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์เส้นด้าย วัดใหม่อมตรส เขตพระนคร กรุงเทพฯ ที่มีพิมพ์เป็นเอกลักษณ์ พบเฉพาะที่กรุพระเจดีย์วัดใหม่อมตรส นิยมเรียก “พระสมเด็จบางขุนพรหม” เรียกพิมพ์เส้นด้าย ตามลักษณะองค์พระ ที่มีเส้นศิลป์บอบบางสม่ำเสมอ งดงาม ซึ่งผู้นิยมพระแปลความหมายเป็นอานุภาพของพิมพ์พระว่า ได้ใช้บูชาแล้ว ทำอะไรมีแต่ได้ๆๆ ทำให้เป็น ๑ ในพิมพ์พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ได้รับความนิยมสูง และมีคนช่างคิดนำเข้าชุด เรียกชื่อพิมพ์ย่อเป็นสิริมงคลว่า ใหญ่ ได้ ดี ซึ่งมาจากพระพิมพ์ใหญ่ พระพิมพ์เจดีย์ และที่มีความนิยมเป็นพิมพ์ย่อยอีกราว ๑๐ พิมพ์ คือ ๑.พิมพ์เส้นด้ายใหญ่ ๒.พิมพ์แขนกลม ๓.แขนเหลี่ยม ๔.แขนกลม-เกศใหญ่ ๕.แขนโย้ ๖.แขนบ่วงหักศอก ๗.ฐานชิด ๘.แขนรี ๙. แขนบ่วงเกศโย้ ๑๐.พิมพ์ทรงชะลูด องค์นี้ ของ เสี่ยท็อป ๐๙ เป็นพระพิมพ์เส้นด้าย แบบแขนรี องค์งามสภาพเดิมๆ ฟอร์มทรงเป๊ะ พิมพ์พระชัดแจ่ม คราบกรุจับผิวบางเบา เนื้อมวลสารเข้มข้น เข้าขั้น “เนื้อจัด” สรุปเป็นพระแท้ดูง่าย ที่ปัจจุบันหาพบยากมากๆ ใครลงทุน ก็รอทำกำไรแน่ หรือใช้บูชา เพื่อพาชีวิตเจริญรุ่งเรือง ก็ได้หมด
...

- ตามมาด้วย พระรอด พิมพ์เล็ก เนื้อเขียว วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน ของ เสี่ยหมู เมืองกาญจน์ เป็นพระสภาพงามสมบูรณ์ สวยแชมป์เดิมๆ ทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เนื้อมวลสาร คราบฝ้ารากรุ เด่นสุดเป็นเนื้อพิเศษ สีเขียว ที่มีน้อย พบยากมาก แม้เป็นพระพิมพ์เล็ก แต่งามพร้อม เป็นพระดี พรีเมียม ซึ่งมีใบสั่ง รอทุกสนาม เพราะราคาที่เบากว่า แต่อานุภาพเหมือนกัน ที่สำคัญใช้โชว์ ก็ ไม่แพ้พิมพ์เบอร์ต้น

- องค์ที่สาม เป็น พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ วัดนางพญา อ.เมือง จ.พิษณุโลก พอเห็นรูปก็ต้องยกนิ้วให้ในความงามสมบูรณ์ เข้าขั้นพระแชมป์ องค์นี้ ของ กำนันมานะ คงวุฒิปัญญา เป็นพระในหมวดพิมพ์กลางหนึ่งเดียว ที่ปัจจุบันมีผู้แสวงหาสูง ด้วยราคาที่พอจ่ายได้ และยังพอหาได้ ต่างจากพระพิมพ์ใหญ่ ที่หาได้ยาก ราคาก็สูง.....

- ถัดไป คือ พระปิดตามหายันต์ (ยันต์ยุ่ง) พิมพ์เศียรโต เนื้อสัมฤทธิ์ พระครูเทพสิทธิเทพาธิบดี หรือหลวงปู่ทับ วัด (ทอง) สุวรรณาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ท่านเป็นพระอมตะเถระ ผู้เป็นตำรับวิชาสร้างพระปิดตามหายันต์ (ยันต์ยุ่ง) ด้วยรูปแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการนำอักขระเลขยันต์มาคลึงปั้นเป็นเส้น “ขนมจีน” จัดวาง ขึ้นรูปเป็นองค์พระปิดตา เทหล่อด้วยเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทีละองค์ๆ ทำให้พระแต่ละองค์มีความแตกต่าง ไม่เหมือนกันแฝด มีหลายแบบพิมพ์ แยกเล่นเป็นมาตรฐาน อาทิ ๑.พิมพ์เศียรบาตร ๒.พิมพ์ยันต์น่อง ๓.พิมพ์ฐานบัว ๔.พิมพ์เศียรบายศรี ฯลฯ องค์นี้ ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง เป็นพระพิมพ์เศียรบาตร เนื้อสัมฤทธิ์ (แก่เงิน) สภาพงามสมบูรณ์ เดิมๆ ที่เพิ่งได้มาใหม่ๆหมาดๆ ถ่ายภาพปุ๊บส่งมาเผยแพร่ให้ชมกัน ราคาไม่ได้บอกมา แต่ก็ประมาณได้ว่าหลายๆล้าน.....
...

- องค์ที่ ๕ คือ เหรียญรอยพระพุทธบาท พิมพ์ใหญ่ รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๖๑ เนื้อเงิน กะไหล่ทอง สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี อมตะพระเถระฐานา ชั้นสมเด็จองค์แรกของชาวเมืองชลบุรี ผู้มีคุณูปการมากมายกับคณะสงฆ์ไทย รุ่นนี้สร้างออกคราวงานบุญนมัสการรอยพระพุทธบาท วัดเขาบางทราย ประจำปี พ.ศ.๒๔๖๑ ประกอบพิธีปลุกเสก ๒ ครั้ง ครั้งแรก ณ พระอุโบสถ วัดเทพศิรินทร์ ครั้งที่ ๒ ต่อเนื่อง ณ พระอุโบสถ วัดเขาบาง ทราย ขณะดำรงสมณ ศักดิ์ที่พระธรรมไตรโลกาจารย์ ตำแหน่งเจ้า อาวาสวัดเทพศิรินทร์ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงกลม ด้านหน้ากลางเหรียญเป็นองค์พระพุทธ ล้อมด้วยอักขระคาถา ๘ ตัวล้อมด้วยไข่ปลา ๑๖ เม็ด ด้านหลัง กลางเหรียญเป็นรอยพระพุทธบาท ล้อมด้วยอักขระ ๘ ตัว ล้อมเม็ดไข่ปลาเช่นกัน มี ๒ ขนาด ใหญ่ เล็ก เนื้อเหรียญมีเป็นเนื้อเงิน เงินกะไหล่ทอง สัมฤทธิ์นวโลหะ และทองแดง ปัจจุบันเป็นเหรียญยอดนิยมราคาแสน เหรียญนี้ของ ดร.มีชัย เถาเจริญ เป็นเหรียญพิมพ์ใหญ่ สภาพสมบูรณ์สวยแชมป์เดิมๆ แบบนี้คนพื้นที่บอกราคาสูงถึงหลักล้านสบายๆ
...

- ตามมาด้วย เหรียญมหาพรหม ทรงโล่ เนื้อนาก–หน้าทองคำ อ.เฮง ไพรวัลย์ เหรียญรูปพระพรหมทรงโล่ ที่ออกแบบจัดสร้างมีเอก ลักษณ์ ด้วยลักษณะตัวเหรียญเป็นโลหะทรงโล่เนื้อนาค กลางเหรียญด้านหน้าเป็นองค์พระพรหม ตัดชิดเนื้อทองคำ มาตอกหมุดติดซ้อนแบบยกหน้า นิยมเรียกเป็นเหรียญเนื้อนาค-หน้าทองคำ ด้านหลังเหรียญมีลายมือจารอักขระเต็ม การันตีเป็นของแท้ ที่มีพบน้อย หาพบยากสุดๆ ยิ่งสภาพเยี่ยมสวยยอดแบบเหรียญนี้ ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง ยิ่งเวรี่ยากส์ ได้ของแบบนี้มา ที่ฟังว่าราคาอยู่ที่เจ้าของเรียกได้ตามใจ ก็ต้องชมกันอีกทีว่า เสี่ยเพชร-อิทธิ เนี่ย เป็นยอดนักสะสม ที่มีฝีมือในการแสวงหา เพราะเป็นนักสู้ราคาตัวจริง
...

- อีกเหรียญเป็น เหรียญเสมา เนื้อทองคำ รุ่นสุดท้าย พ.ศ.๒๕๒๐ พระครูเนกขัมมาภินันท์ (หลวงพ่อบุญทา) วัดดอนตัน อ.ท่าวังผา จ.น่าน ของ สจ.บอมบ์ เมืองน่าน ส่งภาพมาพร้อมข้อมูลการสร้าง ประวัติหลวงพ่อ ว่าเป็นเหรียญพระเกจิฯยอดนิยมอันดับ ๑ ของเมืองน่าน จัดสร้างเป็นรุ่นสุดท้ายพร้อมรูปเหมือนหล่อลอยองค์รุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๐ โดย ธ.กรุงเทพฯ พาณิชย์การ สาขา จ.น่าน ขณะ นายเสรี สุทธภักดิ์ เป็นผู้จัดการ ดำเนินการให้ ช่างเกษม มงคลเจริญ ที่มีชื่อเสียงเป็นมือ ๑ ของวงการเวลานั้น ออกแบบแม่พิมพ์ โดยนำตราสัญลักษณ์ รูปสตางค์แดง ของธนาคาร ประทับไว้ด้านหลัง เหรียญได้รับความนิยม เรียกเป็นเหรียญรุ่น ธ.กรุงเทพฯ พาณิชย์การ เนื้อเหรียญมี ๑.ทองคำ ๒.เนื้อเงิน ๓.เนื้อนวโลหะ ๔.เนื้อทองแดง ปลุกเสก ณ วัดดอนตัน โดยหลวงพ่อเป็นประธานอาราธนาพระเกจิฯผู้มีชื่อเสียงของเมืองน่านขณะนั้น อาทิ หลวงปู่ก๋ง พระครูขติยศ ครูบาอินสม ฯลฯ ลักษณะรูปทรงเป็น เหรียญปั๊ม ทรงเสมา ข้างลายกนก ห่วงในตัว ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อ จารึกข้อความ หลวงพ่อวัดดอนตัน มีอักขระอุณาโลมปิดหัว-ท้าย ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์ครู ตาราง ๙ ช่อง ด้านบนเป็น ยันต์หัวใจธาตุ ๔ เป็นอักษรล้านนา ต่อด้วยสัญลักษณ์สตางค์แดง ขอบเหรียญมีข้อความว่า วัดดอนตัน อ.ท่าวังผา จ.น่าน พ.ศ.๒๕๒๐ ใต้ห่วงมีอักษรบอกรุ่นสุดท้าย ซึ่งความจริงยังมีการจัดสร้างวัตถุมงคลในนามหลวงพ่อต่อมาอีกหลายรุ่น

- มาถึง เครื่องรางขลังๆ หนุมาน เนื้อไม้มงคล แกะศิลป์เข้าเฝ้า ของ หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นเครื่อง รางเอกลักษณ์ สร้างชื่อเสียง เป็นเครื่อง รางยอดนิยมแถวหน้า สร้างด้วยเนื้อไม้มงคล (ไม้คูน ไม้มะยม ไม้รัก ไม้ราชพฤกษ์) แกะเป็นรูปหนุมานแบบลอยองค์ มีทั้งฝีมือช่างหลวงแกะแบบ “หน้าโขน” และช่างฝีมือชาวบ้าน ที่ดูเรียบง่าย ในท่วงท่าลีลาแตกต่างอย่างตนนี้ ของ อ.นะ ณ กาญจน์ ที่มีลักษณะแบบนั่งคุุกเข่า พนมมือระหว่างอก ที่นิยมเรียกว่า ศิลป์เข้าเฝ้า ที่ดูงดงามอย่างคลาสสิกลึกซึ้ง สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆแบบนี้หายากมากๆ ในปัจจุบันราคาว่ากันสูงถึงหลักแสน

- มาถึงเรื่องปิดท้าย ของ นายสาธิต เจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคารแห่งหนึ่ง ที่ได้รับพระสมเด็จเป็นมรดก จากพ่อที่เสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน โดยมีพระเครื่องชุดเบญจภาคีที่สะสมไว้ให้ลูกทั้ง ๕ คน มีทั้งพระรอด พระซุ้มกอ พระผงสุพรรณ พระนางพญา นายสาธิต เป็นพี่ใหญ่ ให้สิทธิ์น้องชายหญิงเลือกกันก่อนสุดท้าย ทุกคนพร้อมใจ เหลือ “พระสมเด็จ” ไว้ให้ นายสาธิต ที่เห็นเหมาะสม เพราะเป็นพี่ใหญ่ จากนั้นน้องทุกคนก็นำพระไปขาย เหลือ นายสาธิต ที่ยังเก็บ “พระสมเด็จ” ไว้ เมื่อเดือนก่อน น้องชายพ่อที่ไปเรียนเมืองนอก และไปมีครอบครัวอยู่อเมริกา กลับมาเยี่ยมบ้าน พบหลานๆ และ นายสาธิต ก็พูดออกตัว ขอโทษ ที่ไม่ได้มาร่วมงานศพพี่ชาย นายสาธิต ก็บอกไม่เป็นไร เข้าใจดีว่าอากำลังทำงาน สร้างครอบครัว ก็พูดคุย ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกัน
อาที่รู้ถึงพระเครื่อง ที่พ่อมอบให้ลูกทุกคน ก็ถามว่ามีของใครยังเก็บอยู่มั่ง ทุกคนก็บอกขายหมดเหลือของ นายสาธิต ที่บอกมีพระสมเด็จยังอยู่องค์เดียว ขายไม่ได้ เพราะเป็นพระเก๊ และเอาสร้อยคล้องพระออกจากคอให้อาดู อาเห็นแล้วยิ้มอย่างดีใจบอกงั้นขอซื้อ ๕ แสน จะเก็บไว้เป็นที่ระลึก ถึงตรงนี้เมียที่มาด้วยสะกิดแรง บอกว่าเป็นพระเก๊ จะซื้อไปทำไม (ยะ) อาบอกซื้อเพื่อความสบายใจ จะได้ไม่ติดค้าง เพราะพระสมเด็จองค์นี้เป็นของผมเองที่เอามาจำนำพี่ชายไว้ ๕ แสน เพื่อเอาเงินเป็นทุนไปเมืองนอก และสัญญาว่าจะหาเงินมาไถ่แน่นอน ซึ่งต้องรักษาสัญญานะ นายสาธิต ที่ถูกน้องๆล้อว่าได้พระเก๊ จึงเข้าตำราหัวเราะทีหลังดังกว่า รับเงินครึ่งล้านยิ้มแฉ่งเจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง
คลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม