ในจำนวนพระเครื่องของหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน (บพิตรภิมุข) เหรียญ พระปิดตา และพระผงเคลือบพิมพ์กลีบบัว เฉพาะเหรียญ คุณบอย ท่าพระจันทร์ ใช้วิชาการตลาดทำราคา 30 ล้าน พระปิดตา คุณพายัพ คำพันธุ์ เคยใช้คำว่าราคาแพงสูงสุด จะมีก็แต่พระผงกลีบบัว ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมูลค่า
พระเครื่องของท่านมีจำนวนน้อยมาก จึงพอจะเดาได้ “การตลาด”ทำให้ค่านิยมพระเครื่องหลวงปู่ไข่ลักลั่น
หลักของคนเป็นพระเริ่มนับหนึ่งกันที่ “พระแท้” แท้เพราะเซียนใหญ่ดูให้ มีใบเซอร์สมาคม หรือ (แฮ่ะๆ) พ่อให้มา ฯลฯ แล้วพยายามจดจำ...พิมพ์ เนื้อ ธรรมชาติ เจอองค์ต่อๆไป ก็ค่อยๆเทียบเคียงความเหมือนความต่าง
หลักนับหนึ่งนี้ใช้สำนวน “กลัดกระดุมเสื้อเม็ดแรก” เห็นภาพชัดกว่า...ถ้ากลัดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อๆไปก็ผิด กลายเป็นคนเล่นไม่เป็นไปจนตาย
ดูภาพพระปิดตาหลวงปู่ไข่ องค์ในคอลัมน์ ทั้งพิมพ์ เนื้อ และรัก คนเป็นพระดูได้ว่า “เก่า”
ระดับความเก่า...เก่าแค่ไหน...ประวัติหลวงปู่ ตั้งแต่บวชเณรจนเป็นพระ เอ้า! เริ่มที่บวชพระ ที่วัดลัดด่าน สมุทรสงคราม พระสนิทสมณคุณ คนแม่กลองเรียก “ท่านเจ้าเนตร” วัดบ้านแหลมเป็นอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเอี่ยม วัดลัดด่าน หลวงพ่อภู่ วัดบางกะพ้อม เป็นคู่สวด...ก็ได้
ท่านธุดงค์หาความรู้จากครูบาอาจารย์ไปเรื่อยๆ แล้วเลือกทำเล ป่าช้าวัดเชิงเลน...สมัยนั้นเป็นวัดเล็กๆ เป็นที่พำนักราวยี่สิบปีช่วงชีวิตตอนปลาย (ท่านมรณภาพ พ.ศ.2475) สมมติท่านสร้างพระเครื่อง ปี 2466 ถึงปีนี้ (2566) ก็ร้อยปี เข้าเกณฑ์วัตถุโบราณ สรุปว่า อายุพระเครื่องของท่าน เก่า...ประมาณนั้น
พิมพ์ เนื้อ สี (วรรณะ) รัก บางตำราว่าชุบน้ำมันตังอิ๊ว หนังสือพระปิดตาเล่มล่า ของคุณพายัพ คำพันธุ์ ใช้คำว่า เนื้อผงคลุกรักและเนื้อผงมหาพุทธคุณ ขนาดองค์พระคุณพายัพอธิบายมีพิมพ์ใหญ่ กลาง เล็ก และใหญ่พิเศษขนาดเท่าไข่ไก่ก็มี
...
ไล่เรียงดูภาพ ส่วนใหญ่สีแบบคลุกรัก แต่ไม่นุ่มแบบเนื้อกะลา ปิดตาหลวงพ่อแก้ว สีรักออกดำสนิท บางองค์เนื้อออกไปทางขาว...เรื่องสีนี้เอาแน่ไม่ได้ สรุปภาษาเซียน อ่านความเก่า รักเก่า เนื้อเก่า...ให้ขาด ก็น่าจะพอเอาตัวรอดจากพระปลอม ซึ่งมีออกมาไม่น้อยได้
กระดุมเม็ดต่อไป คือความรู้ ควรเรียนรู้ว่า เนื้อหลวงพ่อใช้สูตร...ไหน...
“จ่าเปี๊ยก” (ปรีชา เอี่ยมธรรม) อธิบายไว้ในหนังสือพระปิดตามหาอุตม์ เล่มแรก ของอาจารย์นิพัทธ์ จิตรประสงค์ (พ.ศ.2539) ว่าหลวงปู่ไข่ ผสมเนื้อสูตรเดียวกับหลวงพ่อแย้ม วัดด่านสำโรง ท่านมีผงพุทธคุณจากการเรียนหนังสือใหญ่ (มูลกัจจายน์) ไว้เป็นมวลสารหลัก แล้วใช้ใบโพธิ์เผาเป็นเถ้าเป็นส่วนผสมรอง
วิธีการทำพระผงครึ่งซีก แบบคลุกรักจ่าเปี๊ยก บอกว่า เริ่มจากการนำมวลสารต่างๆที่เตรียมไว้ไปบดในหินบดยา ตักน้ำรักผสมลงไป ค่อยๆบดไป ถ้าใส่น้ำรักมากเกินไป ผงก็จะเหลว ถ้าใส่น้ำน้อยผงก็จะแข็งกระด้าง
ค่อยๆทำไปๆจนกระทั่งผงกับเนื้อรักผสม ผสานกันได้ที่ ดูจากการไม่ติดแม่หินและลูกหิน นำเนื้อพระไปกดลงในแม่พิมพ์ ถ้าใช้แผ่นกระดานกดด้านหลัง ก็อาจจะได้ลายแผ่นกระดาน คล้ายลายกาบหมาก
แต่ถ้าค่อยๆกดด้านหลังด้วยมือสองข้าง ก็จะได้พระหลังนูน อย่างที่เรียก หลังประทุน หรือหลังเบี้ย
พระที่กดจากแม่พิมพ์ครึ่งซีก ส่วนใหญ่จะปรากฏขอบที่ด้านหลัง เป็นเนื้อที่ล้นพิมพ์ออกมาจนมองเป็นสองขยัก บางอาจารย์ก็จารอักขระด้านหลัง
ดูพระปิดตาหลวงปู่ไข่ องค์ในคอลัมน์องค์นี้ พิมพ์ถูกต้อง เนื้อพระ เนื้อรัก และธรรมชาติ รวมด้านหลังเป็นหลังนูน เก่าตามธรรมชาติ
คนรักพระปิดตา เทียบเคียงได้จากพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก หลายๆสำนักรุ่นที่อายุไล่เลี่ยกัน แล้วก็สามารถฟันธง...เป็นพระแท้ ถ้ามีตังค์ก็ทำตลับทองฝังเพชรขึ้นคอได้เลย
มิตรรักที่เผลอรักพระปิดตาหลวงปู่ไข่แล้ว ถ้ายังหาหลัก “นับหนึ่ง หรือกลัดกระดุมเสื้อเม็ดแรก” ไม่ได้ ขอแนะนับหนึ่งกันที่องค์นี้แหละ...แท้ดูง่าย ไม่มีจุดคลุมเครือให้สะดุดใจตรงไหนเลย.
พลายชุมพล