- เข้าสนามพระช่วงหยุดยาวรอบนี้ ก็ได้ตื่นเต้นกับ พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ที่สวยสมบูรณ์ขั้นแชมป์ ทั้งฟอร์มทรง ตรงมาตรฐาน บนกว้างล่างแคบ พิมพ์พระคมชัด เนื้อพระเข้มข้นมวลสารแน่น วรรณะตรงตามตำรา หลายคนเห็นแล้วบอกคุ้นๆ แล้วร้องอ๋อ เมื่อเจ้าของบอกโปรไฟล์ เพราะเป็นองค์เด่นดวงดาราในหนังสือตำราพระสมเด็จหลายเล่ม ซึ่งปัจจุบันยากจะหาได้เห็นพระดีพรีเมียมขนาดนี้ เสี่ยบอย บางกรวย เจ้าของพระ จึงนั่งตีขิมสบายใจ เพราะพระระดับนี้ไม่ใช่จะเจอง่ายๆ
- องค์ที่สอง เป็น พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ใหญ่ นิยม ๗ ชั้น A วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ของ เสี่ยณัฐพล ลาดกระบัง เป็นพระแท้ดูง่าย สภาพสมบูรณ์สวยเยี่ยมระดับแชมป์เหมือนกัน เพราะฟอร์มทรงได้มาตรฐาน พิมพ์พระที่คมจัดชัดลึกเสมอกันทั่วองค์ ผิวเนื้อสมบูรณ์ไร้รอยสัมผัส เนื้อมวลสารครบสูตร--สำคัญสุดคือจุดตำหนิ ทั้งพื้นฐาน-ลี้ลับ มีให้ส่องศึกษาครบถ้วน จัดเป็น “องค์ครู” อีกองค์
...
- องค์ที่สามเป็นขุนพลพระแห่งลานทุ่งเศรษฐี พระกำแพง ซุ้มกอ พิมพ์เล็ก (พัดใบลาน) กำแพงเพชร องค์นี้ ของ เสี่ยทศพล ไหลสงวนนาม เป็นพิมพ์น้องสุดท้อง ในพิมพ์นิยมมาตรฐาน คือ พิมพ์ใหญ่ลายกนก พระพิมพ์ใหญ่ ไม่มีลายกนก (ซุ้มกอดำ) พิมพ์กลาง ส่วน พิมพ์เล็ก (พัดใบลาน) พบขึ้นจากกรุจำนวนน้อยที่สุด หายากสุดๆ วงการเจอนับองค์ได้รวมถึงองค์นี้ที่มีภาพเป็นข่าวซื้อ-ขายเปลี่ยนมือเปลี่ยนเจ้าของบ่อยครั้งด้วยราคาหลักแสนต้นๆในอดีต จนหลักแสนปลายในปัจจุบัน ย้ายกุฏิแต่ละครั้งก็ไปจำวัดกับสายตรงตัวจริง หรือนักนิยมสะสมพระชั้นแนวหน้า ระดับรังใหญ่ทั้งนั้น
- องค์ที่สี่คือ พระขุนแผนเคลือบ พิมพ์ใหญ่ วัดใหญ่ชัยมงคล (ป่าแก้ว) จ.พระนครศรีอยุธยา พระพิมพ์ยอดนิยมอันดับ ๑ ของเมืองกรุงเก่า เล่ากันอีกทีว่าเป็นพระพิมพ์ที่ สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงให้ สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว พระอาจารย์ ประกอบพิธีสร้าง บรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ เป็นที่ระลึกในคราวทำสงครามศึกยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราช พม่า เป็นการประกาศอิสรภาพ มาค้นพบพระเมื่อราวปี พ.ศ.๒๔๗๘ เพราะมีการลักลอบขุดกรุ กรมศิลปากรจึงเข้าควบคุม ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่ง ชาติ ลักษณะเป็นพระพิมพ์เนื้อดินผสมปูนขาว มี ๓ พิมพ์คือ ๑.พิมพ์อกใหญ่ ฐานสูง ๒.พิมพ์อกใหญ่ ฐานเตี้ย ๓.พิมพ์แขนอ่อน ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางมารวิชัยอยู่ในซุ้มเรือนแก้วแบบพระยอดขุนพล เนื้อพระเป็นดินขาวผสมผง มีน้ำยาเคลือบด้านหน้าถึงรอบขอบด้านหลัง ส่วนกลางมักเปิดเห็นเป็นลายนิ้วมือ ลึกชัดอย่างในองค์นี้ ของ เสี่ยดามพ์ สุพรรณ ซึ่งเป็นพระแท้ดูง่าย สภาพสมบูรณ์สวยแชมป์เดิมๆ ที่ปัจจุบันหายากมากๆ ราคาฟังว่าสูงถึงหลักมากล้านมานานแล้ว
...
- มาถึงองค์ที่ ๕ ก็หายาก คือ พระพุทธรูปบูชารัชกาล ปางสมาธิ ห่มคลุม เนื้อโลหะผสมกะไหล่ทอง ยุคต้น ความนิยมในการสร้างรูปจำลองพระพุทธเจ้า เริ่มสร้างครั้งแรกหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วราว ๕๐๐ ปี ในแคว้นคันธาราฐ ทางภาคตะวันออกของอินเดีย และแพร่หลายสู่แคว้นมคธและมณฑลอื่นๆในอินเดียใต้ และประเทศพุทธ ลักษณะเป็นไปตามลัทธินิยมมีรูปแบบต่างๆ ส่วนในสยามประเทศ มีการกำหนดอายุเป็นพุทธศิลป์ยุคสมัยต่างๆ คือ ยุคทวารวดี (ปี พ.ศ.๑๐๐๐-๑๒๐๐) ยุคศรีวิชัย (พ.ศ.๑๒๐๐-๑๗๐๐) ยุคลพบุรี (พ.ศ.๑๕๐๐-๑๘๐๐) ยุคเชียงแสน (พ.ศ.๑๖๐๐-๒๐๘๙) ยุคสุโขทัย (พ.ศ.๑๘๐๐-๑๘๙๓) ยุคอู่ทอง (พ.ศ.๑๗๐๐-๒๐๐๐) ยุคกรุงศรีอยุธยา (ปี พ.ศ.๑๘๙๓-๒๓๒๕).....
...
ส่วนยุครัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๑ มีรูปแบบเอกลักษณ์ ซึ่งดัดแปลงมาจากศิลปะพระพุทธรูปรุ่นก่อน ประกอบพิธีเททองสร้างในวาระสำคัญ เช่น การสร้างพระชัยวัฒน์ ในวันสถาปนารัชกาล จึงนิยมเรียก “พระชัยรัชกาล” ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็มีการจัดสร้างพระ พุทธรูปในวาระสำคัญ ที่เป็นต้นแบบพุทธ ศิลป์ ในรัชกาลที่ ๔ ก็มี พระสัม พุทธพรรณี ในพระอุโบสถ วัดพระแก้ว ที่สร้าง พ.ศ.๒๓๗๓ พระพุทธรูปองค์สำคัญที่ รัชกาลที่ ๔ทโปรดเกล้าฯให้สร้างตามพุทธลักษณะนี้ มี พระนิรันตราย ในหอพระสุราลัยพิมาน พระสัมพุทธสิริ ในพระอุโบสถ วัดโสมนัสฯ พระพุทธอังคีรส ในพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ--ทำให้ขุนนาง ข้าราชการ คหบดี นิยมสร้างพระพุทธรูป พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ตามพระราชนิยมในวาระสำคัญๆ คำว่าพระราชนิยมนั้น ก็คือ นิยมตามอย่างในหลวงอย่างเช่น ถ้าทรงนิยมสะสม ตลับงา ข้าราชบริพารระดับสูง คหบดี ก็นิยมเล่นตาม ถ้าทรงนิยมเครื่องกังไส ลายคราม เครื่องถ้วย ฯลฯ ก็เล่นตาม--ถ้าไม่ตามจะถือว่าไม่อินเทรนด์ และเสียหน้าเวลาเข้าเฝ้าฯ หรือชุมนุมกันแล้วตัวเองไม่มีเหมือนคนอื่น.....
กลับมาที่พระอย่างองค์นี้ที่พิจารณาพุทธศิลป์ได้ว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยรัตน โกสินทร์ยุคต้น ที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ด้วยฝีมือช่างหลวง เป็นองค์พระนั่งปางสมาธิ ห่มคลุมอยู่เหนือฐานถอด ที่มีพบน้อย วิเศษสุด ที่รอยจารลายมือ ลงอักขระพระคาถาเยธัมมา ที่ได้ชื่อเป็นหัวใจพระพุทธศาสนาแบบเต็มบทว่าเยธัมมา เหตุ ปฺพพวา เตสงฺ เหตุง ตถาคโต เตสฺญจ โยนิโรโธจะ เอวัง วาที มหาสฺมโณ อยู่รอบของฐานด้านนอกชั้นล่างสุด และยังมีลายมือจารอักขระที่รอบขอบฐานชั้นบน ด้านในอีกบท ลายมือเดียวกัน แต่มีวัสดุยึดติดทาบทับ อ่านยาก แต่ก็บอกได้ว่าเป็นองค์พระที่สร้างในวาระสำคัญ เป็นพระทรงค่าทรงคุณ ที่เจ้าของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง ปลาบปลื้มที่ได้มา.....
...
- ถัดไปเป็น พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อผุด วัดวังเวียน จ.จันทบุรี อีกองค์ในรังพระปิดตา “หลวงพ่อผุด” ของ เสี่ยเพชร–อิทธิ ชวลิตธำรง ที่ตะลุยเช่า หลังรู้ว่าหลวงพ่อ มีวิชาพุทธาคมเข้มขลัง เทียบได้กับ หลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า สร้างพระปิดตามีเนื้อมวลสารเช่นเดียวกัน อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์เป็นประสบการณ์สูงทั้งด้านเมตตา มหาลาภ มหานิยมแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เป็นพระปิดตาอันดับ ๑ ที่ชาวเมืองจันทบุรี เชื่อมั่นว่าศักดิ์สิทธิ์รอบด้านไม่แพ้พระปิดตาแถวหน้าทุกสกุล.....
- อีกสำนักเป็น เหรียญหล่อพระจันทร์เสี้ยว ทองเหลือง รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๖๕ หลวงพ่อโศก วัดปากคลองบางครก จ.เพชรบุรี สร้างออกเป็นเหรียญที่ระลึกในงานบุญวันเกิด ตอนหลวงพ่อได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ในฐานาพระครูอโศกธรรมสาร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๕ ตามข้อความหลังเหรียญ ลักษณะเป็นเหรียญหล่อพิมพ์ประกบ ด้านหน้าเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว อย่างมีนัยว่า แสงสว่าง ซึ่งหมายถึงปัญญา เหนือพระจันทร์เป็นอุณาโลม หมายถึงพระ อริยะเจ้าผู้สำเร็จพระอรหันต์ ใต้พระจันทร์เป็น อักขระตัวอุ หมายถึงพระอุปัชฌาย์ สองข้างเป็นลวด ลายช่อชัยพฤกษ์ รวมความหมายถึงพระ อุปัชฌาย์เป็น พระอริยะ ผู้ชี้ช่องให้เกิดปัญญานำทางสู่ความเป็นพระอรหันต์ กล่าวกันว่าเป็นเหรียญที่มีอานุภาพทางเสริมสติปัญญาเด่นสุด จนมีเรื่องเล่าว่าทำให้มีผู้ใช้บูชา ซึ่งเป็นข้าราชการท้องถิ่น เกิดมีความคิดเสนอนายกรัฐมนตรี จนใช้เป็นนโยบายรัฐบาล เมื่อเกษียณอายุได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกฯตลอดสมัย ในภาพนี้เป็นเหรียญสวย สภาพแชมป์ ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี ที่มักมีพระดีทีเด็ดมาให้ชมกันบ่อยๆ
- สุดท้ายเป็น พระกริ่งพุทธไชยศรี พ.ศ.๒๕๑๘ เนื้อทองคำ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สร้างหาทุนสร้างอาคาร ร.ร.เพิ่มวิทยา เป็น พระกริ่งรุ่นแรกและรุ่นเดียว ของ หลวงปู่เพิ่ม โดยอาราธนาพระเถระเกจิอาจารย์แห่งยุค ๑๐๘ รูป เข้าร่วมพิธีปลุกเสก ๓ วาระ เป็นพระดีพิธีใหญ่ที่ได้รับความนิยมสูงจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ เนื้อทองคำสร้างพิเศษ จำนวนจำกัดองค์งามๆ สภาพแกะกล่องอย่างองค์นี้ของ เสี่ยโฆสิต ธีรศรีศุภร ราคาอยู่ที่หลักมากๆแสน
- มาถึงเรื่องปิดท้ายของ นายอุบล คนสุพรรณฯ อาชีพหลักทำฟาร์มเลี้ยงปลา อาชีพรอง “เล่นพระ” เมื่อเดือนก่อนไปได้ พระขุนแผน บ้านกร่าง องค์งามมา ก็เอาไปเสนอขายพรรคพวกขาประจำที่ชอบซื้อพระที่มีดีด้านเมตตามหาเสน่ห์ มีมาเสนอขายกี่องค์ซื้อหมดแบบไม่ต่อราคาด้วย ครั้งนี้ นายอุบล จึงมั่นใจมาก สู้ทุ่มทุนซื้อมาอย่างแพงถึงแปดหมื่น หวังขายได้อย่างต่ำต้อง ๑ แสน ขายเร็วๆ กำไรหมื่นสองหมื่นก็เอาแล้ว จึงเอาพระมาเสนอ พร้อมโฆษณาสรรพคุณโขมงโฉงเฉงว่ามีอานุภาพเป็นสุดยอดพุทธานุภาพด้านมหาเสน่ห์สมชื่อ “พระขุนแผน” แต่พรรคพวกฟังแล้วนั่งเฉย ก้มหน้ามองพระเงียบ ไม่มีอาการตื่นเต้นเหมือนเคย นายอุบล จึงพูดย้ำเสียงเข้มว่า ผมไม่ได้โม้นะ พระนี้มีดีด้านมหาเสน่ห์แบบใช้แล้วสาวสะกิดแม่ทีเดียว แต่เพื่อนก็ยังส่ายหน้า บอกครั้งนี้ผมคงไม่เอาแล้วพระมหาเสน่ห์ เพื่อนช่วยหาพระที่มีดีด้านแคล้วคลาดคงกระพันมาให้ดีกว่า เพราะเมียเพิ่งจับได้ว่ามีกิ๊กเยอะ และไล่ออกจากบ้านมาเมื่อวาน แถมขู่ว่าเห็นหน้าเมื่อไหร่เจอลูกปืนแน่ จะฆ่าให้ตาย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง
คลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม