หากมีใครสักคน สนใจถามชื่อพระ “นางพญา” ได้มาจากไหน? คำตอบจากผู้รู้ พระพิมพ์ดินเผารูปสามเหลี่ยม ขนาดย่อมพอเหมาะพอเจาะ สวมปลายสายสร้อยคอผู้หญิง พบจากบริเวณลานวัดนางพญา...ริมแม่น้ำน่าน กลางเมืองพิษณุโลก

หันหน้าหาแม่น้ำ ด้านขวาติดวัดพระพุทธชินราช ด้านซ้ายติดวัดราชบูรณะ

ผู้รู้ถกแถลงกันจนลงตัวว่า วัดราชบูรณะ สมเด็จพระมหาธรรมราชา (พระราชบิดาสมเด็จพระนเรศวร) เป็นผู้สร้าง เมื่อเป็นเช่นนั้น วัดนางพญาที่อยู่เบียดชิดกัน จะเป็นใครผู้ใดไปไม่ได้ นอกจากพระมเหสี คือพระวิสุทธิกษัตรี (พระราชธิดา สมเด็จพระศรีสุริโยทัย)

การพบพระพิมพ์นี้ มีผู้บันทึกว่า พ.ศ.2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จทอดพระเนตร ติดตามการหล่อพระพุทธชินราชจำลองที่วัดพระพุทธชินราช ก่อนหน้าการสร้างพลับพลาถวายให้ทรงประทับ...ชาวบ้านขุดดินพบพระพิมพ์ดินเผาสามเหลี่ยมจมอยู่ใต้ดินมากมาย

ชาวบ้านนำใส่พานทูลเกล้าฯถวาย ร.5 จำนวนมาก ชื่อพระนางพญาจึงถูกเรียกตามชื่อวัด

นักเลงพระรุ่นผู้เฒ่า เล่าขานบอกลูกหลาน...พระสมเด็จฯนั้น มีรังสี (คุณวิเศษ) 5 พระนางพญามีรังสี 3 คือด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม ด้านลาภผล และอีกด้านคงกระพันชาตรี

พระนางพญาที่เล่นหากันในวงการ เปลี่ยนมือซื้อขายกันราคาตั้งแต่หลักแสนแก่ถึงหลักหลายๆล้าน มี 6 พิมพ์มาตรฐาน พิมพ์ใหญ่เข่าโค้ง พิมพ์ใหญ่เข่าตรง พิมพ์ใหญ่เข่าตรงมือตกเข่า พิมพ์อกนูนใหญ่ พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์เทวดา และพิมพ์อกนูนเล็ก

พิมพ์เทวดา...เดิมทีเรียกตามลักษณะเด่นของพิมพ์ เนื่องจากมีพิมพ์อกนูนเล็ก (อกตั้ง) จึงเรียกพิมพ์คู่กันว่า พิมพ์อกแฟบ แต่ชื่อนี้ดูจะไม่ตรงใจ...เมื่อมีกรอบชฎาพิมพ์นี้ติดพิมพ์ชัด...ชื่อพิมพ์เทวดาจึงถูกเรียกแทน

นางพญาพิมพ์เทวดา...เส้นสายลายพิมพ์คล้ายพิมพ์สังฆาฏิ คนเป็นพระแยกพิมพ์ได้ง่าย ดูที่เส้นเล็กที่ซ้อนพระเพลา...พิมพ์สังฆาฏิ บางตำแหน่งเส้นโค้งอ่อน...ถ้าเป็นพิมพ์เทวดา เส้นนี้จะเป็นเส้นตรง

...

หลักการดูพระเมื่อพิมพ์ใช่ เนื้อก็ใช่ ก็จริง แต่ต้องไม่ลืมตำหนิเส้นสายลายพิมพ์ คนทำพระปลอมทำตามทัน...ดูแต่ตำหนิพิมพ์อย่างเดียว...เอาตัวไม่รอด ต้องดูความเก่าของเนื้อดิน...ซึ่งมีอายุอยู่ราวสี่ร้อยปีประกอบ

“ตรียัมปวาย” แบ่งเนื้อพระนางพญาไว้มากมาย เนื้อว่าน เนื้อดินนุ่ม เนื้อดินแกร่ง เนื้ออิฐ เนื้อกระเบื้อง เนื้อยุ่ย เนื้อเกรียม เนื้อดำ เนื้อเขียว ลักษณะสีเนื้อที่แตกต่าง คุณเชียร ธีรศานต์ ชี้ว่าเกิดจากความร้อนของไฟที่เผา

ยกเว้นเนื้อเกรียม เกิดจากสภาพแวดล้อมต่อมานางพญาชุดนี้ ร.5 เหลือจากแจกจ่ายข้าราชบริพาร โปรดให้ใส่บาตรบรรจุไว้ในเจดีย์วัดอินทรวิหาร และถูกขโมยลักขุดเจดีย์ ราวปี 2492

ดูภาพพระนางพญา พิมพ์เทวดา องค์ในคอลัมน์ ภาพที่ถ่ายสีออกคล้ำ หากดูองค์จริง เป็นเนื้อดินนุ่ม สีเนื้อเหลืองอมแดง เนื้อถูกจับต้องบ้าง เงาสว่างกระจ่างสดใส ให้ความซึ้งตาสูง

ดูจากแว่นขยายสิบเท่า มีเมล็ดแร่ขนาดเล็กประปราย มีทั้งเมล็ดแร่ที่ทะลุผิวเนื้อ และเมล็ดแร่ที่จมในผิวเนื้อเห็นเป็นปุ่มนูนขึ้นมา นี่คือข้อพิจารณาสำคัญประการหนึ่ง

ด้านหลัง ปรากฏลายมือให้เห็น ขอบสามด้านตัดเรียบร้อย...ไม่ปรากฏจะงอยรอยมือจับ มุมใดมุมหนึ่ง

“ครูตรียัมปวาย” ให้ข้อสังเกต พิมพ์เทวดาน่าจะเป็นผู้หญิงกดแม่พิมพ์ เพราะพระส่วนใหญ่ขนาดบางๆเท่าๆกัน กรอบตัดเรียบร้อยกว่าทุกพิมพ์

โดยสรุป นี่คือพระนางพญา สภาพสมบูรณ์งดงาม ทั้งเนื้อทั้งพิมพ์ จัดอยู่ในแถวหน้าพิมพ์ทรงเทวดาด้วยกันองค์หนึ่งทีเดียว.

พลายชุมพล