พระปิดตาไม้แกะ หลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก ของแมน รัตนา.
วันนี้ สนามพระวิภาวดี ของเรา มีบรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษกว่าพิเศษ เพราะหลังหย่อนบัตรเลือกตั้งแร้วทุกคนก็ขออนุมัติเมียไปรอฟังผลนับคะแนนกันตามศูนย์พระ
ซึ่งฟินกว่านั่งเฝ้าจอรอดูผลกับเมียที่บ้าน เพราะได้คุยไปดูพระไป และแน่นอนหลายคนก็ชวนเดิมพันทายผลที่ตัวเองมั่นใจ เย็นนี้ก็จะได้รู้กันว่าพรรคไหนจะแลนด์สไลด์ มาแรงหรือไถลลื่นล้มหัวทิ่มบ่อ--ประสา สีกาอ่าง ก็ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมือง ดลบันดาล ดลใจให้พ่อแม่พี่น้องชาวสนามพระ กาเบอร์ ที่ดี มีเจตนาในการพัฒนาชาติบ้านเมืองของเราให้รุ่งโรจน์ ไม่รุ่งริ่งด้วยเถิ้ด เพี้ยง!!
...
ส่วนพระเครื่องที่มาชุมนุมในวันประวัติศาสตร์การเมืองไทยครั้งทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ๒๕๖๖ นำขบวนด้วย พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้นอกตัน วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งนักนิยมพระกำหนดพิมพ์มาตรฐานเพียง ๓ พิมพ์ จากที่พบกว่า ๑๐ พิมพ์
คือ ๑.พิมพ์ใหญ่นิยม ๗ ชั้น A ๒.พิมพ์กลางนิยม ๖ ชั้นอกตัน ๓.พิมพ์เล็กนิยม ๖ ชั้นอกตลอด ทุกพิมพ์มีพุทธศิลป์ กรอบฟอร์มองค์ เนื้อมวลสาร เป็นเอกลักษณ์เดียวกัน อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยเพชร–อิทธิ ชวลิตธำรง เป็น พระพิมพ์ ๖ ชั้นอกตัน งามสมบูรณ์ รูปทรงลงตัว พิมพ์ชัด เนื้อใช่ เป๊ะปังอลังการ อย่างพระแชมป์ ที่นับวันจะหายาก ด้วยราคาที่ทวีค่าอย่างทวีคูณ
ตามมาด้วย พระหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน พิมพ์ใหญ่ A กรรมการ พ.ศ.๒๔๙๗ พระครูวิสัยโสภณ (ทิม) วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พระดีพิธีใหญ่ ที่ พระอาจารย์ทิม ธมฺมธโร เจ้าอาวาส สร้างตามนิมิต เพื่อมอบผู้ร่วมบริจาคสร้างพระอุโบสถ
มีบันทึกของ นายอนันต์ คณานุรักษ์ คหบดีผู้อุปถัมภ์และกรรมการจัดสร้าง ไว้ว่า “เมื่อวันที่ ๔ ก.พ.๒๔๙๗ ตรงกับวันพฤหัสฯขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๓ ได้ไปพบ พระอาจารย์ทิม ที่วัด ได้เรียนถามท่านถึงเรื่องโบสถ์ที่กำลังสร้างอยู่ จะมีการสร้างพระเครื่องไว้แจกผู้สละทรัพย์ร่วมกุศลไหม ท่านบอกว่า คิดจะทำมา ๒ ปีแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ”
ข้าพเจ้าจึงว่า ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอรับอุปถัมภ์ในการจัดสร้าง ท่านก็ยินดี โดยให้ท่านเลือกแบบ ข้าพเจ้าขอเลือกเนื้อพระเป็น “สีดินแดง”
ทันใดนั้นก็รู้สึกขนลุก นึกเห็นภาพพระเครื่องลอยเด่นอยู่ตรงหน้า เป็นองค์พระภิกษุชรา นั่งขัดสมาธิอยู่บนดอกบัว องค์พระเป็น “สีดำ” เป็นมโนภาพมหัศจรรย์ ที่เห็นชัดเจนยิ่ง จึงเรียนพระอาจารย์ทิมทราบ จึงให้สร้างเป็นรูปแบบตามนิมิต
ให้ พระอาจารย์แสง วัดตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องว่านยาเป็นผู้รวบรวม แสวงหาว่านยา แล้วจึงออกค้นหาว่าน “ดินดำ” ที่เรียกว่า ว่านกากยายักษ์ ที่มีขึ้นอยู่ตามเชิงเขา เป็นทางยาวคล้ายสายแร่ ที่เชื่อกันว่ามีสรรพคุณรักษาโรค
เมื่อได้ว่านครบตามตำราจึงนำมาตำผสมดินดำ มวลสาร อาทิ ว่าน ๑๐๘ ปูนขาว กล้วยป่า ผงขี้ธูป ไคลสถูปที่บรรจุอัฐิหลวงปู่ทวด แร่ ดอกไม้แห้ง น้ำพระพุทธมนต์ เป็นที่มาของคำ “พระเนื้อว่าน”
ซึ่งก็มีเรื่องแปลกของว่านบางอย่าง เช่น ว่านงูเห่า ว่าไม่สามารถตัดเอามาได้ เพราะมีพิษมาก ใช้วิธีตัดปล้องไม้ไผ่เป็นบ่วงคล้องก็เอามาไม่ได้ เพราะเมื่อปล้องไม้ไผ่ถูกกับต้นว่านจะเหี่ยวเฉาทันที ยังมีว่าน “พญานาคราช” ที่มีลักษณะเปลือกต้นเป็นเกล็ด ที่ขึ้นอยู่ตรงไหนจะไม่มีงูอยู่เลย”
...
เมื่อได้ว่านยาครบแล้ว นายอนันต์ ประสงค์จะให้บดเนื้อว่านละเอียดที่สุด เพื่อกดพิมพ์พระได้สวยงาม จึงมอบหน้าที่ให้ร้านขายเครื่องเทศของชาวอินเดีย ในตลาดเก่า (พิธาน) ในตัวเมืองปัตตานี บดด้วยครกบดยา แต่ต้องใช้เวลามาก จึงทำได้เพียงระยะแรก
เมื่อถึงวันฤกษ์กำหนดกดพิมพ์พระจึงนำว่านยาให้แรงงานชาวบ้าน ที่วัดช้างให้ทำต่อ โดยชาวบ้านกับพระช่วยกันตำด้วยครกตำ ขณะตำ อ.ทิม ให้ ท่องคาถาที่กำหนดแต่ละวันไม่เหมือนกัน
สำหรับ แม่พิมพ์ ทำจา ยางครั่งสีดำ กล่าวกันว่ามีเบ้าพิมพ์มากกว่า ๑๖ พิมพ์ เพราะต้องการให้กดพิมพ์พระได้ครบจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์--แต่ทำได้จริงเพียง ๖๔,๐๐๐ องค์
ถึงกำหนดวันงานพิธีปลุกเสก วันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๗ เสร็จพิธีแล้วนำใส่บาตรออกให้ประชาชนทำบุญบูชา โดยไม่กำหนดราคา
มีพิมพ์พระเป็นมาตรฐาน อาทิ พิมพ์ใหญ่กรรมการ A B พิมพ์ใหญ่ A เนื้อดำ น้ำตาล (หัวขีด) พิมพ์ใหญ่ B (ลึก) พิมพ์ใหญ่ C (ไหล่จุด) พิมพ์ใหญ่ (บัวขีด) และพิมพ์ใหญ่ (ธรรมดา) และพิมพ์กลาง พิมพ์ต้อ พิมพ์พระรอด ที่มีแยกเป็นพิมพ์ย่อย ซึ่งล้วนได้รับความนิยม
สำหรับองค์นี้ ของ เสี่ยวีรสันต์ ประโยชน์อมรกุล เป็น พระพิมพ์กรรมการ องค์งาม สภาพแชมป์ ของวงการองค์หนึ่ง ที่ปัจจุบันมีราคาสูงหลักมากล้าน ที่หาได้ยากสุดๆ เพราะมีคนอยากซื้อเยอะ แต่คนอยากขายน้อย
...
องค์ที่สามตามมา คือ พระปิดตา พิมพ์ใหญ่ เนื้อเมฆพัตร หลวงพ่อปล้อง วัดหลุมดิน จ.ราชบุรี ๑ ใน ๕ พระปิดตาเมฆพัตรยอดนิยม
องค์นี้ไม่ธรรมดา มีดีให้ดูเพียบตามสไตล์ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี มืออาชีพ ที่ส่งภาพพระหลักยอดนิยมมาเผยแพร่ ล้วนเป็นพระแท้ ดูง่าย แล้วยังดูมันส์มากๆ มาให้ได้เรียนรู้เป็น “องค์ครู” อย่างต่อเนื่อง
อย่างองค์นี้เป็นพระที่ ถูกต้อง ทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เนื้อโลหะ ที่สำคัญคือ รอยแทงแต่งเกลาเส้นศิลป์ในพิมพ์องค์พระ ทั้งซอกลึกตรงนิ้วพระหัตถ์ และเส้นศิลป์ รวมถึงผิวองค์พระ ที่คู่ควรกับการพิจารณาจดจำให้แม่นๆ เพราะด้วยเป็นจุดพิจารณา ชี้ขาด ตัดสินเก๊-แท้ ที่สำคัญ ซึ่งองค์นี้มีให้เรียนรู้ครบถ้วน
...
องค์ที่สี่ ก็ไม่ธรรมดา เป็น พระพิมพ์ปางซ่อนหา เนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับ วัดอนงค์ เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ของ เสี่ยต่าย เชียงแสน มืออาชีพรุ่นใหม่
เป็น พระเนื้อเมฆสิทธิ์ ยอดนิยมเบอร์ต้น ที่สร้างตามตำรับวิชา เล่นแร่แปรธาตุ ของ หลวงพ่อทับ วัดอนงค์ อมตะพระเกจิฯ ผู้มีชื่อเสียงเป็นจอมยุทธ์ด้านวิชาอาคมในอดีต
ครั้งยังเรียกเป็น “ฝั่งธนบุรี” หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ยังต้องให้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) แนะนำเข้าแลกเปลี่ยน เรียนรู้ต่อวิชากัน โดยเฉพาะการทำ เนื้อเมฆสิทธิ์ ที่ หลวงพ่อทับ เป็นเจ้าตำรับ นำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลพระเครื่องหลายรูปแบบ
ทั้ง ตะกรุดลูกอม พระชัยวัฒน์ พระปิดตา พระพิมพ์ปางซ่อนหา และอื่นๆที่มีอานุภาพปรากฏเลื่องลือ ด้านหนุนนำดวงชะตา ให้ผู้มีใช้บูชามีความเจริญรุ่งเรือง แก้ไขดวงชะตา ให้ร้ายกลายเป็นดี
โดยเฉพาะ พิมพ์ปางซ่อนหา ที่ได้รับความนิยมอยู่หัวแถว ด้วยพุทธศิลป์ที่งดงามอย่างอลังการ องค์งามๆ สภาพสมบูรณ์เดิมๆแบบนี้ เป็นพระดีทีเด็ด ถ้ามีความพร้อมก็อย่ารอช้ารีบนิมนต์ไปบูชาเป็นพระคู่บุญ เสริมชะตาบารมีเลย
ต่อด้วย พระชัยวัฒน์ พระครูลืม วัดอรุณฯ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
ท่านเป็นบุตร พระยาปริยัติธาดา (เปี่ยม) และ คุณหญิงส้มลิ้ม ปิยัมบุตร เกิดที่บ้านหน้าวัดชนะ สงคราม เรียนหนังสือในพระตำหนักสวนกุหลาบ ในวัง จบออกมาก็รับราชการเป็นทหารเรือ
แล้วอุปสมบทที่วัดสุวรรณาราม โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฤทธิ์) วัดอรุณฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ ตอนแรกจำพรรษาอยู่วัดชนะสงครามหน้าบ้าน แล้วย้ายมาอยู่วัดอรุณฯ ได้เป็นศิษย์ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) มีพระเพื่อนร่วมรุ่นคือ ท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์)
และได้สร้าง พระชัยวัฒน์ เนื้อโลหะผสม เทหล่อโบราณ ไว้ตอนเป็น พระครูภาวนาวิจารณ์ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๓ โดยได้รับ ชนวนเนื้อพระกริ่งสมเด็จพระสังฆราช (แพ) เป็น เนื้อผสม
พระมีชื่อเสียงได้รับความสูงเป็น ๑ ใน ๕ พระชัยวัฒน์ยอดนิยม ที่มี ๑.พระชัยวัฒน์ท่านเจ้ามา วัดจักรวรรดิ ๒.พระชัยวัฒน์สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ ๓.พระชัยวัฒน์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ๔.พระชัยวัฒน์ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง--และ ๕. พระชัยวัฒน์พระครู (ลืม) วัดอรุณฯ
องค์นี้ ของ เสี่ยเพชร–อิทธิ เป็นพระงามสมบูรณ์ ฟอร์มทรงลงตัว พิมพ์พระคมชัด เนื้อโลหะเข้มข้นครบสูตร มีชาด รัก คลุมทำให้ดูเข้มขลังเป็นพิเศษ เด็ดจริงๆ
ถัดไปเป็น พระปิดตาไม้แกะ พระครูวิสุทธิ์ศีลาจารย์ (หลวงปู่พริ้ง อินทโชติ) วัดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ อมตะพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงเกรียงไกร
สมัยสงครามอินโดจีน เป็นที่พึ่งชาวเมืองหลวงที่อพยพมาหลบภัยในวัดท่าน เพราะเห็นเป็นอัศจรรย์ที่ไม่มีระเบิดจากเครื่องบินญี่ปุ่นที่ทิ้งบอมบ์หล่นในเขตวัดท่านเลย ทำให้ผู้หลบภัยอยู่รอดปลอดภัย จึงเป็นที่เลื่องลือ จนมีหัวหน้าทหารญี่ปุ่นเข้ากราบคารวะ
ท่านสร้างพระเครื่องของขลังไว้หลายเนื้อ หลายรูปแบบล้วนมีชื่อเสียง โดยเฉพาะพระที่ท่านสร้างในยุคแรกๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยแมน รัตนา มืออาชีพรุ่นใหญ่ สายตรงตัวจริง
เป็น พระปิดตา ไม้แกะ ที่โบราณเรียก รากไม้ระงับ ป้องกันภัยได้ทุกเรื่อง พบมีทั้งที่อุดผง ลงเหล็กจารลายมือที่ก้น และบรรจุลูกอม ได้รับความนิยมสูง องค์งามสมบูรณ์ไร้ริ้วรอยลบเลือนแบบนี้ ราคาว่ากันที่หลักหมื่นปลาย ขึ้นหลักแสนสบายๆ
ตามมาด้วย พระนางพญา กรุโรงทอ วัดโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พระกรุพระเก่าพุทธศิลป์สมัยอยุธยา รูปทรงสามเหลี่ยม ค้นพบในกรุพระวัดโพธิ์ ชานเมืองพิษณุโลก ตอนเคลียร์พื้นที่สร้างโรงทอผ้าทหาร
พบพระที่แตกกรุ เป็น เนื้อดินเผารูปทรงสามเหลี่ยม คล้าย พระนางพญา วัดนางพญา มีพิมพ์พระแยกเป็น พิมพ์ใหญ่ (มีหู) กับพิมพ์เล็ก (ไม่มีหู)
ได้รับความนิยมเพราะรูปทรง พิมพ์พระ มีอานุภาพพุทธคุณเหมือนพระนางพญา วัดนางพญา จึงเชื่อกันว่าเป็นพระสร้างร่วมสมัย
องค์นี้ ของ เสี่ยซุย แม่จัน เป็นพระสภาพสมบูรณ์ สวยเดิม ปัจจุบันราคาค่าความนิยมขึ้นสูงถึงหลักแสนต้น
สุดท้าย ขอเสนอ เหรียญเจ้าสัว ทองคำ พ.ศ.๒๕๓๕ หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
เป็น ๑ ในเหรียญรุ่นนิยม หลวงพ่อเกษม ที่มีเสียงตอบรับฮือฮามาก เมื่อมีข่าวจัดสร้าง และเห็นรูปแบบเหรียญ เป็นเหรียญรูปทรงซุ้มกระจัง ที่นิยมเรียกว่าเหรียญเจ้าสัว
จัดสร้างด้วยเนื้อโลหะ ทองคำ เงิน นวโลหะ ทองแดง มีผู้สนใจสั่งจองหมดก่อนวันพิธีปลุกเสก ๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๕ โดยเฉพาะ เนื้อทองคำ
หลังปลุกเสกใบจองมีราคาขึ้นเป็นเท่าตัว ถึงปัจจุบันองค์งามๆ สภาพสวยแกะกล่อง เดิมๆอย่างองค์นี้ ของ เสี่ยโหน่ง กาดเมฆ ราคาขึ้นสูงถึงหลักแสน
มาถึงเรื่องปิดท้ายของเรา ที่แฟนคลับเล่ากันมาไม่ขาดสาย คราวนี้ กล่าวถึง นายนรินทร์ เจ้าของกิจการค้าอาหารทะเล ซึ่งชมชอบแสวงหาสะสมพระเครื่องของขลัง มีพระดีวัดดังที่ไหนสร้างออกให้ทำบุญบูชา จะต้องหาเวลาเดินทางไปเช่าบูชาด้วยตัวเองทุกที่ (เน้นที่ “สีกาอ่าง” เขียนถึง) ทำให้มีพระเครื่องของขลังเพียบ
หลังวันสงกรานต์ ก็ขออนุญาตเมียไปเยี่ยมญาติที่บ้านสมุทรสงคราม กลับมาถึงบ้านก็มีข้าวของมามากมายต้องให้ลูกเมียช่วยขน ล้วนเป็นพระเครื่องของขลัง ทั้งพระบูชา พระเครื่อง องค์ยักษ์ท้าวเวสสุวรรณ ผ้ายันต์ ตะกรุด กุมารทอง
พอหายเหนื่อย เมียที่หอบแฮ่ก อดถามไม่ได้ว่า จะเช่ามาทำไมเยอะแยะ เต็มบ้านจนไม่มีที่เก็บแล้ว จะมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
นายนรินทร์ ที่ยืนพักเหนื่อยหอบ โบกมือตอบ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความศักดิ์สิทธิ์มีจริงหรือไม่นะแม่ แต่ที่มีแน่ๆ คือมั่นใจว่ายิ่งเก็บนาน ยิ่งมีราคา จึงตั้งใจเช่ามาเป็นการลงทุน ทำกำไร เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง