นามพระวิภาวดีอาทิตย์แรกของเดือนสอง มีธรรมะคำสอนมาฝาก จาก สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ปราชญ์วงการพุทธศาสนา ที่ท่านสอนว่า “ความเพียรของมนุษย์ เทวดาก็กีดกันไม่ได้ หมายถึง พุทธศาสนาไม่ยอมแพ้แก่เรื่องโชคชะตา ขอให้มีความเพียรพยายามใช้สติปัญญา กำลังความสามารถ แล้วจะสามารถเอาชนะ แม้แต่โชคชะตาได้”--ใครที่ยอมรับง่ายๆ ว่าอะไรจะเกิดก็เกิด และไม่ทำอะไร ยอมตกเหวลงห้วย เพราะคิดว่าโชคชะตากำหนด ต้องคิดใหม่

ไปดูพระเครื่องวันนี้ต่อ รายการแรกคือ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์นิยม ๗ ชั้น วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย อ่างทอง พระพิมพ์นิยม หมายเลข ๑ ในสกุลพระสมเด็จเกศไชโย...วงการกำหนดว่ากรุนี้มี พิมพ์นิยมมาตรฐาน ๓ พิมพ์คือ ๑. พิมพ์นิยมฐาน ๗ ชั้น ๒. พิมพ์นิยมฐาน ๖ ชั้นอกตัน ๓. พิมพ์นิยมฐาน ๖ ชั้นอกตลอด แต่จากบันทึกนักนิยมพระในพื้นถิ่น ที่มีมาแต่ครั้งกรุงแตก ราว พ.ศ.๒๔๓๐ ระบุว่า มีการค้นพบพระครั้งแรก ตอนองค์พระใหญ่ ที่สมเด็จฯ โตสร้างไว้ พังทลายลงมา (ไม่ระบุปี พ.ศ.) จึงพบ พระพิมพ์เนื้อผง ทรงสี่เหลี่ยม มีกรอบกระจก กระจายลงมารอบองค์พระ แต่สมัยนั้นไม่มีใครสนใจ--พอบูรณะองค์พระเสร็จ จึงนำบรรจุกลับดังเดิม

พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์นิยม 7 ชั้น วัดไชโยวรวิหาร ของ จตุโชค สัยยะนิฐี.
พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์นิยม 7 ชั้น วัดไชโยวรวิหาร ของ จตุโชค สัยยะนิฐี.

...

ผ่านมาถึงราวปี พ.ศ.๒๔๓๐ องค์พระได้รับแรงกระทบกระเทือนจากการบูรณะวัด ที่มี เจ้าพระยารัตนบดินทร์ (บุญรอด) เป็นแม่งาน พังทลายลงมาอีก พระพิมพ์ที่บรรจุไว้คราวนั้น จึงกระจัดกระจายออกมาอีก แต่ครั้งนี้มีชาวบ้านนำพระกลับบ้านไปมาก...เมื่อ เจ้าพระยารัตนบดินทร์ สร้าง องค์พระมหาพุทธพิมพ์ ขึ้นแทนองค์พระที่พังทลาย ก็ประ กาศให้ผู้นำพระออกจากวัดไปนำกลับมาคืนทั้งหมด มิฉะนั้นจะมีความผิดเป็นอาญาแผ่นดิน ชาวบ้านจึงนำพระมาคืนทั้งสิ้น เจ้าพระยารัตนบดินทร์ จึงมอบพระไปคนละองค์สององค์ ทำให้พบว่า ชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำใกล้วัด มักมี พระพิมพ์วัดเกศ อยู่องค์สององค์..ตอนนั้น พบพิมพ์พระ ๑๘ พิมพ์ คือ ๑.พิมพ์ใหญ่นิยม ๗ ชั้น ๒.พิมพ์ ๗ ชั้นหูประบ่า ๓.พิมพ์ ๗ ชั้นไหล่ตรง ๔.พิมพ์ ๗ ชั้น นักเลงโต (แขนติ่ง) ๕.พิมพ์ ๗ ชั้นแข้งหมอน ๖.พิมพ์ ๗ ชั้นอกวี ๗.พิมพ์ ๗ ชั้น แขนกลม ๘.พิมพ์ ๗ ชั้นอกตัน ๙.พิมพ์ ๗ ชั้น พิมพ์ลํ่า ๑๐.พิมพ์ ๗ ชั้นปรกโพธิ์

ส่วนพระอีก ๘ พิมพ์ เป็นพระพิมพ์ ๖ ชั้นคือ ๑.พิมพ์ ๖ ชั้นอกตัน ๒.พิมพ์ ๖ ชั้นอกตลอด ๓.พิมพ์ ๖ ชั้นแบบพิมพ์นิยม ๗ ชั้น ๔.พิมพ์ ๖ ชั้นไหล่ตรง ๕.พิมพ์ ๖ ชั้นอกตลอด (ลำ) ๖.พิมพ์ ๖ ชั้นเข่ากว้าง ๗.พิมพ์ ๖ ชั้นต้อ ๘.พิมพ์ ๕ ชั้น..องค์นี้ ของ เสี่ยจตุโชค สัยยะนิฐี เป็น พระพิมพ์นิยม ๗ ชั้น เบอร์ต้น ที่ปัจจุบัน ราคาอยู่ที่ ๒,๐๐๐,๐๐๐

องค์ที่สองเป็น พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้ากลาง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี พระพิมพ์เนื้อดินผสมผงเกสรดอกไม้ พุทธศิลป์สมัยอู่ทอง ยอดนิยมอันดับ ๑ ของกรุ จึงได้รับการคัดเลือกเป็น ๑ ในพระชุดเบญจภาคีของแผ่นดิน

พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้ากลาง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ของ โต้ง บางแค.
พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้ากลาง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ของ โต้ง บางแค.

มีพิมพ์พระ ๓ แบบคือ ๑.พิมพ์หน้าแก่ ๒.พิมพ์หน้ากลาง ๓.พิมพ์หน้าหนุ่ม--องค์นี้เป็น พิมพ์หน้ากลาง ที่มีฟอร์มทรงลงตัว เนื้อดินละเอียดแน่น ผิวเนื้อมีคราบฝ้าราดำจับแน่น บอกอายุความเก่าถึงยุคอย่างเป็นธรรมชาติ รอยตัดด้านข้างถูกต้องตามตำรา...รอยกดนิ้วมือประทับหลัง บอกชัดความเป็นพระแท้อย่างชัดเจนแบบนี้ เป็นพระแท้ดูง่าย ทั้งน่าลงทุน และใช้บูชา ก็ได้แน่ เพราะปัจจุบันพระเครื่องระดับเบญจภาคี มีผู้ต้องการมาก โดยเฉพาะ พระพิมพ์รองสภาพพองาม แท้ดูง่าย แบบองค์นี้ ของ เสี่ยโต้ง บางแค ที่ราคายังเบา

องค์ต่อไป เป็น พระพิมพ์ยืนวันทาเสมา สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) เขตบางกอกใหญ่ กทม. พระพิมพ์พิเศษ ด้วยรูปทรงที่แตกต่าง เป็นพระพิมพ์ยืน ๑ เดียวในสกุลพระวัดพลับ ได้รับความนิยมอยู่หัวแถว สภาพองค์พระสมบูรณ์งามพร้อม ทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระและเนื้อมวลสารแบบองค์นี้ ของ เสี่ยโต้ง บางแค ปัจจุบันราคาสูงถึงหลักแสนกลางแร้วจ้า

พระพิมพ์ยืนวันทาเสมา สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดพลับ ของ โต้ง บางแค.
พระพิมพ์ยืนวันทาเสมา สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดพลับ ของ โต้ง บางแค.

...

ตามมาด้วย พระพิมพ์สมเด็จ ๘ ชั้นแขนหักศอก หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร เขตพระนคร กทม. ที่ได้รับความนิยม ใช้แทน พระพิมพ์สกุล ๓ สมเด็จฯ วัดระฆังฯ บางขุนพรหม เกศไชโย เพราะผู้สร้างเป็นศิษย์สายตรง ใกล้ชิดท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯโต ซึ่งช่วงปลายท่านไปพำนักที่วัดอินทร์ ควบคุมการสร้าง องค์หลวงพ่อโต..ยุคนั้นท่านเป็นพระเถระที่มีชื่อเสียง ด้านวิชาพุทธาคม และสร้างพระพิมพ์ไว้มากมาย ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะ พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ รูปทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยก้อง พระสมเด็จ เป็นพิมพ์นิยมฐาน ๘ ชั้น ราคาเริ่มหลักแสนต้นๆ ไปถึงไหนก็ตามสภาพ

พระพิมพ์สมเด็จ 8 ชั้น แขนหักศอก (แซยิด) หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ของ ก้อง พระสมเด็จ.
พระพิมพ์สมเด็จ 8 ชั้น แขนหักศอก (แซยิด) หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ของ ก้อง พระสมเด็จ.

...

อีกสำนักเป็น เหรียญรุ่นแรก (พอเงิน) หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม เป็น เหรียญปั๊มหูในตัว เนื้อทองแดงรมดำ รูปทรงใบเสมา.....n ด้านหน้า เป็นรูปจำลองครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่ พาดสังฆาฏิ ขอบเหรียญมีลวดลายกนก ด้านบนมีแถบป้ายบอกชื่อ หลวงพ่อเงิน (คำว่าพ่อ ไม่มีไม้เอก อ่านได้ว่า หลวงพ่อเงิน) ลักษณะเป็นตัวตอก ที่ทำภายหลัง ไม่ได้มีในบล็อกแม่พิมพ์ ด้านหลังกลางเหรียญเป็น ยันต์ครู ของท่าน

เหรียญรุ่นแรก (พอเงิน) เนื้อทองแดงรมดำหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ของ เทพ มณเฑียร.
เหรียญรุ่นแรก (พอเงิน) เนื้อทองแดงรมดำหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ของ เทพ มณเฑียร.

ตอนช่างนำแบบเหรียญ ให้หลวงพ่อดู ท่านกลับบอกว่า ดี เพราะคำว่า พอ สื่อความหมาย ว่า “รู้จักพอ ก่อสุขทุกสถาน” จึงให้สร้างออกมาและออกในงานทำบุญ อายุครบ ๕ รอบ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๓ จำนวน ๑,๐๐๐ เหรียญ มีเนื้อทองแดงรมดำ ชนิดเดียว..ปัจจุบันเป็นเหรียญพระเกจิฯยอดนิยม ราคาหลักล้าน องค์นี้ ของ เสี่ยเทพ มณเฑียร เป็นอันแชมป์ ที่นานๆจะได้เห็น

...

ต่อไปคือ เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ทรงครุฑ วัดคลองขอม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ ชัยนาท เป็นพระที่ หลวงพ่ออุ่ม เจ้าอาวาสวัดคลองขอม อ.สามชุก จ.สุพรรณ บุรี สร้างไว้ โดยใช้ช่างชุดเดียวกับที่ออกแบบสร้างเหรียญหล่อพระพุทธ ตามตำรับวิชาของหลวงปู่ศุข ทุกขั้นตอน

เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ทรงครุฑ วัดคลองขอม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของ พิทยุตม์ สุนทรกาลันต์.
เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ทรงครุฑ วัดคลองขอม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของ พิทยุตม์ สุนทรกาลันต์.

โดยนำเนื้อโลหะ ที่เหลือจาก พระพุทธรูปเชียงแสนขนาดใหญ่ ที่ หลวงพ่ออุ่ม สร้างประดิษฐานไว้ที่วัดคลองขอม มาจัดสร้าง เป็น พิมพ์พระสี่เหลี่ยม หลายแบบ อาทิ พิมพ์ทรงครุฑ พิมพ์ทรงบัวเล็บช้างข้างอุ ฯลฯ..เสร็จแล้ว นำมาให้ หลวงปู่ศุข พระสหธรรมิก ปลุกเสกให้อย่างครบถ้วนเข้มขลัง แล้วนำออกให้ทำบุญบูชา นำรายได้สมทบทุนสร้างพระอุโบสถวัดคลองขอม ได้รับความนิยมมาจนถึงวันนี้ ว่าใช้บูชาแทน เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ต่างๆของ หลวงปู่ศุข ที่มีราคาหลักแสนหลักล้านได้เลย-- แต่ พระวัดคลองขอม ยังอยู่ที่หลักหมื่นปลายๆถึงหลักแสนต้นๆ สำหรับองค์งามสภาพเดิมๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยพิทยุตม์ สุนทรกาลันต์

ตามมาด้วย พระปิดตา กรมหลวงชุมพรฯ เนื้อตะกั่วหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท สุดยอดพระปิดตาขนาดเล็กจิ๋ว แต่แจ๋ว ที่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่...สร้างขึ้นโดย พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรสใน ร.๕ ใน เจ้าจอม มารดาโหมด...พระองค์ทรงมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาและวิชาพุทธาคม จึงมุ่งมั่นในการเรียนวิชาพุทธาคม พุทธเวทย์-ไสยเวทย์ แพทย์สมุนไพรอย่างจริงจัง โดยไปฝากตัวเป็นศิษย์ ของสุดยอดพระเกจิหลายสำนักในยุคนั้น หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก หลวงปู่
ยิ้ม วัดหนองบัว และพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง มีวิชาอาคมแก่กล้าอีกมาก คือใครบอกมีพระอาจารย์ดีที่ไหน พระองค์จะไปพิสูจน์และขอเป็นศิษย์

ครั้งท่านเสด็จไปถึงวัดปากคลองมะขามเฒ่า และประจักษ์ในอิทธิปาฏิหาริย์ ในวิชาพุทธาคมของหลวงปู่ศุข ที่เสกหัวปลีเป็นกระต่าย เสกใบมะขามเป็นตัวต่อ เสกทหารเป็นจระเข้ และจุดเทียนระเบิดแม่น้ำ ลงไปบริกรรมจารอักขระปลุกเสกตะกรุด ๓ กษัตริย์ มอบให้ท่านไว้ประจำพระองค์....ด้วยความเคารพศรัทธาในพระอาจารย์ทุกรูป พระองค์ได้จัดพิธีบูชาครู ที่วังนางเลิ้งทุกปี โดยในปี พ.ศ.๒๔๖๔ ท่านได้สร้าง พระปิดตา ขึ้น ๒ แบบคือ พระปิดตา ทรงสามเหลี่ยม ตัดมุม เนื้อผงดำ มอบเจ้านายผู้มีบรรดาศักดิ์ชั้นสูง กับ พระปิดตา ห้าเหลี่ยมเนื้อชิน มอบข้าราชบริพาร--ทั้งสองพิมพ์ เรียกว่า “พระปิดตากรมหลวงชุมพร” โดย หลวงปู่ศุข ปลุกเสก และเป็นประธานมอบพระด้วยมือท่านเอง พร้อมนำ พระปิดตาสามเหลี่ยม เนื้อผงคลุกรัก (สีน้ำตาล) มามอบ แม่ครัวที่มาช่วยงาน (แจกแม่ครัว)

พระปิดตากรมหลวงชุมพรฯ เนื้อตะกั่วหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของ ศูนย์พระเครื่องธนบุรี.
พระปิดตากรมหลวงชุมพรฯ เนื้อตะกั่วหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของ ศูนย์พระเครื่องธนบุรี.

องค์นี้ ของ ศูนย์พระเครื่องธนบุรี เป็น พระปิดตาห้าเหลี่ยม เนื้อชินตะกั่ว สภาพสมบูรณ์สวยเดิมๆ มีลายมือจารอักขระพิเศษสุดๆเต็ม ทั้งด้านหน้าด้านหลัง ที่พบน้อยองค์.....สุดท้าย เป็น เหรียญเต่ารุ่นปลดหนี้ พ.ศ.๒๕๓๖ เนื้อทองคำ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง อ.กำแพงแสน นครปฐม....ท่านเป็นพระเกจิฯ ผู้ทรงอภิญญามีวิชาอาคมแก่กล้า ประวัติท่านเป็นลูกชาวนา ในถิ่นกันดารเมืองราชบุรี เมื่อวัยหนุ่ม บ้านถูกโจรปล้น เอาวัวควายไปโดยพ่อแม่ไม่มีทางสู้ ทำให้ท่านคับแค้นใจ จึงชวนเพื่อนเข้าป่า ไปแดนกะเหรี่ยง เพื่อเรียนวิชาอาคมมาแก้แค้นโจร ซึ่งได้วิชาจากหัวหน้ากะเหรี่ยง ทั้งวิชายาสั่ง ยาพิษ ยางน่อง เสือสมิง กลับมา.....n พออายุ ๒๗ ท่านเกิดเบื่อทางโลก จึงลาเมียและลูกไปบวช แล้วออกธุดงค์ ไปฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาขึ้นกรรมฐาน กับ หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ แล้วธุดงค์ลงภาคใต้ มุ่งไปเมืองนครศรีธรรมราช ไป เป็นศิษย์ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน สำเร็จแล้ว กลับมาพัฒนาวัดบ้านเกิดจนมีความเจริญมั่นคง แล้วไปจำพรรษา ที่ วัดไร่แตงทอง

เหรียญเต่า รุ่นปลดหนี้ พ.ศ.2536 เนื้อทองคำ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง ของ วิเชียร อินทะพันธ์.
เหรียญเต่า รุ่นปลดหนี้ พ.ศ.2536 เนื้อทองคำ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง ของ วิเชียร อินทะพันธ์.

โดย สร้างวัตถุมงคล พญาเต่าเรือน รูปแบบต่างๆ ให้สาธุชนทำบุญ นำรายได้พัฒนาวัดมีความมั่นคง และสร้างชื่อเสียง ว่าเป็นพระเกจิฯ เจ้าตำรับวิชาพญาเต่าเรือน เพราะทั้งวัตถุมงคลและเหรียญรูปเต่า มีอานุภาพทั้งคุ้มครองป้องกันภัย เมตตาค้าขายอย่างสูง

ปัจจุบัน หลายรุ่นมีราคาสูงกว่าเหรียญพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยวิเชียร อินทะพันธ์ เป็นเหรียญรุ่น ปลดหนี้ เนื้อทองคำ สร้างออก ปี พ.ศ.๒๕๓๖ มีจำนวนน้อยหายากสุดๆ..มาถึงเรื่องปิดท้าย ที่เกิดขึ้น ในวันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันรวมญาติครอบครัว เสี่ยปอ พ่อค้าขายส่งผลไม้ ก็มีญาติมิตรไปรวมตัวไหว้เจ้า กินเลี้ยง ราว ๒๐ คน

เสี่ยปอ นั่งติดกับ เจ๊ประไพ พี่เมีย ซึ่งขายของในตลาด ก็ได้ฟัง เจ๊ไพ กินไปบ่นไป ถึงราคาพืชผักผลไม้หมูเป็ดไก่ ที่แพงขึ้นทุกวัน หมูก็แพง จะหันไปกินไก่ ไก่ก็แพงอีก ผู้ร่วมโต๊ะก็พยักหน้า เห็นจริงว่า ค่าครองชีพขึ้นสูงแบบนี้ ต่อไปจะอยู่กันยังไง แล้วก็ชวนกันบ่น

ยกเว้น เสี่ยปอ ที่ฟังแล้วก็แสดงความคิดว่า “ก็ต้องปรับตัวตามสภาพ” ถ้าของแพง ก็ต้องหารายได้เพิ่ม ผมเองก็ต้องทำอาชีพเสริม และถ้าไก่แพง ก็ยิ่งดี...ผู้ร่วมโต๊ะก็ตาโตว่า เสี่ยปอ ทำอะไรถึงไม่เดือดร้อน ที่ไก่แพง เสี่ยปอ จึงเฉลยคนละเรื่องเดียวกันว่า อาชีพเสริมคือซื้อขายพระเครื่อง และก่อนนี้ซื้อ พระพิมพ์ไก่ ของ หลวงพ่อปาน เก็บไว้เพียบ จึงอยากให้ไก่แพงขึ้น จะได้มีกำไรเยอะๆ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง