พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม วัดระฆังฯ ของโต้ง บางแค.

สนามพระวิภาวดีของเราวันนี้ ตรงกับวันฮาโลวีนของฝรั่งชาติตะวันตก ซึ่งจะมีผีออกมาเพ่นพ่าน กลายเป็นเทศกาลสนุกสนาน แต่จริงๆแล้ว หมายถึงคืนก่อน วันระลึกถึงนักบุญ คือ All Hallows Day (1 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันสำคัญของชาวคริสต์ ที่จะไปทำพิธีที่โบสถ์ แต่ไปมากลายเป็น Halloween Day เรื่องเกี่ยวกับผีๆไป เพราะมีอีกตำนานว่า คืน 31 ต.ค. เป็น คืนบูชาเทพเจ้าแห่งความตาย และมีการปล่อยผีกลับมายังโลก ชาวบ้านที่กลัวผี ก็จะก่อกองไฟให้ผีกลัว และแต่งตัวเป็นผี เพื่อให้ผีนึกว่าเป็นพวกเดียวกัน จะได้ไม่ทำร้าย--ส่วนของไทยก็มีคล้ายๆ คือวันชิงเปรตของทางใต้ จะมีการทำบุญเดือนสิบให้วิญญาณผู้ตายกัน

วันนี้ท่านผู้ชมที่กลัวผี จึงไม่ต้อง อาราธนาหลวงพ่อมาคุ้มครอง เพราะฮาโลวีน มีแต่ผีฝรั่ง ไม่กลัวพระเหมือนแม่นาคพระโขนง

ไปดูองค์แรกกัน คือ พระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ฐานแซม สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง โฆสิตาราม ระยะนี้มีมาให้ชมต่อเนื่อง เพราะตอนโควิดปิดเมือง บรรดาเจ้าของหลายคน ที่เก็บเงียบ ก็ว่างๆจึงเริ่มรื้อรังเปิดกรุ หยิบมาให้แฟนคลับสายพระสมเด็จฯได้ตื่นตา

อย่างองค์นี้ เป็น พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม สภาพสวย สมบูรณ์ ของ เสี่ยโต้ง บางแค ที่ผ่านการใช้ จนเปลือกผิวถูกสัมผัส เปิดเห็นเนื้อในทั่วองค์ ทั้งด้านหน้า-หลัง เห็นมวลสารชัดเจน--ส่วนสีเนื้อจะดูคล้ำแปลกตา ซึ่งอาจเกิดจากความนิยมในการบูชาพระ ของคนยุคเก่า ที่จะทาน้ำมันหอมไว้ ซึ่งโชคดีที่ตอนนั้นน้ำหอมแบรนด์ดังยังไม่แพร่หลาย ไม่งั้นเนื้อพระอาจเสียหาย เพราะน้ำหอมมีแอลกอฮอล์ ปน แต่ยุคก่อนไทยเราก็มีแต่พวกน้ำอบไทย แป้งร่ำ ใช้ประทินผิวคน และประทิน ผิวพระ--ประทิน นี่เป็นภาษาคนรุ่นเก่า หมายถึงประพรมให้สวย สะอาด ให้หอม จึงมีคำเรียกเครื่องสำอาง ที่ใช้กับร่างกายเพื่อความสวยงามหอมกรุ่น ว่า เครื่องประทินผิว

...

พระพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม ของแจ๊ค สามพราน.
พระพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม ของแจ๊ค สามพราน.

ต่อด้วย พระวัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่ กทม. ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมแถวหน้าในสกุล ของ เสี่ยแจ๊ค สามพราน

เป็นพระสภาพผ่านใช้ พิมพ์ชัดเนื้อใช่ มวลสารเข้มข้น แบบเนื้อจัด ด้านหลังกลางองค์ มีรอยสัมผัสผ่านการเลี่ยมแบบโบราณ เป็นรูปหัวใจ เปิดเห็นเนื้อชั้นใน ที่อุดมด้วยมวลสารเข้มข้น ทำให้พระองค์นี้ดูดีมีพลังและมีเสน่ห์ขึ้นเยอะเรยย์

เหรียญปราบฮ่อ ร.๕ เนื้อเงิน ของมีชัย เถาเจริญ.
เหรียญปราบฮ่อ ร.๕ เนื้อเงิน ของมีชัย เถาเจริญ.

ตามมาด้วย เหรียญปราบฮ่อ เนื้อเงิน ที่ ร.๕ ทรงสร้าง เพื่อพระราชทานผู้มีความดีความ ชอบ ในการร่วมสงครามปราบฮ่อ ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยของพระองค์ ๓ ครั้ง ตามที่ระบุในเหรียญคือ จ.ศ.๑๒๓๙ พ.ศ.๒๔๒๐, จ.ศ.๑๒๔๗ พ.ศ.๒๔๒๘, จ.ศ.๑๒๔๙ พ.ศ.๒๔๓๐

เรียนประวัติศาสตร์กันนิด ว่า “ฮ่อ” คือชาวจีน ที่ลุกขึ้นต่อต้านการปกครองสมัยราชวงศ์ชิง เรียกว่า “กบฏไท่ผิง” และถูกทางการจีนปราบ จึงอพยพหนีลงมาทางตอนใต้ของจีน มาอาศัยอยู่ในภาคเหนือของไทย

มาอยู่แล้วก็ทำตัวนักเลงอันธพาล ตั้งเป็นกลุ่มกองกำลัง คือ ฮ่อธงดำ กับฮ่อธงเหลือง สร้างความวุ่นวายให้สยาม ลาวพวน หลวงพระบาง สิบสองจุไท ฯลฯ

พ.ศ.๒๔๑๘ ฮ่อเตรียมโจมตีเมืองริมฝั่งน้ำโขง บริเวณเวียงจันทน์ แล้วจะข้ามมายังฝั่งหนองคาย พระยามหาอำมาตยาธิบดี (ชื่น กัลยาณมิตร) จึงรับหน้าที่ให้เกณฑ์คนจากมณฑลอุดร ร้อยเอ็ด อุบล ขึ้นไปสมทบกับทัพของ พระยานครราชสีมา (เมฆ) ขึ้นไปป้องกันหนองคาย ตีทัพฮ่อ จนกระเจิง อีกทัพยกไปปราบฮ่อทางหลวงพระบาง ก็ตีทัพ “ฮ่อ” แตก

ฮ่อ จึงหนีไปรวมตัวเป็นกองโจร คอยปล้นสร้างความวุ่นวายในจีนและญวน จน ปวงนันซี หัวหน้าฮ่อธงเหลืองตาย ลูกน้องจึงแยกเป็นหลายกลุ่ม โดยไปตั้งค่ายที่ทุ่งเชียงคำ กองทัพสยามนำโดยพระยาราชวรานุกูล (เอก บุญยรัตนพันธุ์) จึงยกทัพไปปราบ แต่ล้อมค่ายอยู่ ๒ เดือนยังเอาชนะไม่ได้ ทัพใหญ่จึงส่งกองทัพที่ฝึกอย่างทหารตะวันตก ขึ้นไปสมทบ ปราบฮ่อสำเร็จเป็นครั้งที่ ๓ แต่กองทัพสยามก็ต้องผจญกับไข้ป่าและการขาดแคลนยาควินิน

จนถึง พ.ศ.๒๔๓๐ เจ้าหมื่นไวยวรนาถ (เจิม แสง-ชูโต) คุมตัวหัวหน้าโจรฮ่อลงมากรุงเทพฯ โจรฮ่อจึงถูกกำราบสงบลง

ร.๕ จึงให้สร้าง เหรียญปราบฮ่อ ขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๓๑ เป็น เหรียญราชอิสริยาภรณ์ บำเหน็จความดีความชอบ ครั้งแรกพระราชทานแก่ผู้ไปราชการปราบฮ่อ โดยว่าจ้าง บ.บีกริมแอนด์โก ผลิตที่เยอรมนี ๕๐๐ เหรียญ

...

ลักษณะเป็นเหรียญทรงกลม แบน มีหูห่วงและไม่มีหูห่วง เนื้อเหรียญเป็นเงิน กับทองแดง (เป็นเหรียญลองพิมพ์) ด้านหน้าเป็นพระบรมรูป ร.๕ พระพักตร์เสี้ยว (หันข้าง) มีช่อชัยพฤกษ์ด้านบน ริมขอบมีข้อความ “จุฬาลงกรณ์บรมราชาธิราช” ด้านหลังเป็น พระสยามเทวาธิราช ประทับคอช้างศึก ถือของ้าว มีควาญอยู่ท้ายช้าง ด้านล่างริมขอบ มีแพรแถบ ด้านบนริมขอบ มีข้อความ “ปราบฮ่อ 1239, 1247, 1249” ทั้งหมดมี ๕๐๐ เหรียญ มีเฉพาะเนื้อเงิน ส่วนเหรียญทองแดงเป็นเพียงเหรียญตัวอย่างที่ส่งมาให้ ร.๕ ทอดพระเนตร

ทุกเหรียญมีหมายเลขกำกับ ระบุถึงเลขที่ผู้ได้รับเหรียญ ซึ่งจะมีชื่อในราชกิจจานุเบกษา ส่วนเหรียญทองแดงที่ส่งมาเป็นตัวอย่าง จะสังเกตได้ว่ามีคำสะกดผิดที่ “จุฬาลงกรณ์เป็นจุพาลงกรณ์” และคำว่า “ปราบฮ่อ เป็นปราบฮอ” จึงให้มีการแก้ไข.....n ส่วนเหรียญที่สะกดผิด ก็ตกค้างอยู่ที่เมืองไทย ซึ่งกลายเป็นมีราคาแพงมาก เพราะมีเพียงเหรียญเดียว--ส่วนเหรียญเนื้อเงินแบบนี้ ของ เสี่ยมีชัย เถาเจริญ ระบุราคาว่ามีมูลค่าสูงสุดที่ ๒.๖ ล้าน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๙

พระนางพญา พิมพ์อกนูนเล็ก วัดนางพญา ของ ผศ.ดร.สุภาภรณ์ เกียรติสิน.
พระนางพญา พิมพ์อกนูนเล็ก วัดนางพญา ของ ผศ.ดร.สุภาภรณ์ เกียรติสิน.

...

อีกองค์คือ พระนางพญา พิมพ์อกนูนเล็ก วัดนางพญา อ.เมือง จ.พิษณุโลก พระแท้ดูง่ายไร้ปัญหา หน้าตาน่ารัก และน่าใช้

ตอนนี้ กำลังซื้อง่าย ขายคล่อง เพราะปัจจุบันมีผู้หญิงเก่งๆ เป็นผู้นำองค์กรหน่วยงานต่างๆมากขึ้น พระนางพญา จึงเป็นเครื่องเสริมความมั่นใจ เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ--องค์นี้ของ คุณพี่สุภาภรณ์ เกียรติสิน เป็นพระพิมพ์เล็กสภาพพองาม แต่เป็นหนึ่งในเบญจภาคี

พระสมเด็จ พิมพ์แซยิด แขนหักศอก หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ของสถิต ราชบุรี.
พระสมเด็จ พิมพ์แซยิด แขนหักศอก หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ของสถิต ราชบุรี.

อีกสำนักเป็น พระพิมพ์สมเด็จ พิมพ์แซยิดแขนหักศอก หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม. พระพิมพ์นิยมเบอร์ต้น ในสกุล “พระหลวงปู่ภู” ที่เป็นศิษย์ปรนนิบัติใกล้ชิดสมเด็จโต ครั้งเดินทางมาพำนัก เพื่อสร้างองค์พระศรีอริยเมตไตย ณ วัดอินทรวิหาร

...

จัดสร้างในวันทำบุญอายุ ๘ รอบ จึงเชื่อกันว่าท่านได้รับถ่ายทอดสรรพวิชาและผงพุทธคุณ ๕ ประการ จากสมเด็จโต เป็นส่วนผสม

พระมีหลายแบบ พิมพ์ จึงได้รับความ นิยมสูง อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยสถิต ราช บุรี สภาพสวยเนี้ยบ เฉียบคม ขั้นแชมป์แบบนี้ ราคาน่าจะขึ้นสูงถึงหลักแสนกลางแล้ว

พระพิมพ์ทรงนกมารวิชัย หลังยันต์ มะ อะ อุ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ของพิชย พิชยวัฒน์.
พระพิมพ์ทรงนกมารวิชัย หลังยันต์ มะ อะ อุ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ของพิชย พิชยวัฒน์.

แล้วก็ไปดูพระแฟชั่น คือ พระพิมพ์ทรงนก มารวิชัย หลังยันต์ลึก มะ อะ อุ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนคร ศรีอยุธยา ของ เสี่ยพิชย พิชยวัฒน์

เป็นพิมพ์พระหายากสุดๆ เพราะสร้างออกระยะแรกๆ โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่ ยันต์ มะ อะ อุ ปั๊มลึกเข้าเนื้อในตัว ที่สร้างยาก จึงถือเป็นพิมพ์พิเศษ ราคาแพงสุดในพิมพ์เลย ขอบอก

พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก หลวงปู่แย้ม วัดด่านสำโรง ของกฤษฎ์ คงวุฒิปัญญา.
พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก หลวงปู่แย้ม วัดด่านสำโรง ของกฤษฎ์ คงวุฒิปัญญา.

อีกสำนักเป็น พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก จุ่มรัก พิมพ์แขนหักศอก หลวงปู่แย้ม วัดด่านสำโรง จ.สมุทรปราการ ๑ ในพระปิดตายอดนิยมของเมืองสมุทรปราการ และเป็นพระปิดตาราคาหลักแสน เพราะมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์และรูปแบบพิมพ์พระเป็นเอกลักษณ์

เห็นปุ๊บรู้ว่าเป็น พระปิดตาเมืองพระประแดง ที่ผู้รู้สายตรงพระปิดตา ยืนยันว่ามีดีรอบด้านเทียบกับพระปิดตา ๕ เสือเมืองชล องค์นี้ของ เสี่ยกฤษฎ์ คงวุฒิปัญญา เป็นพระพิมพ์นิยมสุด สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ แบบนี้ราคาว่ากันหลายแสน

เหรียญรุ่นแรก ๒๕๐๘ หลวงปู่ดุลย์ วัด บูรพาราม ของ น.ท.ภฤศพงศ์ ช้อนเเก้ว.
เหรียญรุ่นแรก ๒๕๐๘ หลวงปู่ดุลย์ วัด บูรพาราม ของ น.ท.ภฤศพงศ์ ช้อนเเก้ว.

สุดท้ายคือ เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๘ เนื้อทองแดงรมดำ พระรัตนากรณ์วิสุทธิหลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ อมตะ พระวิปัสสนาจารย์ ผู้ได้รับการยกย่องเป็นพระสุปฏิปัณโณ

ตลอดอายุท่านปฏิบัติธรรม ตามแนว พระอาจารย์ มั่น รอบองค์ท่านมีแต่พระวิปัสสนาจารย์ ที่เป็นของจริง นับแต่องค์พระอาจารย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แม่ทัพธรรมสาย “พระป่า” แห่งภาคอีสานพระสหมิกคือ พระอาจารย์สิงห์ ขัตติยกาโม หลวงปู่ขาว อนาลโย สำนักสงฆ์ถ้ำกองเพล จ.อุดรธานี และยังเป็นพระอาจารย์ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์อ่อน ญาณสัมปันโน

ตลอดอายุท่านสร้างพระพุทธรูป พระเครื่อง เหรียญรูปเหมือน ตามคำขอของคณะศิษย์ เพื่อหารายได้เป็นกุศล บูรณะวัดและสร้างพุทธสถานหลายรุ่น

อย่าง เหรียญปั๊มทรงกลมรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๘ นี้ ท่านอนุญาตให้คณะศิษย์ จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างวิหารประดิษฐานองค์หลวงพ่อ “พระชีว์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปอยู่คู่วัด มากว่า ๒๐๐ ปี

ปัจจุบันได้รับความนิยม เป็นเหรียญราคาหลักแสน มากน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพ อย่างเหรียญสวยแชมป์ รมดำเดิมๆเต็มร้อยแบบเหรียญนี้ของ น.ท.ภฤศพงศ์ ช้อนเเก้ว ผู้รู้สายตรงบอกว่า สูงกว่า ๕ แสนชัวร์

มาถึงเวลาส่งท้ายเดือนตุลา ด้วยเรื่องฮาๆในห้องผ่าตัด รพ.ใหญ่ของรัฐ พนักงานเข็นรถนำร่างชายสูงวัย มานอนรอคิวเข้าห้องผ่าตัด

พนักงานเห็นคนไข้มีลายสักยันต์ลายพร้อยเต็มตัว ก็ชวนคุยแก้เครียดว่าลุงสักยันต์เต็มตัวแบบนี้ น่าจะหนังเหนียวนะ

คนไข้หัวเราะหึๆ ลืมตาคุยด้วยว่า ตลอดชีวิตก็ลุยมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ตีรันฟันแทงมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่เคยมีแผลเสียเลือดสักหยด

พนักงานฟังแล้วร้อง โหพอดีแพทย์ผู้ผ่าตัดเดินมาได้ยิน จึงพูดกระเซ้าว่า แล้วอย่างนี้ เดี๋ยวเข้าห้องผ่าตัดมีดหมอจะผ่าเข้าเนื้อได้หรือ

คนไข้เลยจ๋อย บอกคงไม่มีปัญหาแล้วครับ เพราะพออายุมาก ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนหนุ่มๆ เลยไปให้พระอาจารย์เอาวิชาคงกระพันออก แล้วเสกวิชาใหม่ครอบ ตอนนี้กลายเป็นแนวเมตตาล้วนๆ--แล้วอ้อนหมอว่า คุณหมอช่วยเมตตาเบามือด้วยนะครับ เพราะตอนนี้หมดเหนียวแล้ว กลัวเจ็บ เจ้าค่ะอามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง