เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี ๒๕๖๕ ที่หลายคนบอกตั้งตัวไม่ค่อยทัน เพราะวันเวลาผ่านไปเร็วมาก ยังมีนั่นโน่นนี่ที่ยังต้องจัดการค้างอยู่อีกเยอะ ที่น่าจะต้องยกยอดไปปีหน้า.....

ความรู้สึกแบบ “เวลาผ่านไปเร็วเหมือนติดปีก” ก็สอดคล้องกับคำสอนที่ว่า เวลา เป็น “สมบัติ” ที่มีค่า ที่ทุกคนมีเท่าๆกัน คือ ๒๔ ชั่วโมงต่อวัน แต่เราได้ใช้ “สมบัติ” นี้ให้เกิดประโยชน์หรือไม่ หรือปล่อยให้ “เวลา” สูญเสียไป เพราะคิดว่าเวลายังมีเยอะ--และถ้าคิดแบบนี้ วันหนึ่งหลายคนก็ได้พบกับคำว่า “สายเกินไป” เพราะไม่มี “เวลา” อีกแล้ว.....

และเรื่อง เวลา ทางพุทธศาสนา ก็มีใน ธรรมคุณ (คุณของพระธรรม ๖ ประการ) หรือ อกาลิโก หมายถึง การกระทำสิ่งใด หากเราปฏิบัติตามได้อย่างบริบูรณ์เมื่อไหร่ ก็เห็นผลเมื่อนั้น และเป็นจริงตลอดเวลา ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา--ส่วนอะไรที่ต้องขึ้นอยู่กับเวลา ก็มีเกิด เปลี่ยนแปลง ดับ ไปตามเวลา แต่ พระธรรมเป็นจริงอยู่เสมอ.....

เข้าสนามพระวิภาวดี ของเรา ซึ่งได้เห็นว่า วัตถุมงคล ที่เราบูชาเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็มีการสืบทอดความศรัทธาเชื่อถือมาเป็นพันๆปี หลังพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน ซึ่งอาจบอกได้ว่า อยู่เหนือกาลเวลา ได้.....

  • องค์แรกคือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ วัดใหม่อมตรส เขตพระนคร กรุงเทพฯ พระแท้ ดูง่ายสบายตา และเห็นกันมานาน ในหนังสือตำราพระสมเด็จเล่มมาตรฐานมากมาย.....ดีกรีเป็นพระพรีเมียมแบบนี้ เสี่ยแม็ก ช้างเผือก เจ้าของคนปัจจุบัน
    จึงกำลังเนื้อหอม.....
พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ วัดใหม่อมตรส ของแม็ก ช้างเผือก.
พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ วัดใหม่อมตรส ของแม็ก ช้างเผือก.

...

  • องค์ที่สอง คือ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้นอกตัน วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ก็เป็นพระแท้ดูง่ายสบายตา ด้วยรูปทรงสมส่วน พิมพ์พระที่ถูกต้องชัดเจนมาตรฐาน.....และเนื้อมวลสารที่เป็น เนื้อนิยมสุด (เนื้อกระดูก) รวมๆจึงเป็นพระหลักยอดนิยม ในสกุลพระสมเด็จวัดเกศไชโยฯ ที่มีความงามสมบูรณ์ ด้วยผิวเนื้อที่ผ่านสัมผัสใช้บางเบา ทำให้องค์พระดูดี มีเสน่ห์.....
พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้นอกตัน วัดไชโยวรวิหาร ของนายหนุ่ม.
พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้นอกตัน วัดไชโยวรวิหาร ของนายหนุ่ม.
  • องค์ที่สาม ตามมาคือ พระขุนแผน พิมพ์อกเล็ก วัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี สุดยอดพระกรุเมืองสุพรรณ ที่สร้างไว้ครั้ง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยกทัพหลวงจากกรุงศรีอยุธยามากระทำศึกยุทธหัตถีชนช้างกับพม่า ที่เมืองสุพรรณบุรี โดย พระอาจารย์ธรรมโชติ ประกอบพิธีสร้าง เพื่อมอบให้ทหารใช้บูชาคุ้มครองตัวออกทำศึก หลังเสร็จศึกทหารได้นำพระไปบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์กลางลานวัดบ้านกร่าง.....
พระขุนแผน พิมพ์อกเล็ก วัดบ้านกร่าง ของโต้ง สุพรรณ (พิเชษฐ์ ฉิมวัย)
พระขุนแผน พิมพ์อกเล็ก วัดบ้านกร่าง ของโต้ง สุพรรณ (พิเชษฐ์ ฉิมวัย)

อีกหลายร้อยปีวัดได้กลายเป็นวัดร้าง เมื่อองค์พระเจดีย์กลางลานพังทลายจึงพบ พระพิมพ์เนื้อดินเผา รูปทรง ๕ เหลี่ยม ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางมารวิชัย อยู่ในซุ้มแบบยอดขุนพล หลายแบบหลายขนาด ทั้งเดี่ยวและคู่จำนวนมาก.....ได้รับการขนานนามเป็น “พระขุนแผน” เพราะมีพ่อค้าชาวเรือที่มาอาศัยท่าน้ำหน้าวัด จอดพักแรม ขึ้นมาพักผ่อนในลานวัด พอพบพระก็นำติดตัวกลับไปใช้บูชา.....และปรากฏอานุภาพด้านคุ้มครองป้องกันภัย แคล้วคลาด เมตตามหานิยมมหาเสน่ห์ เป็นที่เลื่องลือ หนุ่มใหญ่-น้อยชาวเรือที่ไม่มีวี่แววจะมีคู่ก็ได้เจอเนื้อคู่อย่างอัศจรรย์กันมาก.....จึงต่างเชื่อว่าเป็นด้วยอานุภาพของพระวัดบ้านกร่างที่นํามาใช้บูชา จึงเรียกชื่อว่า ขุนแผน ตัวเอกในวรรณ คดีที่เก่งกาจชาตินักรบ ซึ่งพระได้แพร่หลาย นิยม เป็นพระเครื่องแถวหน้าของเมืองสุพรรณแต่นั้นมาถึงปัจจุบัน องค์นี้ของ เสี่ยโต้ง สุพรรณ (พิเชษฐ์ ฉิมวัย) เป็นพระพิมพ์นิยมเบอร์ต้นของกรุ--สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ แบบนี้ ราคาอยู่ที่หลักแสนกลางๆ.....

...

  • ต่อไปคือ พระกริ่งปวเรศน้อย สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ของ เสี่ยโต้ง บางแค ซึ่งมีข้อความจากหนังสือ “พระกริ่งสยาม” ปกเป็นพระกริ่งปวเรศฯ วัดบวรนิเวศ ปกหลังเป็นภาพองค์พระในเก๋งจีน.....กับด้านในมีภาพพระกริ่ง แบบองค์นี้ ๒ องค์ พร้อมข้อความใต้ภาพว่า “พระกริ่งปวเรศน้อย (พระสังฆราชแพ) วัดบวรนิเวศ ซึ่งทำให้สงสัยว่าผู้สร้างจะเป็น “สมเด็จพระสังฆราชแพ” หรือไม่ เพราะรู้กันว่าพระกริ่งปวเรศเป็นของวัดบวรฯ แต่สมเด็จพระสังฆราช (แพ) อยู่วัดสุทัศน์--ใครรู้จริง รู้ดี กรุณาเล่ามาด้วย...หรือหนังสือพิมพ์ผิด.....
พระกริ่งปวเรศน้อย วัดบวรนิเวศ ของโต้ง บางแค.
พระกริ่งปวเรศน้อย วัดบวรนิเวศ ของโต้ง บางแค.
  • ต่อไปเป็น เหรียญยันต์ ๕ บล็อกแตก พ.ศ.๒๔๖๙ เนื้อสำริด พระภาวนาโกศล (หลวงปู่เอี่ยม) วัดหนังฯ กทม. .....อันนี้ตอนแรกเป็นเหรียญที่สงสัยกันว่าสร้างเป็นเหรียญแจกงานศพหลวงปู่ท่าน เพราะระบุปีสร้าง พ.ศ.๒๔๖๙ ซึ่งเป็นปีมรณภาพของท่าน เกรงกันว่าไม่ทันท่านปลุกเสก.....จนพบบันทึก “ตรียัมปวาย” เปิดเผยว่า พระครูคำและพระปลัดแจ้ง ศิษย์ใกล้ชิดท่าน ขออนุญาต หลวงปู่เอี่ยม สร้างไว้เป็นที่ระลึกอีกรุ่นหนึ่ง หลังจาก เหรียญรุ่นแรกหลังยันต์ ๔ หมดจากวัด.....พอหลวงปู่อนุมัติจึงให้ นายเนียม ช่างทอง ผู้ทำเหรียญรุ่นแรก ลงมือทำแม่พิมพ์ สร้าง เหรียญหลังยันต์ ๕ รุ่นนี้ขึ้น โดยกำหนดแบบให้ด้านหน้าเป็นองค์หลวงปู่นั่งสมาธิเต็มองค์ บนโต๊ะขาสิงห์มีกนกข้างเหมือนเดิม.....

...

เหรียญยันต์ ๕ บล็อกแตก พ.ศ.๒๔๖๙ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ ของ โอ โชติธรรม์.
เหรียญยันต์ ๕ บล็อกแตก พ.ศ.๒๔๖๙ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ ของ โอ โชติธรรม์.

ด้านหลังเหรียญมีความแตกต่าง เป็นรูปยันต์ ๕ (พระเจ้าห้าพระองค์ นะ โม พุท ธา ยะ) เนื้อเป็นทองแดงเข้มออกสำริดดำ ที่ หลวงปู่เอี่ยม เรียก “สำริดเหล็ก”.....จัดสร้าง ๑,๐๐๐ เหรียญ นำมอบหลวงปู่ปลุกเสกก่อนมรณ ภาพ ๓ เดือน ปัจจุบันได้รับความนิยมเป็น เหรียญรุ่นสอง ที่จะหาเหรียญจริงของแท้สวยเฉียบแบบเหรียญนี้ของ เสี่ยโอ โชติธรรม์ ได้ยาก พอกับ เหรียญหลังยันต์ ๔ รุ่นแรก แต่ราคาก็ยังเบากว่า สภาพนี้อยู่ที่หลักล้านต้นๆ ซึ่งมีสายตรงอยากได้เยอะ.....

  • อีกเหรียญของ เสี่ยบอย บางกรวย เป็น เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๐๘ เนื้อทองแดงรมดำ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี สภาพสมบูรณ์สวยแชมป์.....รมดำเต็มร้อยเดิมๆ ขอบข้างเลื่อยนิยมสุด แบบนี้ ราคาอยู่ที่หลักแสนกลางถึงล้านแล้วจ้า.....

...

เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๐๘ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ของบอย บางกรวย.
เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๐๘ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ของบอย บางกรวย.
  • อีกรายการเป็น ล็อกเกต หลังอุดผงพุทธคุณ พ.ศ.๒๕๑๘ พระครูภาวนาภิรัต (หลวงปู่ทิม อิสริโก) วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วัตถุมงคลสร้างพิเศษ เป็นล็อกเกตเคลือบหน้าขาว.....ด้านหน้าเป็นภาพองค์ท่านห่มจีวรลดไหล่ นั่งสมาธิภาวนา ล้อมด้วยอักขระเลขยันต์ ด้านหลังบรรจุผงพุทธคุณเส้นเกศา กดเป็นพิมพ์องค์หลวงปู่นั่งสมาธิเต็มองค์ .....จำนวนสร้างเพียง ๒๒ ชิ้น ชิ้นนี้ของ เสี่ยไทยรัฐ คำปาน ที่ยังคงสภาพงามสมบูรณ์เต็มร้อย และราคาหลายแสน.....
ล็อกเกต หลังอุดผง พ.ศ.๒๕๑๘ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ของไทยรัฐ คำปาน.
ล็อกเกต หลังอุดผง พ.ศ.๒๕๑๘ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ของไทยรัฐ คำปาน.
  • สุดท้ายเป็น ตะกรุดโทน ถักเชือกลงรัก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก อ.เมือง จ.นครปฐม ของ คุณพี่เบญจวรรณ ไกรสวัสดิ์ ซึ่งแฟนคลับไม่เคยผิด หวังกับพระเครื่องวัตถุมงคลที่ส่งมาให้ชม เพราะเป็นของดี บอกถึงรสนิยมในการแสวงหาสะสมอย่างเล่นลึก รู้จริง.....อย่างชิ้นนี้เป็นวัตถุมงคลของขลังแถวหน้าเมืองนครปฐม ที่สร้างไว้โดยอมตะพระเกจิฯยุคเก่า ผู้มีวิชาพระเวทวิทยาคมแก่กล้า.....มีประวัติบันทึกจากคำบอกเล่าของพระเกจิฯรุ่นศิษย์ ที่ล้วนมีชื่อเสียงเป็นพระเกจิฯชื่อดังด้านวิชาอาคมของเมืองนครปฐม อาทิ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง, หลวงพ่อวงษ์ (พระครูพรหมวิสุทธิ์) วัดทุ่งผักกูด, หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม เป็นต้น และจากหลักฐานภาพถ่ายคู่พัดยศ ระบุ ร.ศ.๑๒๗ (พ.ศ. ๒๔๕๒) หลวงพ่อทา เป็นชาว อ.โพธาราม บิดามีเชื้อสายลาว มาจากเวียงจันทน์.....
ตะกรุดโทน ถักเชือกลงรัก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ของเบญจวรรณ ไกรสวัสดิ์.
ตะกรุดโทน ถักเชือกลงรัก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ของเบญจวรรณ ไกรสวัสดิ์.

ท่านกำเนิดราวปี พ.ศ.๒๓๖๖ เมื่ออายุ ๑๕ ปี บรรพชาเป็นสามเณร และอุปสมบทที่วัดบ้านฆ้อง ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน วิชาพุทธาคมจากพระอุปัชฌาย์และพระอาจารย์ชาวมอญนานหลายปีจนมีความเชี่ยวชาญ จึงได้รับอนุญาตให้ออกธุดงค์ปฏิบัติกรรมฐานปลีกวิเวก เข้าป่ารุกขมูลได้พบพระอาจารย์ถ่ายทอดวิชาอาคมอีกมาก.....ในปี พ.ศ.๒๔๑๗ ได้ธุดงค์มาถึง ต.พะเนียงแตก ขณะอายุ ๕๑ ปี พบสถานที่เป็นวัดร้างนอกเมือง จึงปักกลดพักแรม ปฏิบัติภาวนาจนชาวบ้านมาพบ เห็นวัตรปฏิบัติเกิดศรัทธาจึงอาราธนานิมนต์ท่านอยู่จำพรรษา ช่วยท่านพัฒนาวัด สร้างพระอุโบสถ เสนาสนะต่างๆ จนสำเร็จเมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๐.....และยังช่วยชาวบ้านสร้างอีกหลายวัด เช่น วัดบางหลวง วัดดอนเตาอิฐ วัดสองห้อง ทำให้ท่านมีชื่อเสียง เป็นที่เคารพศรัทธา ทั้งใน จ.นครปฐม สุพรรณบุรี ชัยนาท เพชรบุรี ราชบุรี และใกล้เคียง มีคนมาบวชเป็นพระเณรอยู่วัดพะเนียงแตกกันมาก.....จนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕ ทรงทราบเกียรติคุณจึงโปรดเกล้าฯนิมนต์ท่านร่วมในพระราชพิธีสำคัญเสมอ เช่น งานพระศพสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์--เมื่อ ร.๕ ทรงบูรณะองค์พระปฐมเจดีย์ก็ได้โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง หลวงพ่อทา เป็นพระเถระประจำทิศเหนือ.....

หลวงพ่อทา ทำหน้าที่ปกครองวัดด้วยเมตตาบารมี ความเด็ดเดี่ยวเด็ดขาด เป็นที่เกรงขามของนักเลงหัวไม้ยุคนั้น งานประจำปีวัดพะเนียงแตกจึงไม่เคยมีเรื่องวิวาทของนักเลงกลุ่มต่างๆ เพราะหลวงพ่อจะถือไม้พลองเดินตรวจทั่วงาน เป็นที่ยำเกรงนักเลงต่างๆ คนเมามาเจอท่านยังหายเมา ทำให้ชาวบ้านขนานนามเรียกท่าน “หลวงพ่อเสือ”.....ตลอดอายุท่านสร้างพระเครื่องของขลังวัตถุมงคลไว้หลายรูปแบบล้วนมีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูง เช่น พระปิดตาเนื้อสำริด และเนื้อเมฆพัตร แบบ เกลอเดี่ยวและสามเกลอ เหรียญหล่อรุ่นแรก-รุ่นสอง.....และที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์คือ ตะกรุดไม้รวกถักเชือก ขึ้นหน้าลายพิรอด ลงรักปิดทอง เป็นตะกรุดสร้างชื่อ ฝีมือประณีต ด้วยเชือกป่านลายถักเป็นเอกลักษณ์--

อย่างดอกนี้ ปัจจุบันได้รับความนิยมสูง หายากสุดๆ โดยเฉพาะดอกสภาพงามสมบูรณ์ สวยเยี่ยมเดิมๆ.....มาถึงเรื่องปิดท้ายสไตล์สนามพระของเรา เล่ากันถึงเรื่องในกุฏิพระเกจิฯวัดดัง ซึ่งมีลูกศิษย์มานั่งรอพบทุกวันเพื่อเอาพระเครื่องของขลังมาให้ท่านเป่าเสก พรมน้ำมนต์--

ถ้าวันใกล้หวยออกจะมามากเป็นร้อยคน เพราะเชื่อว่าท่านให้เลขเด็ดแม่นมาหลายงวด.....วันนี้ก็เช่นกัน มากันแน่นกุฏิ แต่ ๑ ในนั้นมีชายร่างท้วมมาแปลก โดยหอบเอากล่องยากล่องใหญ่มานั่งรอหน้าจ๋อยๆ พวกที่มารอขอเลข เห็นเป็นหน้าใหม่ก็ทักว่าหอบอะไรมาให้หลวงพ่อเสกหรือ.....ชายร่างท้วมยิ้มแห้งๆ บอกเป็นยาชุด “เจอ แจก จบ” ที่รัฐบาลทำแจกผู้ตรวจพบติดเชื้อโควิด-๑๙ .....แต่ไม่มั่นใจว่าจะจบโรคได้จริงป่าว จึงอยากเอามาให้หลวงพ่อเสกกำกับ เพื่อเติมเต็มความมั่นใจ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง