ทฤษฎีสี่แม่พิมพ์ ของสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ที่จำแนกไว้ในนิตยสาร “พรีเชียส” ของอาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ ทั้งสี่พิมพ์แม้ เส้นสายคล้ายกัน แต่ดูเหมือนว่าช่างแกะแม่พิมพ์ตั้งใจให้มีลักษณ์ที่เหมือนกัน

หลายประการ เป็นความลับที่อภิเซียนเก็บงำไว้นาน เพิ่งเปิดเผยตอนนั้น คนรักพระนอกวงการได้รับรู้

หนึ่งในลักษณะ...ที่ว่า ช่วงบนองค์พระ ตั้งแต่ ปลายพระเกศลงมาถึงพระเพลาเบี่ยงเบนเอนไปทางขวา (องค์พระ) ขณะที่ช่วงฐาน ตั้งแต่ฐานชั้นแรกมาถึงฐานชั้นสาม เบี่ยงเบนเอนไปทางซ้าย

ตามลักษณะนี้ ปมเขื่องพระเพลาซ้ายจึงใหญ่ และสูง ค่อยๆลาดเอียงไปจนถึงปลายพระเพลาขวา

ข้อดี นับแต่ความลับขององค์พระประการนี้ ถูกเปิดเผยออกมา พระปลอมฝีมือเก่า จึงถูกคัดออกไป แต่ก็มีข้อร้าย พระปลอมรุ่นต่อๆมา ก็ทำพิมพ์ได้ใกล้เคียง ทั้งเนื้อก็ยิ่งทำได้ใกล้เคียง

เป็นเหตุให้เซียนรุ่นเก่าที่ตามไม่ทันหลงเพ้อพระปลอมฝีมือไปหลายคน

11 ลักษณะ จะเรียกว่าตำหนิลับก็ได้...ยังมีอีก เช่น ดูให้ดีๆพื้นผนังนอกซุ้มครอบแก้วจะสูงกว่าพื้นในซุ้มเล็กน้อย ตรงนี้ชี้ชัดยาก ต้องคอยประคอง เทียบเคียง

ความจริงเหล่านี้ที่จริงก็ควรรู้ไว้ แต่ข้อชี้ขาดสำคัญ ก็คือความเก่าของเนื้อ ธรรมชาติของผิว ซึ่งต้องอาศัย ดูพระสมเด็จแท้ให้มากๆ ดูจนจำได้แม่น

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ในคอลัมน์ ตามทฤษฎีพรีเชียสเป็นพิมพ์ที่ 2 องค์ครู ที่ถูกนำมาชี้ตำหนิลับ 11 ข้อ วงการเรียกกันว่า องค์ครูเอื้อ ก็ครูเอื้อ สุนทรสนาน หรือ สุนทราภรณ์ นั่นปะไร

องค์ครูเอื้อ เนื้อขาวอมเหลืองนุ่มละเอียด จะเรียกว่า เนื้อเกสรดอกไม้ก็ได้ คนรักพระคงมีภาพจำฝังใจ “ก้อนขาวเม็ดใหญ่” กลืนอยู่ใกล้ฐานชั้นที่สอง ฝ้ารักสีดำแกมน้ำตาลประปราย แต่องค์ในคอลัมน์ พอตามทันได้ก็แค่นวลเนื้อละเอียดนุ่มระดับซึ้งใกล้เคียง

...

หลุมร่องรอยแยก มีบ้างบางตา ขาดก้อนขาว แต่ก็เติมด้วยชิ้นรัก มองเห็นเป็นเส้นตรงเส้นโค้ง...นี่คือตัวช่วย รวมความด้านหน้า เส้นสายลายพิมพ์ กลมกลืนไปกันได้กับองค์ครู แต่ด้านหลัง องค์ครูเอื้อ เป็นหลังต้องโฉลกริ้วกาบหมาก หลังพระสมเด็จวัดระฆัง เป็นหลังแบบทางใครทางมัน บังคับกันไม่ได้ หลังองค์นี้เป็นริ้วรอยปริแยกตามธรรมชาติ ที่พอหาพระแท้เทียบเคียงได้หลายองค์

รอยสึกมนของขอบสี่ด้าน เติมด้วยชิ้นรัก หนาบ้าง บางบ้าง นี่ก็หลักฐาน

สรุปองค์นี้ดูด้านหน้า รอยยุบรอยแยกน้อย กากดำ เม็ดแดง ก้อนขาว จมอยู่ใต้ผิว ในสถานการณ์พระปลอมฝีมือดีมาก ต้องถือว่าตัดสินใจยาก แต่พอพลิกด้านหลัง...เหมือนฟ้าเปิดโล่งสว่าง นี่คือพระสมเด็จวัดระฆังแท้ ที่ดูได้ง่ายๆอีกองค์.

พลายชุมพล