เหตุจากความซับซ้อนระหว่างการนำข้อเขียนไปใช้อธิบายภาพพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่สององค์...ไปเข้าหน้า ระหว่างหน้า 156-159 หนังสือ หิ้งพระพลายชุมพล (สำนักพิมพ์มติชน พ.ย.65) หัวข้อ พระสมเด็จสองคลอง

ในคำอธิบาย พระสองคลอง หรือพระสมเด็จวัดระฆังฝากกรุบางขุนพรหม มีลักษณะใด ทิ้งท้ายด้วยการสรุปให้เข้าใจว่า (ภาพ) พระสมเด็จวัดระฆัง องค์แรกเป็นวัดระฆังเพียวๆ ...นั้น ผมขอทำความเข้าใจใหม่ องค์แรกเป็นวัดระฆังฝากกรุแน่นอน

ส่วนองค์หลังพื้นผนังด้านหน้าองค์ เป็นตุ่มติ่งจากรอยเหนอะของผิวพระ ไม่ใช่ ตุ่มติ่งที่เป็นคราบกรุ นี่คือวัดระฆังเพียวๆ

ความเหลื่อนซ้อน อาจทำให้ไขว้เขวได้นี้ ที่จริง ก็เป็นข้อสอบ...สำคัญ แยกระหว่างคนเป็นพระแม่นเนื้อ แม่นพิมพ์ กับคนที่เพิ่งเรียนรู้ และพยายามทำความเข้าใจ ออกจากกันได้

ปัญหาของพระสองคลอง...ฟังจากหูเป็นเรื่องง่าย แต่การดูด้วยตา แล้วตัดสินว่าองค์ไหนวัดระฆัง องค์ไหนฝากกรุบางขุนพรหม เป็นเรื่องยาก

เท่าที่พบเห็นพระที่เคลื่อนไหวในวงการ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เส้นสายลายพิมพ์ วัดระฆัง แต่ไฉน? มีคราบกรุบางๆ แม้ไม่เกรอะกรังอย่างสมเด็จกรุใหม่บางขุนพรหม เซียนก็มักอ่าน เป็นพระสองคลอง

บางองค์ผิวสะอาดเกลี้ยงเกลา เมื่อถูกใช้สึกช้ำ คราบบางๆหรือฝ้ากรุจางหาย เซียนก็มักขายเป็นวัดระฆัง แต่สภาพเดียวกันนี้ เซียนอยากสำแดงให้เห็นความเป็นเซียนถือแส้ ขายเป็นบางขุนพรหมก็มี

อยากมีเกณฑ์ในการพิจารณา องค์นี้คลองไหน ก็ต้องเริ่มจากการใช้ปัญญา เรียนรู้ตามความเป็นจริง

พระสมเด็จวัดระฆัง ตามประวัติการสร้าง พิมพ์กันต่อหน้าสมเด็จพุฒาจารย์โต ที่กุฏิ พูดได้ว่า ทำกันแบบตามมีตามเกิด ตามแต่วัสดุอุปกรณ์ที่มีตรงหน้า มีเท่าไหร่ก็ทำไปแค่นั้น ไม่รีบร้อน

...

ฉะนั้น พระสมเด็จวัดระฆังส่วนใหญ่ จึงเป็นพระที่เรียบร้อย เนื้อหาโดยองค์รวมค่อนหยาบ เห็นมวลสาร กากดำ เม็ดแดง ก้อนขาว กรวดเทา เกล็ดเขียวหรือฟ้า ฯลฯ

หรืออาจมีก้านธูปชิ้นเล็กๆ ชิ้นผ้าซึ่งเข้าใจว่าเป็นเศษจีวรพระ หรือผ้าห่มพระประธานในโนโบสถ์

ส่วนพระสมเด็จบางขุนพรหม สร้าง พ.ศ.2413 (วัดระฆังสร้าง พ.ศ.2409) จำนวนพระที่เจ้าภาพต้องการ ว่ากันว่าแปดหมื่นสี่พันองค์ จำนวนพระมาก มวลสารแบบวัดระฆังจึงมีน้อย เนื้อหาจึงเห็นเหมือนปูนขาวเป็นส่วนใหญ่

คนที่ระดมมาทำ จึงมากกว่า เป้าหมายจำนวนอาจทำให้การทำพระรีบเร่ง พระหลายองค์ที่ถูกยกออกอย่างรีบร้อน จึงบิดเบี้ยว บิดเบนไปด้านใดด้านหนึ่ง

เมื่อเป็นเช่นนี้ เจอพระเนื้อขาวละเอียด มวลสารน้อย พิมพ์เบี้ยวเบี่ยงเบน ไม่ว่าจะเป็นพระผิวบางสะอาด หรือคราบกรุหนา ก็ตัดสินได้เลยว่าบางขุนพรหม

แต่ถ้าเจอพระเนื้อหยาบ มวลสารมาก ส่วนใหญ่สังเกตได้ว่าผสมน้ำมันตังอิ้วมากกว่า แม้ผิวพระสะอาดขาว แต่เนื้อในที่ถูกจับต้องออกสีเหลืองขุ่น นี่่ก็เข้าเกณฑ์สมเด็จวัดระฆัง

หากพบองค์ที่เนื้อหยาบ สภาพเรียบร้อย เส้นสายลายพิมพ์เป็นวัดระฆังแน่ๆ แต่มีคราบกรุเล่า?

คราบกรุวัดระฆังฝากกรุ โดยความเป็นจริง แม้มีบ้างแต่ไม่จมลึกในเนื้อเกรอะกรัง ด้วยเหตุผลว่าพระวัดระฆังสร้างก่อนสามสี่ปี เนื้อแห้งสนิทแล้ว เมื่อเอาไปเข้ากรุ อยู่ในโพรงร้อนชื้น เนื้อพระดูดซับได้น้อยกว่า

สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ในคอลัมน์ ด้านหน้ามีฝ้ากรุบาง มีคราบขุมลึกติดเหลือชัดบริเวณพระเพลา และฐานชั้นที่หนึ่ง ด้านหลังยังเหลือเค้ากระด้างจากร่องรอยขูดขัดลอกคราบกรุออก...ให้เห็น.

พลายชุมพล