พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส ของ “โป๊ยเสี่ย” นายไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์.
ขอต้อนรับเข้าสู่เดือน 9 ที่มาพร้อมกับพายุ ฝนคะนอง มรสุม รุมประเทศไทยทุกภาค ให้ลุ้นว่าน้ำจะท่วมที่ไหนไหม ในส่วน สนามพระวิภาวดี ซึ่งปักหลักอยู่ นสพ.ไทยรัฐ กทม. ถ้า ผู้ว่าฯชัชชาติ ควบคุม “เจ้าแม่คงคา มหานที” ไม่ให้พิโรธได้ ก็ถือเป็นผลงานยอดเยี่ยมชิ้นแรกของตำแหน่ง--ซึ่ง ลุงป้อม ที่มาแทนลุงตู่ พร้อมน้ำหลากน้ำนอง ต้องเป็นปลื้ม ที่พ้นภัยจากน้ำ ไม่ต้องโดนรับน้องใหม่นายกฯ
ใครยังไม่มั่นใจ ก็สวดมนต์ท่องบ่นภาวนา พึ่งหลวงพ่อไปด้วยก็ได้ วันนี้ จึงอัญเชิญหลวงพ่อหลวงปู่มาเต็มสนามฯเหมือนเคย นำขบวนด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม กทม. พิมพ์ยอดนิยมในสกุลบางขุนพรหม ที่มีรูปทรงลักษณะเหมือน พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
ต่างที่เส้นศิลป์ในพิมพ์พระ ฝั่งพระนครจะบางกว่าฝั่งธนฯ เช่น เส้นซุ้มครอบแก้ว เส้นวงพระกร เส้นพระพาหา เส้นฐาน ซึ่งในอดีต สายตรงพระสมเด็จ มือระดับครู ส่องเห็นรายละเอียดที่แตกต่าง และนำมาแยกเป็นพิมพ์ย่อยๆ ได้ถึง ๑๐ พิมพ์
คือ ๑.พิมพ์อกวี แขนโย้ ๒.พิมพ์อกวี แขนดิ่ง ๓.พิมพ์อกวี แขนผสม ๔.พิมพ์แขนหักมุม ๕.พิมพ์เข่านูน ๖.พิมพ์แขนแป้ว (แขนยาวหักศอกต่ำ) ๗.พิมพ์เศียรโต อกผาย ๘.พิมพ์อกกระบอก ๙.พิมพ์แขนวงรี เข่าสั้น ๑๐.พิมพ์แขนวงรี เข่ายาวแบบองค์นี้ของ นายไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ ซึ่งเป็นพระสภาพสมบูรณ์สวยเดิม เป็นแชมป์ องค์ดังมาตั้งแต่ปีมะโว้

...
องค์ที่สอง เป็น พระชัยวัฒน์ พิมพ์คอหนอก เนื้อผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ ขันธโชติ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ๑ ในพระชัยวัฒน์ ที่ หลวงปู่บุญ จัดสร้างครั้ง สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) ผู้เป็นพระสหธรรมิก เสด็จจำวัด แนะนำ พิธีกรรม วิธีการจัดสร้าง พร้อม พระชัยวัฒน์ ร.ศ.๑๑๘ พระชัยวัฒน์ พิมพ์ป้อม ฯลฯ ซึ่งสร้างด้วยเนื้อโลหะผสม เป็นหลัก
ส่วนองค์นี้ของ เสี่ยเพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง เป็น เนื้อผง ว่านยาจินดามณี ที่สร้างพิเศษ จำนวนน้อยเฉพาะบุคคล
เนื้อโลหะ ว่าหายากแล้ว แต่เนื้อผงยา ยิ่งเวรี่ยากกว่า ราคาก็สูงกว่า ยิ่งองค์งามๆ มีหน้ามีตาติดชัด หูตากะพริบเดิมๆแบบนี้ นักนิยมสายตรง คนรู้ลึกรู้จริงบอก เจอเมื่อไร ขอสู้แบบถึงไหนถึงกัน

ถัดไปเป็นพระพิมพ์ สมเด็จปรกโพธิ์ หลังกะระสะติ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม (วัดบ้านแค) จ.ชัยนาท ๑ ใน พระพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ยุคแรก ของ หลวงพ่อกวย
พระมีชื่อเสียง ได้รับความนิยมสูง ศิษย์สายตรงแสวงหากันมาก องค์งามๆ สภาพแกะกล่องเดิมๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยต้อม สำนักจันทร์ บอกมาว่า ราคาอยู่ที่หลักล้านมานานแล้วจ้า

รายการที่สี่ คือ เหรียญพระปิดตา พังพระกาฬ หน้ากากทองคำ พ.ศ.๒๕๓๒ จ.นครศรีธรรม ราช ซึ่งสร้างต่อเนื่อง ตามกระแส จตุคามรามเทพ ศาลหลักเมืองนครศรี ธรรมราช ปี ๒๕๓๐ ตามคำบอกของร่างทรงองค์จตุคามรามเทพ ที่ลงประทับร่าง โกผ่อง-นายอะผ่อง สกุลอมร ขณะทำพิธีออกแบบสร้างผ้ายันต์ปีนักษัตร ณ ศาลหลักเมือง (หลังใหม่) เป็นที่ฮือฮามาก
...
โดยร่างทรง บัญชาให้ พ.ต.อ.สรรเพชร ธรรมาธิกุล จัดสร้าง พระปิดตาพังพระกาฬ ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมาแต่สมัยสร้างอาณาจักรศรีวิชัย โดยมีตำนานที่เชื่อกันมาว่า พระปิดตาพังพระกาฬ หรือ พญาพังพระกาฬ เป็นภาคอวตาร ตามนิมิตของร่างทรง พ.ต.อ.สรรเพชร ได้ถามถึงรูปแบบองค์พระปิดตาพังพระกาฬ ร่างทรงก็บอกว่า แล้วจะมีคนนำมามอบให้เอง
จากนั้นไม่นาน นายกำจร สถิรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในสมัยนั้น ได้เดินทางไปพบญาติที่เมืองนคร พบชาวประมงนำ พระปิดตา มาเร่ขาย จึงได้เช่าไว้ ๒ องค์ ราคา ๕๐๐ บาท
ก่อนเดินทางกลับ ได้แวะเยี่ยม พ.ต.อ.สรรเพชร และมอบ พระปิดตา นั้นไว้เป็นที่ระลึก ๑ องค์ ลักษณะเป็นองค์พระปิดตา นั่งสมาธิเพชร ลอยองค์ ยกฝ่ามือทั้งสองขึ้นปิดหน้า พระเศียรสวมมงกุฎรูปดอกบัวบาน ๒ ชั้น ชั้นบนสุด เป็นดอกบัวตูม ๒ กลีบ มียันต์ก้นหอยตรงสะดือ ข้อมือ ข้อเท้าสวมกำไล
ด้านหลังเป็นรูปปีนักษัตรมะเส็ง (เป็นปีนักษัตรกำเนิดองค์พ่อจตุคามรามเทพ) ศิลปะฝีมือช่างหลวงยุคเก่า เนื้อองค์พระเป็นโลหะเงินยวง
พ.ต.อ.สรรเพชร ก็นึกถึงคำบอกของร่างทรง จึงเชื่อว่านี่เป็น รูปแบบขององค์พระปิดตาพังพระกาฬ จึงนำมาใช้เป็นต้นแบบสร้าง โดยดัดแปลงเอารูปแบบในผ้ายันต์ปีนักษัตร ผสมรวมเป็นองค์พระที่สร้างเป็นเหรียญปั๊ม เนื้อโลหะ ขนาดเท่าเหรียญบาทสมัยนั้น
โดยนำองค์พระไว้ด้านหน้า ด้านข้างซ้ายขวา เป็นอักขระ นะมะพะทะ กับ นะโมพุทธายะ อุณาโลม และ อักขระ ตามที่ร่างทรงกำหนด
ด้านหลัง เป็นตราดวงเมืองใหม่ ของ จ.นครศรีธรรมราช ล้อมด้วยตรา ๑๒ นักษัตร กำกับด้วยองค์พระราหู ๘ ตน กำกับอยู่รอบนอกสุด
และได้ทุนดำเนินการ จาก เจ้าสัวศิริชัย บูลกุล วุฒิสมาชิก จัดสร้าง เหรียญปั๊มเนื้อโลหะ ๓ ชนิด คือ ๑.เนื้อทองคำ ๒๔ องค์ ๒.เนื้อเงิน ๑๒๐ องค์ ๓.เนื้อนวโลหะ ๑๒,๐๐๐ องค์และเนื้อทองแดง เป็น เนื้อลองพิมพ์ มีน้อยสุด ประมาณ ๒๐ เหรียญ ในภาพเป็นเหรียญของ เสี่ยเจน ปิยะทัต
มีตำนานเชื่อกันว่า องค์พระปิดตาพังพระกาฬ เป็นร่างอวตาร องค์จตุคามรามเทพ ที่มีอานุภาพแก้ไขอุปสรรค พังทลายความมืดมนของชีวิต นำบุคคลในห้วงทุกข์ของชีวิตจากมืดสู่สว่าง และอีกตำนาน ว่าเคยเป็นขุนศึกกอบกู้อาณาจักรศรีวิชัย

อีกเหรียญ เป็นเหรียญ รุ่นกองพันทหารลำปาง พ.ศ.๒๕๑๗ เนื้อทองแดงรมดำ หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง เหรียญสร้างชื่อยุคแรก ที่สามเณรนิติรัตน์ และกองพันทหารลำปาง ขออนุญาตจัดสร้าง
มี เนื้อทองคำ ตอกโค้ดหมายเลข จำนวน ๑๓ เหรียญ เนื้อเงินตอกโค้ด ๓๐๐ เหรียญ เนื้อนวโลหะตอกโค้ด ๒๐๐ เหรียญ เนื้อทองแดงตอกโค้ด ๒,๐๐๐ เหรียญ
...
ปัจจุบันได้รับความนิยม เป็นเหรียญรูปเหมือนพระเกจิฯอันดับ ๑ ของเมืองลำปาง เหรียญนี้ ของ อุดม เกียรติพิทักษ์ เป็น เนื้อทองแดงรมดำ ๑ ใน ๒,๐๐๐ เหรียญ สภาพสมบูรณ์สวยแชมป์

อีกสำนัก เป็น เหรียญแจกแม่ครัว เนื้ออัลปาก้า พ.ศ.๒๔๘๓ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
จัดสร้างหลังงานฉลองพระอุโบสถ ต่อจากเหรียญปี พ.ศ.๒๔๘๒ เพื่อมอบผู้หญิง ที่มาช่วยงานบุญฉลองพระอุโบสถ ที่จัดสร้างอย่างรีบด่วน ตามดำริหลวงพ่อ
เหรียญออกแบบเหมือนเหรียญรุ่นปี พ.ศ.๒๔๘๒ ด้วยฝีมือช่างท้องถิ่น ต่างที่สัดส่วนองค์หลวงพ่อขาดความสมจริง และไม่มีรายละเอียดข้อมูลการจัดสร้าง
รูปแบบเป็น เหรียญปั๊มทรงกลม เนื้ออัลปาก้า ขนาดย่อม สร้างหลักร้อยต้นๆ ปัจจุบันได้รับความนิยม เป็นเหรียญราคาหลักหมื่นปลายถึงหลักแสนต้นๆ--เหรียญนี้ ของ เสี่ยสุธีร์ นาคทอง

เหรียญสุดท้ายเป็นเหรียญ ชุดเรียกลาภ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง จ.นนทบุรี เป็นเหรียญหล่อ เนื้อโลหะผสม กับเหรียญปั๊มเนื้อเงิน
ศิลปะเป็นพระ ๓ องค์ องค์พระฉิมพลี ยืนแบกกลดธุดงค์ พระฉิมพลียืนอุ้มบาตรและพระพุทธกวักนั่ง มีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูงด้วยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์
มีบันทึกว่า พระเนื้อเงิน แบบนี้ ท่านจะลงจารอักขระภาวนาปลุกเสกกำกับ ด้านเมตตามหานิยม เจริญลาภผล เมตตาค้าขายในแผ่นโลหะ ก่อนจะนำไปหลอม และเทเป็นองค์พระเลี่ยมติดกันเป็นชุด ๓ องค์ อย่างนี้ ของ เสี่ยเพชร-อิทธิ ที่สร้างไว้น้อย หายากสุดๆ ราคาสูงถึงหลักแสน
สำหรับ หลวงพ่อแฉ่ง ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๒๘ บรรพชาเป็นสามเณร อายุ ๑๒ ปี อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๐ ปี ได้เป็นศิษย์เรียนวิชาอาคมพุทธเวทย์ ไสยเวทย์ วิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน หลวงปู่ฉาย วัดพนัญเชิง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และพระเกจิอาจารย์สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
จึงแก่กล้าพุทธาคม มีชื่อเสียงเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีสมาธิจิตเข้มแข็งแก่กล้า สร้างพระเครื่อง ของขลังมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ได้รับความนิยมสูง เมื่อมรณภาพไปเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๐ วัตถุมงคลของท่านจึงติดลมบนมาจนถึงบัดนี้บัดหน้า

สุดท้าย คือ พระปรกใบมะขาม รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๗ เนื้อเงิน หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง จัดสร้างเป็นรุ่นแรก เพื่อมอบเป็นที่ระลึกผู้ร่วมทำบุญทอดผ้าป่า วัดอินทรประชาราษฎร์ ฉลองศาลเจ้าแม่สุชาดา มีเพียง ๑๐๐ องค์ ในภาพ ของ เสี่ยโหน่ง กาดเมฆ เป็น ๑ใน ๑๐๐ ที่อยู่ในสภาพไฉไล สมบูรณ์สวยเดิม แบบแกะกล่อง
ก่อนลากันด้วยเรื่องปิดท้าย ขอขอบคุณแฟนคลับที่ทักทายทักท้วงมา มีทั้งชอบใจและข้องใจ กับพระบางองค์ ว่า “ใช่ป่าว”
ก็ต้องฝากต่อถึงเจ้าของพระ ให้ชัวร์ ก่อนโชว์ เพราะสนามพระฯ ให้เกียรติ และให้โอกาสทุกท่านมาตลอด ทั้งที่ส่วนใหญ่ไม่เคยเจอกันตัวเป็นๆ แต่พบกันผ่านทางพระเครื่องของขลัง ที่ท่านอยากเผยแพร่--ซึ่งไม่เคยมีการเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆเลย ทุกคนย่อมรู้ดี ที่นี่ลงฟรี แต่อย่ามีมั่ว
อย่าลืมว่า ท่านผู้ชมแฟนคลับหน้าพระมีหลายๆ แสนคน เป็นคนคอยตรวจเช็ก ถ้าใครเอาอะไรคาบลูกคาบดอกมาลงด้วยเจตนาและบางทีเรามีพลาด ไม่ได้ตรวจสอบ เพราะเชื่อใจกัน แต่คนพัง คือ เจ้าของพระ ไม่ใช่ สนามพระ เพราะถ้าลงอะไรผิดไป เราแก้ไข ขออภัยได้ แต่คนที่เสียชื่อ แก้ยาก--ดังนั้น จงอย่าทำลายความเชื่อถือของตัวเอง
ลากันด้วย เรื่อง นายตุลา พ่อค้าอาหารทะเล ซึ่งตอนหยุดยาว ข้ามไปเที่ยวเมืองลาว แล้วมีเรื่องตื่นเต้นกลับมาเล่าพรรคพวกว่า มีปัญหาตอนจะกลับ เพราะทำกระเป๋าสะพายมีทั้งกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือหาย
ติดต่อใครไม่ได้ เงินก็ไม่มี เกือบไม่ได้กลับ เพราะไม่มีค่ารถ ดีที่มี เหรียญพระหลวงปู่ดู่คล้องคออยู่ จึงอาราธนาให้ท่านช่วย แล้วท่านก็ช่วยให้ได้พบคนไทยมาช่วยทันเวลา
เพื่อนๆร้องโห หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์มากเนอะ เลยมีคนให้ค่ารถกลับ แต่ นายตุลา ส่ายหน้า เล่าต่อ ป่าว เขาไม่ได้ให้เงินค่ารถ--แต่เขาให้เงิน ขอซื้อเหรียญหลวงพ่อไป เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง