หากจะว่ากันตามความนิยมของวงการ...ห้าพิมพ์แรกของวัดระฆัง มีพิมพ์ใหญ่ ทรงเจดีย์ ฐานแซม เกศบัวตูม ปรกโพธิ์ สามพิมพ์หลัง กรุบางขุนพรหม สังฆาฏิ เส้นด้าย ฐานคู่

จะมีอยู่พิมพ์ที่ 6 พิมพ์เศียรบาตรอกครุฑ พิมพ์เดียว ที่มีข้อถกเถียง วงการ เล่นกันเป็นบางขุนพรหมเท่านั้น...องค์ที่ผิวนุ่ม เนื้อเกลี้ยงเกลา ที่ดูยังไงก็เป็นวัดระฆัง...จึงดูประหนึ่ง จะถูกตีเป็นพระเก๊ไปเลย

เกริ่นนำมาถึงตรงนี้ เหลือบตาไปดูพระสมเด็จพิมพ์เศียรบาตรอกครุฑองค์ในคอลัมน์

เค้าโครงเป็นอกครุฑใหญ่ ติดพิมพ์ลึกชัดปานกลาง เนื้อขาวอมเหลือง เกรนเนื้อละเอียด ค่อนไปหนึกแกร่ง พื้นผนังซึมซับฝ้ารักสีแดงปนน้ำตาล ปิดหลุมร่อง รอยเหนอะเอาไว้

ไม่มีร่องรอยให้เห็นว่า เป็นคราบฝ้าที่เกิดจากความร้อนจากกรุแต่ประการใด

ด้านหลัง สภาพพื้น เป็นหลังกาบหมาก เข้าโฉลกหลังพระสมเด็จวัดระฆัง...ชัดมาก หรือใครจะบอกว่า เป็นพระ “สองคลอง” วัดระฆังฝากกรุบางขุนพรหม ก็ยังถือว่าเข้าทำเนียบ พระสมเด็จแท้ ก็ไม่น่าจะกว่ากัน

เพื่อจุนเจิมเสริมศรัทธา ให้โน้มเอียงไปเชื่อว่า เศียรบาตรอกครุฑ วัดระฆัง มีแน่ๆ

ขอเปิดตำราครู ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่มพระสมเด็จฯ (คลังวิทยาบูรพา พิมพ์ครั้งที่ 6 พ.ศ.2520) หน้า 168 หัวข้อพิมพ์ทรงเศียรบาตรอกครุฑ (พิมพ์ทรงไกเซอร์)

ครู “ตรียัมปวาย” อธิบายว่า ที่มีชื่อประหลาด และนามฉายา มีที่มาอันอัศจรรย์ดังนี้

เชื่อกันว่าพิมพ์ทรงนี้เป็นพิมพ์ทรงดั้งเดิมของแบบกรอบสี่เหลี่ยมทีเดียว ซึ่งเจ้าพระคุณสมเด็จฯ เป็นผู้แกะแม่พิมพ์ด้วยตัวเอง สังเกตได้ว่า เป็นพิมพ์ทรงที่องค์พระปฏิมามีลักษณะโบราณ และสมถะ

เช่นเดียวกับองค์เจ้าพระคุณสมเด็จฯ รวมทั้งพระอาสนะที่มีลักษณะเทอะทะ

...

และยิ่งกว่านั้นพิมพ์ทรงนั้นจะไม่ปรากฏฐานของซุ้มเรือนแก้ว ซึ่งนับว่าต่างจากพิมพ์อื่นๆ

กล่าวกันว่าเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ประสงค์จะทำให้แปลกไปจากแบบพิมพ์ต่างๆของหลวงวิจารณ์เจียรไน จึงทิ้งให้โหว่ตอนเนื้อเบื้องล่างของพระอาสนะเป็นสัญลักษณ์

ทั้งนี้ เพราะเจ้าพระคุณสมเด็จมักจะทำอะไรแปลกๆ ไม่ซ้ำแบบผู้ใดอยู่แล้ว

พระอาจารย์ขวัญกล่าวว่า การที่พิมพ์ทรงนี้ จะได้รับฉายาว่า พิมพ์ทรงไกเซอร์ ท่านได้ทราบจากพระธรรมถาวร พระอาจารย์ของท่านว่า

เมื่อคราวที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก ได้ทรงอาราธนาพระสมเด็จติดพระองค์ไปด้วย ในวันหนึ่งขณะประทับอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ พระเจ้าวิลเลียม ไกเซอร์

กษัตริย์เยอรมนี พระเจ้ากรุงเยอรมนี ทอดพระเนตรเห็นรัศมีสีนวล ฉายออกมาจากกระเป๋าฉลองพระองค์ จึงทรงดำรัสถาม

พระพุทธเจ้าหลวงทรงหยิบพระสมเด็จฯออกมาให้ทอดพระเนตร พระเจ้าไกเซอร์ทรงประหลาดพระทัย ทรงพระดำรัสว่า “ปูนหรือ? ประหลาด มีรัศมีด้วย”

จึงทรงอธิบายเป็นพระเครื่องที่นิยมกันมากในสยาม พระเจ้าไกเซอร์ทรงสนพระทัย จึงถวายให้ไป

พระสมเด็จพิมพ์ทรงเศียรบาตรอกครุฑ จึงได้รับเกียรตินามว่า “พิมพ์ทรงไกเซอร์” มานับแต่นั้น

วงการพระสมเด็จฯในวันนี้ ดูเหมือนจะมีครู บรมครู สอนวิชาดูพระสมเด็จกันมากมาย...จนคนวงนอกงง...ไม่รู้จะเชื่อครูไหน? ผมมีครู และเชื่อครูอยู่คนเดียว ก็ “ครูตรียัมปวาย” นี่แหละ

ด้วยความเชื่อครู เจอทรงไกเซอร์ วัดระฆัง เมื่อไหร่ เนื้อหา พิมพ์ทรงเข้าตา ก็คว้าไว้...ก็เพราะเหตุผลที่ว่า “เซียนดูเป็นพระเก๊” จึงได้มาด้วยราคาสบายใจไม่หนักมือ.

พลายชุมพล

คลิกอ่านคอลัมน์ "ปาฏิหาริย์ จาก หิ้งพระ" เพิ่มเติม