พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย วัดใหม่อมตรส ของ “โป๊ยเสี่ย” ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์.
วันนี้สนามพระวิภาวดีได้รับความสนใจเป็นพิเศษกว่าพิเศษ เพราะพอตรงกับวันหวยออกทีไร แฟนคลับจะต้องมาเปิดหาว่า มีเลขอะไร
ในหน้าพระบ้าง เพราะหลายคนเคยเอาไปเสี่ยงและรวยมาแร้ว--ข้าพเจ้าเอง ยังไม่รู้เลยว่า เอาเลขอะไรไปจากตรงไหน
เอ้า ลองดูอีกงวด ว่าใครจะรวยจะเจ๊ง วันนี้ เริ่มกันที่ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย วัดใหม่อมตรส กรุงเทพฯ ของ “โป๊ยเสี่ย” นายไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ ครั้งนี้ พาข้ามฟากมาฝั่งบางขุนพรหม
พิมพ์นี้ เป็นพิมพ์นิยมแถวหน้าของกรุ ที่นักนิยมพระถือเคล็ดคิดบวก กับชื่อพิมพ์ ที่ฟังดูดีมีมงคล อยู่ 3 พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เส้นด้าย และพิมพ์เจดีย์ โดยเอามาเรียกย่อ ว่า ใหญ่ (ด้าย) ได้ ดี
...
ตามมาด้วย พระพิมพ์เจดีย์ ข้างดอกไม้กรุเจดีย์เล็ก วัดใหม่อมตรส กรุงเทพฯ ของ เสี่ยแม็ก ช้างเผือก
ตอนอดีตเจ้าอาวาส ปรับปรุงพื้นที่ทั่ววัด ก็พบพระบรรจุอยู่ในองค์พระเจดีย์เล็ก หน้าพระอุโบสถ ซึ่งบรรจุอัฐิของ ตระกูลธนโกเศศ
เป็น พระพิมพ์เนื้อผง ผสมปูนเปลือกหอย มีคราบฝ้า รากรุ เหมือนพระสมเด็จกรุเจดีย์ใหญ่ พิมพ์พระแยกเป็น 1.พิมพ์สามเหลี่ยม หน้าหมอน 2.พิมพ์ยืน ปางประทานพร 3.พิมพ์เจดีย์ แหวกม่าน 4. พิมพ์เจดีย์ ข้างดอกไม้ 5.พิมพ์ไสยาสน์ 6. พิมพ์ฐานคู่
องค์นี้เป็น พระพิมพ์เจดีย์ ข้างดอกไม้ สภาพสมบูรณ์ สวยเดิมๆ ที่มีผู้นิยมใช้บูชา แทน พระสมเด็จบางขุนพรหม กันมากเพราะเชื่อว่า สร้างคราวเดียวกัน และนอกจากมีพุทธคุณด้านคุ้มครองป้องกันภัย บันดาลโชคลาภ ยังเชื่อกันว่าเป็นพิมพ์ที่มีอานุภาพ ด้านเมตตามหาเสน่ห์ อย่างแรงอีกด้วย
ต่อด้วย พระเลี่ยง กรุวัดมหาวัน ลำพูน พระหลักยอดนิยมเมืองเหนือ ยี่ห้อนี้ คนเก่าแก่บอกมีชื่อเรียกเพี้ยนมาจากภาษาเหนือว่า “พระเหลี้ยม” ที่หมายถึง “แหลม” ตามรูปทรงองค์พระ ทรงสามเหลี่ยมยอดแหลม
ด้านหน้าเป็นองค์พระประทับนั่ง ปางสะดุ้งมารเหนือฐานบัวลูกแก้ว ในซุ้มศิลปะเมืองละโว้ มี เดียรถีย์(ยักษ์)นั่งอยู่ข้างองค์เหนือพระหนุซ้าย-ขวา ใต้ฐานมีเศียรช้างรองรับ รอบองค์มีเม็ดไข่ปลารายล้อมรอบนอกอีกชั้น บอกถึง พุทธศิลป์หริภุญไชย
พบในกรุพระเมืองลำพูนหลายแห่ง มี 2 พิมพ์หลัก คือ พิมพ์บัวเม็ด กับ พิมพ์บัวเหลี่ยม ที่มีบันทึกเป็นหลักฐาน คือ กรุวัดประตูลี้ พบทั้งสองพิมพ์ โดย เฉพาะ พิมพ์บัวเม็ด จะพบเฉพาะที่กรุวัดประตูลี้แห่งเดียว เนื้อพระหยาบๆ มีเม็ดแร่ปนเนื้อพระ ส่วนใหญ่เป็น สีขาว สีพิกุล และ สีเขียว
ที่พบจาก กรุวัดมหาวัน จะเป็นพิมพ์บัวเหลี่ยม ที่ฐานจะกว้างกว่าของวัดประตูลี้ และไม่มีเส้นขวางใต้รักแร้ องค์พระใหญ่ล่ำ หลังหนา แต่พบน้อย ราคาค่าสูงระดับเดียวกับกรุวัดประตูลี้
อีกที่คือ กรุวัดดอนแก้ว พบเฉพาะพิมพ์บัวเหลี่ยม เหมือนวัดประตูลี้ แต่เนื้อพระจะละเอียดกว่ากรุวัดประตูลี้ แบบเดียวกับเนื้อพระเปิม และพระบาง และมีจุดตำหนิในพิมพ์ คือ เส้นขีดขวางใต้ซอกรักแร้ขวา
สุดท้ายพบที่ พระกรุวัดดอยติ เป็นพระแม่พิมพ์เดียวกับกรุวัดดอนแก้ว คือเป็นพิมพ์บัวเหลี่ยมมีเส้นขวางใต้รักแร้ ต่างกันที่เนื้อ จะดูหยาบกว่า และการปาดหลังจะต่างกัน องค์นี้ ของ เสี่ยตะวัน พระสกุลลำพูน เป็นพระกรุวัดมหาวัน สภาพสมบูรณ์ เนื้อมีรอยสัมผัสใช้เบาบาง ยังสวยแบบเดิมๆ และใช้ดีทางช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยพิบัติ เหมือนพระรอด
...
องค์ต่อไป คือ พระพิมพ์สมาธิเพชรซุ้มเว้า เนื้อผงยาวาสนาจินดา มณี พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี นครปฐม พระพิมพ์นิยม เนื้อนิยมแถวหน้า ในสกุลพระหลวงปู่บุญ
องค์นี้ เสี่ยเพชร–อิทธิ ชวลิตธำรง อยาก หาพระดีเด่น องค์ ดัง เป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง จึงบุกหา จนได้พระสภาพสมบูรณ์ งดงาม ระดับแชมป์องค์จริง ที่ยังหาองค์เทียบเคียงไม่เห็นแม้เงา
ตามมาด้วย พระพุทธรูปพระพุทธชินราช อินโดจีน พ.ศ. 2485 วัดสุทัศน์ กทม. ที่พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย โดย หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์และคณะกรรมการ จัดสร้างไว้
ประกอบพิธีเททอง ที่วัด พระศรีมหาธาตุ พิษณุโลก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2485 เป็น พระพุทธรูปบูชา พระพุทธชินราช ส่งมอบเป็นพระบูชาประจำจังหวัดทั่วประเทศ
...
ส่วนประชาชน ต้องสั่งจอง กับเจ้าหน้าที่พระคลังในพระบรม มหาราชวัง และส่งเงิน 150 บาท เพื่อสร้าง รูปจำลองลอยองค์ พระพุทธชินราชเนื้อโลหะผสม องค์เล็กขนาดคล้องคอ ซึ่ง ระยะแรก ใต้ฐาน หล่อเป็นรูปอกเลา กับตราธรรม จักรในตัว ต่อมาเปลี่ยนเป็น เทหล่อฐานเรียบ แล้วใช้วิธีตอกโค้ดอกเลา ตราธรรมจักรแทน
จำนวนสร้าง 90,000 องค์ คัดองค์ที่เรียบร้อยได้ 84,000 องค์ เท่าจำนวนพระธรรมขันธ์ ทุกองค์ตอกโค้ด อกเลาธรรมจักร ที่เหลือคัดออกไม่ได้ตอก
ต่อมาคณะกรรมการเข้ากราบ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) ขออนุญาตประกอบพิธีพุทธา ภิเษก ที่วัดสุทัศน์ ซึ่งทรงเมตตา รับเป็นประธานในพิธีด้วย และมอบหมายให้ ท่านเจ้าคุณศรีฯ เป็นเจ้าพิธีดำเนินการ
และให้ทำพิธี เททองหล่อพระบูชาพระเครื่องรูปจำลององค์หลวงพ่อพุทธชินราช ตามตำรับวิชาสร้างพระกริ่งพระชัยวัฒน์ ขึ้นจำนวนหนึ่งด้วย ในวันเสาร์ เดือนมีนาคม พ.ศ.2485 (เสาร์ห้า)
โดยอาราธนาพระเถระพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงทั่วประเทศ ประกอบพิธีที่ยิ่งใหญ่ เป็นที่ กล่าวถึงจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน องค์นี้ ก็ของ เสี่ยเพชร อิทธิ เป็น 1 ในจำนวนพระพุทธรูปพระพุทธชินราช ที่สร้างในพิธี วันเสาร์ 5 มีเนื้อโลหะงดงามเหมือน เนื้อพระกริ่งวัดสุทัศน์ทั้งองค์
...
อีกรายการ เป็นพระปิดตา องค์ดัง หนึ่งเดียวของเมืองอุตรดิตถ์ ของ เสี่ยดิว ลำพูน คือ พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก พิมพ์ใหญ่นิยม หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นพระปิดตาราคาหลักหมื่นในอดีต และหลักแสนของวงการในปัจจุบัน.....n ท่านเป็นลูกชาวนาอุตรดิตถ์ ฐานะยากจน ไม่ได้เรียนหนังสือ พ่อให้ช่วยน้องชายเลี้ยงควาย แต่ท่านคิดอยากมีชีวิตก้าวหน้า ผจญโลกกว้าง จึงชวนกันหนีตามพระธุดงค์ ล่องแพมาถึงกรุงเทพฯ และนำฝากบรรพชาเป็นสามเณร เรียนวิชาอยู่กับ พระอาจารย์ทับ วัดอนงคาราม และได้อุปสมบท
จากนั้นได้เดินทางกลับไปจำพรรษาที่วัด ในบ้านเกิด ซึ่งเป็นถิ่นทุรกันดารไกลความเจริญ ต้องออกบิณฑบาตไกลจากวัด กลับไม่ทันฉันเพล ชาวบ้านเกิดศรัทธาเห็นใจ จึงร่วมกันสร้างวัด ท่านจึงได้คิดสร้าง พระปิดตา ตามตำรับวิชาที่ได้ร่ำเรียนมา ซึ่งสร้างชื่อเสียง หลวงพ่อกล่อม ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เพราะได้รับความนิยมมาก
องค์ที่เจ็ดเป็น พระสิวลี เนื้อผงใบลาน ตะกรุด 3 ดอก พระสังวรพิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เป็นพระพิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูง
เพราะเป็น ลิมิเต็ด อิดิชัน หลวงปู่โต๊ะ ท่านสร้างไว้เพียง 10 องค์ มอบศิษย์ที่ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้านักธุรกิจ ที่นำไปใช้บูชาแล้วแสดงอานุภาพ ทำให้ค้าขายเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นอัศจรรย์
จนมีคำกล่าวว่า ใครได้พระสิวลีนี้ไปบูชา ประกอบการค้าธุรกิจ จะเปิดทางเจริญรุ่งเรือง ปิดทางเจ๊ง ไม่มีจน องค์นี้ ของ ร้าน D.M.หลวงปู่โต๊ะ เป็นพระ 1 ใน 10 องค์ สภาพแกะกล่องสมบูรณ์ สวยเดิมอย่างแท้จริง
สุดท้าย เป็น ตะกรุดไม้ครู ขนาดเล็ก (จุกน้ำปลา) หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร กทม. ของ เสี่ยคำรณ สัยยะนิฐี สายตรงเครื่องรางของขลัง ตัวจริงของวงการอีกคน
โดยบรรยายความวิเศษสุดของเครื่องรางชิ้นนี้มาด้วย ว่าเป็น 1 ใน 9 เครื่องรางสะท้านแผ่นดิน ที่ หลวงปู่ภู ท่านเป็นเจ้าตำรับวิชา สร้างด้วย ปล้องไม้ไผ่ ที่ท่านใช้เป็นไม้จิ้มศพ พิสูจน์ลมหายใจผู้เสียชีวิตด้วยโรคห่าระบาดสมัยนั้น
ซึ่งมีคนติดโรคล้มตายเกลื่อนป่าช้าวัดสระเกศ หลวงปู่ภูท่านเวทนา ไปตรวจดู โดยเอาไม้ไผ่จิ้มศพ หากยังมีลมหายใจ พลิกดูรูทวารยังไม่ปิด ท่านจะให้ศิษย์ช่วยนำกลับมารักษาจนหายฟื้นได้หลายราย
ต่อมา ท่านเอาไม้ไผ่นี้ มาตัดตามปล้อง ทำพิธีบูชาครูด้วยหัวหมูบายศรี ลงอักขระเลขยันต์ บรรจุวัตถุอาถรรพณ์ อุดปิดหัวท้าย ถักพันด้วยด้ายหรือสายสิญจน์ แบบมัดตราสัง ทารัก ปลุกเสกกำกับก่อนมอบศิษย์
พอใช้บูชาติดตัว ก็พบอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ เลื่องลือด้านคุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาดภัย ภูตผีปีศาจ อาถรรพณ์มนต์ดำ เสริมอำนาจราชศักดิ์ ซึ่งท่านเรียก นิ้วเพชรพระอิศวร ยอดชี้ตาย ปลายชี้เป็น
ดอกนี้ เป็น ตะกรุดขนาดเล็ก พันด้ายสายสิญจน์ ที่ท่านสร้างระยะแรกๆ ซึ่งมีจำนวนน้อย เพราะไม้ไผ่ 1 ท่อนจะมีปล้องเล็กๆ น้อยกว่าปล้องใหญ่
ปัจจุบันเป็นเครื่องราง ที่นิยมหากันมาก แต่น้อยคนจะได้ เพราะคนมีล้วนรู้ค่าว่าหายากกว่าเงิน ถึงจะมีราคาซื้อขายดอกละเป็นแสน แต่ก็ไม่คิดจะขาย โดยเฉพาะดอกเล็กๆ แท้ดูง่ายๆ พันสายสิญจน์ ที่เรียกกันว่า จุกน้ำปลา แบบดอกนี้ ใครได้ ต้องบอกว่าเป็นผู้มีวาสนาจริงๆ
เรื่องปิดท้าย วันนี้ เกิดตอนปีใหม่ ที่บ้านใหญ่ย่านพุทธมณฑล ของ เสี่ยสวัสดิ์ ซึ่งจัดปาร์ตี้ฉลองภายในครอบครัว และญาติสนิทมิตรสหาย
จนถึงเวลาไฮไลต์ เสี่ยสวัสดิ์ ก็มอบของขวัญให้ เจ๊ธิดา ศรีภรรยา เพื่อปลอบใจ เพราะก่อนหน้านี้ มาขอเงินไปทำหน้าอกให้ตู้มๆ แต่ เสี่ยหวัด ไม่ชอบของปลอม เลยไม่ให้ เมียก็เลยงอนไม่ยอมพูดด้วยมาเกือบเดือน
ความที่เป็นคนชอบพระเครื่อง เสี่ยหวัด จึงไปเช่า พระนางพญา มาให้เป็นของขวัญเมีย บอกราคาเป็นแสนนะ เมียก็ยิ้ม อารมณ์ดีหายงอน แล้วถามว่าพระอะไร ผัวก็บอกรายละเอียดของ พระนางพญา มีชื่อเสียงยังไง อย่างภูมิใจ
พอพูดจบ เมียก็หน้างอเป็นจวัก สะบัดบ๊อบเดินหนีไปนั่งในกลุ่มญาติ ที่รุมถามว่าเป็นอะไร ทำไมไม่ดีใจ ได้พระดี ราคาเป็นแสนเชียวนะ
เจ๊ธิดา ฝืนยิ้ม บอกว่าตอนแรก รู้ว่าได้ พระนางพญา ก็ดีใจอยู่ แต่พอได้ยินชื่อ พิมพ์อกแฟบ ก็เจ็บใจ รู้สึกเหมือนถูกตอกย้ำให้ช้ำใจ เพราะก่อนนี้ ทีชั้นขอเงินไปทำ อกแฟบ ให้เป็น อกนูน แต่ผัวไม่ยอมให้ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง