เข้ามาเปิด สนามพระวิภาวดี อาทิตย์นี้ มีแต่คนคุยเรื่อง นายก รัฐมนตรี ว่า มะรืนนี้ ๒๒ ส.ค. จะโหวตได้ไหม และใครจะเป็น--ถกเถียงแสดงภูมิกันแล้ว ก็ตามมาด้วยการเดิมพันอีกตามเคย.....
- ระหว่างรอดู ชะตา และอนาคตของประเทศชาติ ในกำมือของนักการเมือง ๗๐๐ เสียง เราก็ไปดู พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ วัดใหม่อมตรส กรุงเทพฯ กัน องค์นี้เป็นพระแท้ดูง่าย สวยคลาสสิก เพราะสภาพคราบผิว ที่มีการเก็บ คราบกรุ อย่างรู้รักษาเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นจุดพิจารณาพระกรุบางขุนพรหม คราบกรุ ที่มีเหลือให้เห็นเป็นแผ่นฟิล์มใสบางล่อนซ้อนทับเป็นชั้นเรียกว่าคราบ “น้ำตาล” และที่เป็น เม็ดตุ่มเรียงชิดติดกันเรียกว่า “หางกระเบน” ก็ยังพอมีเหลือให้เห็นและเรียนรู้ได้ เพราะลอกออกพอดีๆ เปิดเห็นเส้นศิลป์ในพิมพ์พระที่คมชัดติดเต็ม ทั้งเส้นซุ้ม เส้นพิมพ์องค์พระ ไม่มีหลุดล่อนแม้น้อยนิด จึงเป็น “พระองค์ครู” ที่คู่ควรอนุรักษ์ เปรียบได้เป็นตำราในการศึกษา ส่งต่อนักนิยมพระรุ่นต่อๆไปให้ได้เล่นพระในหลักการเดียวกันคือ พระแท้ก็ต้องเป็นพระแท้ตลอดกาล องค์นี้ถือเป็น “พระพันตา” ซึ่งเป็นบุญบารมีของ เสี่ยเกื้อกูล มานะสัมพันธ์กุล (ชลกร ๔๒) ที่ได้ครอบครองพระดีมีคุณภาพทรงค่าหายาก จะใช้พึ่งพาอานุภาพก็มั่นใจ จะเก็บรักษาไว้เป็นการลงทุน ก็จิ้มตัวเลขรอได้เลย.....
...
- องค์ที่สอง คือ พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ วัดนางพญา อ.เมือง จ.พิษณุโลก สภาพสวยแชมป์ เลยขอตอบ คำถามสนามพระ จากแฟนคลับสายผู้หญิงที่มีมากขึ้น และอยากรู้ที่มาที่ไปของพระนางพญา ก็จัดให้แบบย่อๆ ว่าเป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผาผสมว่านเกสรดอกไม้รูปสามเหลี่ยม ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางมารวิชัย พุทธศิลป์สมัยอยุธยา (ยุคต้น) ด้านหลังเรียบ ส่วนใหญ่มีเนื้อหยาบปนเม็ดกรวดเม็ดทราย ที่เป็นเนื้อละเอียดมีน้อย ค้นพบราวปี พ.ศ.๒๔๔๔ ตอน ร.๕ เสด็จประพาสเมืองพิษณุโลก ทางจังหวัดเตรียมสร้างพลับพลารับเสด็จ ที่วัดนางพญา ขณะคนงานขุดหลุมก็พบพระพิมพ์จำนวนมาก แยกตามขนาดพิมพ์พระได้เป็น ๗ พิมพ์ ๑.พิมพ์ใหญ่ (เข่าโค้ง) ๒.พิมพ์ใหญ่ (เข่าตรง) มีแยกไว้เป็น ๒ แบบคือ มือตกเข่ากับมือไม่ตกเข่า ๓.พิมพ์อกนูนใหญ่ ๔.พิมพ์กลางสังฆาฏิ ๕.พิมพ์เล็กอกแฟบหรือพิมพ์เทวดา ๖. พิมพ์เล็กอกนูน ๗.พิมพ์พิเศษเข่าบ่วง องค์ใหญ่พิเศษ (มีน้อย) ข้าราชการกับเจ้าอาวาสจึงคัดพระจำนวนหนึ่งนำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานข้าราชบริพารตามเสด็จ นิยมเรียกกันว่า “พระนางพญา” ด้วยความอ่อนช้อยของเส้นศิลป์ ลำพระกรและพระอุระที่นูนเด่นทุกองค์ทุกพิมพ์ เชื่อกันว่าเป็นพระที่พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระมเหสีของสมเด็จพระมหาธรรมราชา (ลิไท) พระราชมารดาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สร้างบรรจุไว้ระหว่างปี พ.ศ.๒๐๙๐-๒๑๐๐ คราวบูรณปฏิสังขรณ์ วัดราษฎร์บูรณะ ที่เดิมเป็นวัดเดียวกับวัดนางพญา องค์นี้ ของ เสี่ยโจ๊ก ลำพูน เป็น พิมพ์สังฆาฏิ เนื้อละเอียด ที่มีพบน้อย หายาก สภาพสมบูรณ์แชมป์ หูตากะพริบเดิมๆ ไร้ริ้วรอยสัมผัสแบบนี้ นักนิยมพระยุคเก่าบอกซื้อง่าย-ขายคล่อง อานุภาพพุทธคุณเต็มเปี่ยม ใช้บูชาได้อย่างมั่นใจ.....
- ต่อไปเป็น พระปิลันทน์ พิมพ์พระโมคคัลลาน์–พระสารีบุตร สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัด เสนีย์วงศ์) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ พระพิมพ์พิเศษในสกุลพระปิลันทน์ หาพบยาก เพราะมีสร้างไว้น้อย และมีผู้เสาะหามาก เพราะลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบ “พระสมเด็จ” พิมพ์พระมีเอกลักษณ์ มี พระพุทธเจ้า และ ๒ อัครสาวก พระโมคคัลลาน์ ผู้เป็นเลิศทางอิทธิฤทธิ์อยู่เบื้องซ้าย พระสารีบุตร ผู้เป็นเลิศทางความรู้ สติปัญญาอยู่เบื้องขวา บูชาองค์เดียวได้พึ่งพาอานุภาพครบ ๓ ทาง จึงเป็นพิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูง แต่น้อยคนจะได้ ยิ่งเป็นพระแท้ดูง่ายๆ องค์งามๆ สภาพเยี่ยมๆอย่างองค์นี้ ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง ยิ่งเวรี่ยาก จนต้องยอมนิมนต์ในราคาคูณสอง.....
...
- ถัดไปเป็น พระพิมพ์แปดชั้น แขนหักศอก หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม กรุงเทพฯ พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ รูปทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก เหมือนพระสมเด็จ หลวงปู่ภู เป็นพระอมตะเกจิฯ และเป็นศิษย์สายตรงของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ปรนนิบัติใกล้ชิดครั้ง “สมเด็จฯโต” เดินทางมาอยู่คุมงาน สร้างองค์หลวงพ่อ “พระศรีอริยเมตไตรย” วัดอินทรวิหาร พระของท่านจึงได้รับความนิยม เล่นหาเป็น “พระชั้นศิษย์” และอยู่แถวหน้าของพระที่นิยมใช้แทนพระสมเด็จ--องค์นี้ ของ สก.กฤษฏ์ คงวุฒิปัญญา เป็นพระพิมพ์นิยมแปดชั้น แขนหักศอก สภาพสมบูรณ์สวยเยี่ยมเดิมๆ--ปัจจุบันสภาพนี้ราคาอยู่ที่หลักแสนกลางถึงปลาย ใกล้ทะลุถึงหลักล้านแล้ว.....
...
- ต่อไปขอเสนอ พระกริ่งปวเรศน้อย สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศ กรุงเทพฯ ๑ ในพระกริ่งยอดนิยม ราคาหลักมากล้าน นักนิยมพระกริ่งมืออาชีพสายตรงยุคก่อนส่วนหนึ่งยอมรับเล่นหาเป็น “พระกริ่งปวเรศน้อย” เพราะรูปทรงองค์พระมีความละม้ายเหมือน เนื้อโลหะเข้มข้น อายุความเก่าเทียบทันกัน--สำคัญสุดอยู่ที่มีกลีบบัวที่ฐานด้านหลังองค์พระ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ “พระกริ่งปวเรศ” แม้ไม่มีบันทึกหลักฐานการสร้างชัดเจน ก็มีความนิยมมาถึงปัจจุบัน องค์นี้ของ เสี่ยมีชัย เถาเจริญ เป็น ๑ ใน ๓ องค์ ที่วงการยอมรับ ด้วยรูปทรง องค์พระ เนื้อโลหะ อายุความเก่า ฝีมือการตกแต่ง ซึ่งเป็นองค์ที่งามสมบูรณ์เป็นที่สุดในจำนวน ๓ องค์ ที่วงการยอมรับ เล่นหาในราคาหลักมากล้าน .....
...
- อีกรายการเป็น เหรียญรุ่น ๒ พ.ศ.๒๔๙๘ เนื้อทองคำ หลวงพ่อทองศุข อินทโชโต วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี ซึ่งถือว่าเป็นที่สุดของเหรียญหลักยอดนิยมหัวแถวของเมืองเพชรบุรี เหรียญนี้ ของ เสี่ยบอย โกพัต เป็นเหรียญเนื้อทองคำ ที่มีสร้างไว้น้อยมาก ได้ดูในสนามเราไม่เกิน ๓ องค์ และองค์นี้สภาพสวยเลิศที่สุด ยากจะหาเหรียญเทียบได้ แม้จะเปิดให้ท้าชนทั้งที่เป็น เนื้อเงิน เนื้อทองแดง ก็หาองค์สวยเท่าไม่เจอ ทั้งความคมชัดในพิมพ์ อักษรอักขระเลขยันต์ชัดติดเต็ม อ่านง่ายทุกตัวสำคัญสุดอยู่ที่ทุกอณูในเหรียญไร้ริ้วรอยสัมผัส ต้องยกเป็น แชมป์ ออฟ เดอะ แชมป์ องค์จริงของวงการ.....
- องค์ที่เจ็ด เป็น รูปเหมือนลอยองค์ รุ่นแรก หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์ ๑ ใน ๕ รูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ยอดนิยมภาคอีสาน และเป็น ๑ ใน ๑๐ รูปเหมือนพระเกจิฯยอดนิยม เพราะชื่อเสียงวัตรปฏิบัติในความเป็นพระผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า มีเมตตาบารมีสูง และอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในพระเครื่องของขลังที่ท่านสร้างมีเป็นประสบการณ์อย่างสูง โดยเฉพาะ รูปเหมือนรุ่นแรก อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง ที่ร่ำลือกันว่ามีอานุภาพด้านเสริมวาสนาบารมีสูง จึงมีศิษย์ผู้ใช้บูชารูปเหมือนท่านรุ่นนี้เพียงองค์เดียว อาราธนาขอท่านช่วยให้มีความเจริญก้าวหน้าก็ได้ตามขอ จากอดีตเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็ไปเป็น รมช. จึงมั่นใจเชื่อว่าเพราะอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของรูปเหมือนนี้หนุนนำ.....
- สุดท้ายเป็น เขี้ยวเสือแกะ (หุบปาก) หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน จ.สมุทรปราการ ของ เสี่ยแม็ก ช้างเผือก เป็นตัวที่แท้ดูง่าย ทุกจุดพิจารณาถูกต้อง ครบสูตรตามตำราเป๊ะๆ เขี้ยวโปร่งฟ้า ตาลูกเต๋า ยันต์กอหญ้า หน้าแมว และมีอายุความเก่า ฟอร์มทรง ศิลปะฝีมือช่างมาตรฐานนิยมสุด เนื้อเขี้ยวสีเนื้อเหลืองนวลเข้มจนมีแสงเงาจากในเนื้อออกนอกดั่งรัศมี จึงสวยแบบไร้ที่ติ ลาไปลุ้นนายกรัฐมนตรี ด้วยเรื่องปิดท้ายของ เจ๊วิภา สาวใหญ่วัย ๕๐ เจ้าของร้านขนมไทยย่านคลองสาน มีปัญหาครอบครัวไปปรึกษาเพื่อน ว่าสามีเป็นเซียนพระ อยู่ด้วยกันมาเกือบ ๑๐ ปี ไม่มีปัญหา เพิ่งมาระยะ ๒-๓ ปีมานี้ เริ่มไม่กลับบ้านหายไปที ๓-๔ วัน อ้างว่าพระดีๆหายากต้องไปตามหาเฝ้าซื้อที่ต่างจังหวัด แต่เวลากลับมาก็จะมีพระมาอวด ขายได้กำไรก็เอาเงินมาให้เก็บทีละเยอะๆ เลยไม่ได้ว่าอะไร แต่มาระยะ ๕-๖ เดือนที่ผ่านมา สามีดูจะไปเฝ้าพระถี่ หายไปนานเป็นอาทิตย์ กลับบ้านได้วันเดียวก็ออกไปอีก ถามก็บอกว่า ตอนนี้ต้องไปบ่อยๆ เพราะกำลังตามพระนางพญาองค์งามอยู่ ถ้าซื้อได้จะมีกำไรเป็นล้าน แต่ เจ๊วิภา บอกรู้สึกผิดปกติ เพราะตอนหลังไม่เคยมีพระกลับมาให้ดู จึงจ้างคนออกตามสืบว่าไปไหน ก็ได้รู้ความจริงแบบหงายหลังว่าสามีไปเฝ้า “นาง” ที่กินได้เดินได้ เพื่อนก็ถามว่า นางพิมพ์ไหน อกใหญ่ อกนูน หรืออกแฟบ เจ๊วิภา ฟังแล้วตอบเสียงเข้มว่า นางพิมพ์ไหนก็พอทน แต่ครั้งนี้ไม่ทนแล้ว เลิกแน่ เพราะมันไปเฝ้านางกะเทย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง