ขอต้อนรับเข้าสู่สนามพระสุดท้ายของเดือนเมษา ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความร้อนดับดิ้นกำลังจะลดลงเหลือร้อนมาก ร้อนพอประมาณ แบบเดิม อดใจรออีกนิด ก็จะมีฝนมาให้ฉ่ำ

ตอนนี้ดูพระเครื่องงามๆให้เย็นใจไปก่อน องค์แรก พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ

องค์นี้ นักนิยมพระสมเด็จสายตรงเห็นปุ๊บก็ชอบ ในความเป็น พระแท้ ดูง่าย แบบวัดระฆังฯ ฝั่งเดียว เด็ดๆ ที่ยากจะพบในปัจจุบัน ทั้งผิวเนื้อ วรรณะ พิมพ์พระ เนื้อมวลสาร จึงถามราคากันรัวๆทั้งที่มีข้อความบอกว่า เป็นพระชำรุด มีหักซ่อม

พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังฯ ของสถิต ราชบุรี.
พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังฯ ของสถิต ราชบุรี.

แต่เพราะฝีมือศัลยกรรมเนี้ยบ เนื้อพระจึงถูกต่อติดสนิทแนบเนียนด้วยเนื้อเดิม ที่ดูด้วยตา ด้านหน้าไม่มีสะดุดเลย

...

พอพลิกด้านหลังถึงเห็นริ้วรอยชำรุดเฉียงๆ ผ่านที่ฐานด้านล่าง แต่ก็ยังชอบ จึงรอฟังราคา เพื่ออาราธนา “เข้ารัง” เพราะประเมินว่าองค์นี้ถ้าไม่มีชำรุดต้อง หลายสิบล้าน ประมาณพระแชมป์ แต่เมื่อมีตำหนิราคาคงย่อมเยาลงเยอะ น่าจะขายง่าย แต่ปรากฏต้องเฝ้าต่อไป เพราะ เสี่ยสถิต ราชบุรี ที่เพิ่งได้มาใหม่ๆ เค้ายังไม่อยากขายอ่ะ

องค์ที่สอง เป็น พระพิมพ์ พุงป่องใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) กรุงเทพฯ

เมื่อ ร.๑ ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ทรงให้รวม “วัดพลับ” เข้าเป็นวัดเดียวกับวัดราชสิทธาราม โดยสถาปนา พระอาจารย์สุก ญาณสังวโร ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส

สมัย ร.๒ ปี พ.ศ.๒๓๖๓ จึงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร ผู้ทรงคุณด้านเมตตามหานิยมสูง เลี้ยงไก่ป่าให้เชื่องได้แบบไก่บ้าน ชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า สมเด็จฯสุก ไก่เถื่อน

พระวัดพลับ พิมพ์พุงป่องใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม ของ พ.อ. วันฉัตร แสงสว่าง.
พระวัดพลับ พิมพ์พุงป่องใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม ของ พ.อ. วันฉัตร แสงสว่าง.

เชื่อกันว่าท่านได้สร้าง พระพิมพ์ เนื้อผงพุทธ คุณขาว รูปทรงกลม แยกพิมพ์ได้เป็น ๑.พิมพ์สมาธิ ใหญ่, กลาง, เล็ก และเข่ากว้าง ๒.พิมพ์พุงป่อง ใหญ่, เล็ก ๓.พิมพ์ตุ๊กตา ใหญ่, เล็ก และพิมพ์พิเศษยืนวันทาเสมา กับพิมพ์พระปิดตา

ได้รับความนิยมเป็นพระราคาหลักหมื่น-หลักแสน ด้วยศักดิ์ศรีเป็นพระพิมพ์ที่องค์พระอาจารย์สมเด็จฯโตสร้างไว้ แถมมีอานุภาพด้านแคล้วคลาดคงกระพันเด่นชัด องค์นี้ ของ พ.อ.วันฉัตร แสงสว่าง เป็น พระพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ เป็นพระแท้ ดูง่าย มาตรฐาน “องค์ครู” เลย

รูปหล่อพิมพ์นิยม A หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ของหมอปู.
รูปหล่อพิมพ์นิยม A หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ของหมอปู.

อีกองค์สวยเด็ดสะระตี่ เพราะชนะประกวด เป็น รูปหล่อพิมพ์นิยม A หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุด พบหาได้น้อยและหายากกว่า พิมพ์ขี้ตา

องค์พระดูอวบอิ่ม ริ้วจีวรคมชัด อ่อนช้อย เนื้อทองเหลืองผสม มีประกายสุกสว่าง ไม่ซีดหม่น และผิวพระจะเห็นรูพรุนคล้ายตามดเป็นธรรมชาติ ที่เกิดจากการหล่อแบบช่อแม่พิมพ์

...

ตามซอกองค์พระมีคราบขี้เบ้า สีออกน้ำตาล เป็นสีสนิมที่เกิดจากธรรมชาติขององค์พระ สีของเนื้อทองเหลืองผสม สีจะออกเหลืองอมเขียวตามตำรา

สวยแบบเนี้ยจึงชนะประกวด ดีกรีที่สอง งานประกวดพระของนิตยสารพระท่าพระจันทร์ ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เมื่อเดือน ม.ค. 66 ที่ผ่านมา

ตอนนี้เพื่อนๆ วปอ.53 ที่รวมตัวตั้งแก๊งพระเครื่อง อาทิ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย, พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ, นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข, อภิชาติ จูตระกูล, สุรินทร์ โกรพินธานนท์, ศักดิ์ชัย ยอดวานิช และอีกหลายสิบคน ฯลฯ จึงได้ปลื้มตามเจ้าของคือ หมอปู-ศ.นพ.อภิชาติ จิตต์เจริญ ไปด้วย

เหรียญหล่อเจ้าสัว เนื้อทองแดง รุ่นแรก หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ของนนท์ บางแค.
เหรียญหล่อเจ้าสัว เนื้อทองแดง รุ่นแรก หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ของนนท์ บางแค.

...

ตามมาด้วย เหรียญหล่อเจ้าสัว เนื้อทองแดง รุ่นแรก พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เหรียญหล่อยอดนิยมอันดับ ๑ นครปฐม และเป็นเหรียญหล่อราคาหลักล้าน

เดิมเริ่มสร้างโดยคณะศิษย์ที่ล้วนเป็นคหบดี พ่อค้า ข้าราชการ เจ้าของกิจการในเมืองนครชัยศรี กำหนดนามตามรูปแบบเรียกเป็น เหรียญซุ้มกระจัง--พอสร้างเสร็จเผยแพร่ออกไปพบมีอานุภาพด้านเมตตาโชคลาภเด่นชัด จึงเรียกเป็น “เหรียญเจ้าสัว”

เป็น เหรียญหล่อเนื้อโลหะผสมทองแดง กับ เนื้อเงิน ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางสมาธิทรงซุ้มกระจัง ด้านหลังเรียบ มักมีรอยลายมือจารอักขระตัวเฑาะว์ อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยนนท์ บางแค ซึ่งเหรียญสมบูรณ์สวยเดิมๆ ไม่มีเสริมแต่งแบบนี้ ปัจจุบันอย่าว่าแต่หาบูชา แค่หาดูยังยาก

เหรียญอนามัย เนื้อเงิน พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง ของบอย เชียงใหม่.
เหรียญอนามัย เนื้อเงิน พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง ของบอย เชียงใหม่.

...

ต่อด้วย เหรียญอนามัย รุ่นแรก เนื้อเงิน พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พระอมตะวิปัสสนาจารย์สาย “พระป่า” ที่มีชื่อเสียงด้านอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด

ตอนท่านมีชีวิตอยู่พระเครื่องวัตถุมงคลทุกรุ่นได้รับความนิยมมาก อย่างเหรียญนี้ก็เป็นเหรียญหลักยอดนิยมแถวหน้าของหลวงปู่แหวน ที่อนุญาตให้สร้างเพื่อหาทุนสร้างสถานีอนามัยเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๗ มีเนื้อทองแดง นวโลหะ และเนื้อเงิน อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยบอย เชียงใหม่ ที่สภาพสวยคมสมบูรณ์ เดิมๆ

วันนี้มีเหรียญมาหลายสำนัก อีกเหรียญคือ เหรียญก้าวหน้า ทองคำลงยา หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน วัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พระเกจิฯผู้เข้มขลังขมังเวทแห่งภาคอีสานใต้ ได้ชื่อเป็นพระผู้มีอิทธิฤทธิ์แตกต่างจากพระในถิ่นอีสาน ที่มักเป็นพระสายปฏิบัติด้านบุญญฤทธิ์

ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๐ ที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พออายุ ๗ ปี บรรพชาเป็นเณรตามคำขอพ่อ-แม่ แต่เมื่อครบกำหนด 3 เดือน ท่านกลับไม่ยอมสึก จนอายุ ๒๐ ปี ก็อุปสมบท

และออกธุดงค์แสวงหาความรู้สายวิชาอาคม เวทมนตร์ คาถา เข้าไปมีชื่อเสียงในประเทศเขมร เป็นพระผู้สยบกลุ่มโจรแทนเจ้าหน้าที่รัฐ จากนั้นกลับมาอยู่วัดเพชรบุรี บ้านเกิด ถึงปี พ.ศ.๒๕๒๓ ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสในฐานะพระครูปราสาทพรหมคุณ

และใช้วิชาอาคมช่วยเหลือชาวบ้านจนมีชื่อเสียงว่าเป็นพระเกจิฯผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ สร้างพระเครื่องวัตถุมงคล มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ อย่าง เหรียญรูปทรงเสมา เนื้อทองคำลงยา นี้ ที่สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๓ ปัจจุบันเป็นเหรียญ หลักแสน แล้ว

เหรียญหล่อ หลวงปู่นิล วัดตึก ของพรชัย พีชะพัฒน์.
เหรียญหล่อ หลวงปู่นิล วัดตึก ของพรชัย พีชะพัฒน์.

อีกรายการ ก็ เหรียญหล่อ หลวงปู่นิล วัดตึกมหาชยาราม ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พระอมตะเถราจารย์ยุคเก่า พระอาจารย์ทางวิปัสสนาของ หลวงพ่อเชย วัดเจษฎารามเป็นพระอุปัชฌาจารย์ของ หลวงปู่กรับ วัดโกรกกราก

ท่านสร้าง เหรียญหล่อเนื้อโลหะ ออก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๗ ปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นเหรียญพระเกจิฯยุคเก่า ราคาหลักหมื่นปลาย ราคาไม่สูงมาก แต่หายากสุดๆ เพราะมีสร้างไว้น้อย

เหรียญนี้ ของ เสี่ยพรชัย พีชะพัฒน์ เป็นเหรียญสภาพสวยแชมป์เดิมๆ ราคาขึ้นหลักแสน

พระพิฆเณศวร์ พ.ศ.๒๔๘๕ ท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์) วัดสุทัศน์ ของฐิติพัฒน์ วัฒนสุข.
พระพิฆเณศวร์ พ.ศ.๒๔๘๕ ท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์) วัดสุทัศน์ ของฐิติพัฒน์ วัฒนสุข.

สุดท้าย เป็น พระพิฆเณศวร์ (ถือเชือก) พ.ศ.๒๔๘๕ ซึ่ง ท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์) วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า กทม. ประกอบพิธีเทวาภิเษกเททองสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๕ ณ ลานพิธีวัดสุทัศน์

เป็นรูปหล่อจำลององค์พระพิฆเณศวร์ แบบลอยองค์ เนื้อโลหะผสม มี ๒ แบบ คือ ๒ พระกร กับ ๔ พระกร ที่มีแยกพิมพ์อีกเป็นพระกรซ้ายถือจักร กับพระกรซ้ายถือเชือก แบบองค์ในภาพนี้ ของ เสี่ยฐิติพัฒน์ วัฒนสุข ที่มีราคาสูงถึงหลักแสนเชียวนะ

อีกข่าวสำหรับแฟนคลับคลิปสารคดีสั้นชุด พุทธธรรม พุทธศิลป์ พุทธคุณ ค้ำจุนโลก ของ นิตยสารอนุรักษ์ ซึ่งมีกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์สนับสนุนและให้คำปรึกษา จนมียอดวิวหลายแสนผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยตอนที่ 8 เป็น พระไพรีพินาศ ใครพินาศ โดยมีแขกรับเชิญกิตติมศักดิ์คือ พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธ์ (ท่านอนิลมาน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรฯ อ.ธงทอง จันทรางศุ อดีตที่ปรึกษากฎหมายนายกรัฐมนตรี ซึ่งรอบรู้เชี่ยว ชาญในด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรม มาให้ความกระจ่าง

ส่วนตอนที่ 9 เรื่องมวลสารสร้างพระปรัชญา ภูมิปัญญา พุทธคุณ มี เสี่ยป๋อง สุพรรณ ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี ศิลปิน และนักสะสม ดร.ณัฐธัญ มณีรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญพุทธศาสนามาให้ความรู้

และวันศุกร์ ก็จบซีรีส์แรกกับ พระพยอม กัลยาโณ วัดสวนแก้ว และ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล นักคิด Influencer--สนใจเรื่องไหนขอในเพจ www.facebook.com/AnurakMagazine เลย

มาถึงเรื่องปิดท้ายสไตล์สนามพระวิภาวดี ที่เกิดในวัดดัง ซึ่งหลังวันสงกรานต์ เจ้าอาวาสเรียกศิษย์มาสอบถาม เพราะหน้ากุฏิที่จัดไว้เป็นที่รับแขกที่มาทำบุญเช่าบูชาพระเครื่องวัตถุมงคล วันนี้ทำไมมีคนมาน้อยทั้งที่ยังอยู่ในเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ บรรยากาศเงียบผิดปกติ

ลูกศิษย์รายงานว่า คนก็มีมาไม่น้อยกว่าวันก่อน แต่ตอนนี้เขาไปชุมนุมซื้อของกันอยู่ที่ประตูหน้าวัดกันมาก

เจ้าอาวาสก็สงสัยบอกว่า เอ็งไปดูซิว่าใครเอาพระเครื่องของขลังมาขายแข่งในเขตวัดเราหรือ ลูกศิษย์วิ่งหายไปพักใหญ่เก๊าะเดินหอบเหนื่อยกลับมาบอกว่า มีคนเอาของมาขายแย่งลูกค้าในเขตวัดเราจริงๆครับหลวงพ่อ--แต่ไม่ใช่พระเครื่องของขลัง แต่เป็นทุเรียนหมอนทองลูกเป้งๆ จากระยอง เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง