พระสมเด็จบางขุนพรหม วัดใหม่อมตรส พระดี พระดังคุ้นตา

องค์ที่มาเปิดเวทีวันนี้ คุ้นตากันดีคือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นองค์ที่ลงภาพบ่อย เพราะเวลามีการย้ายวิกก็ต้องอัปเดตให้รู้กันว่าปัจจุบันหลวงพ่อไปอยู่กับใคร.....ทำให้องค์นี้ ซึ่งเป็นพระดีแน่ แท้ชัวร์ จึงวนเวียนซื้อขายเปลี่ยนมือตลอด ระหว่างมือซื้อ-ขายสายพระสมเด็จ เพื่อเอาไว้เสนอลูกค้า ดูแล้วยังไม่โดน ก็เก็บไว้

@@@@@

เปิดสนามพระ มุมไหนก็ไม่พ้นได้ยินได้ฟังเรื่องโควิด เพราะต่างตกใจที่ตัวเลข คนติดเชื้อ มากขึ้นทุกวัน ล่าสุด ตอนข้าพเจ้ากำลังเขียนต้นฉบับ ก็จะหมื่นคนแร้วพ่ะย่ะค่ะ

แต่...ก็อยากจะเรียนท่านผู้ชมว่า อย่าเพิ่งตกกะใจมากไป เพราะการพบคนติดเชื้อมากพิจารณาได้ว่าเพราะคนตื่นตัวกับการระบาด รักตัวกลัวติดมากขึ้น ก็เลยไปตรวจมากขึ้น --“ตรวจมากก็เจอมาก” เรื่องธรรมดา

ขอให้เน้นดูตรงว่า ติดเท่าไหร่ และรักษาหายมากหรือน้อย ดีฝ่า ถ้า ตายมากกว่าหาย เราก็มาเก็บตัวอยู่ในที่กำบังอยู่บ้านกัน--ตอนนี้ที่ควรทำอย่างยิ่งคือ ระวังมากๆ และ รีบฉีดวัคซีน ถึงติดก็ยังไม่ร้ายแรงมาก รักษาหายได้

เข้าสนามพระต่อ องค์ที่มาเปิดเวทีวันนี้ คุ้นตากันดีคือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นองค์ที่ลงภาพบ่อย เพราะเวลามีการย้ายวิกก็ต้องอัปเดตให้รู้กันว่าปัจจุบันหลวงพ่อไปอยู่กับใคร.....ทำให้องค์นี้ ซึ่งเป็นพระดีแน่ แท้ชัวร์ จึงวนเวียนซื้อขายเปลี่ยนมือตลอด ระหว่างมือซื้อ-ขายสายพระสมเด็จ เพื่อเอาไว้เสนอลูกค้า ดูแล้วยังไม่โดน ก็เก็บไว้

ซึ่งมืออาชีพด้วยกันจะรู้ว่าพระอยู่ที่ใคร วันไหนมีใบสั่งก็มาขอแบ่งกันไป ทำให้มีการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนเจ้าของบ่อยครั้ง--นาทีนี้ องค์นี้ตกอยู่กับ เสี่ยเบิ้ม นครพิงค์อาร์ต ซึ่งอีกไม่นานก็ต้องย้ายกุฏิอีก

องค์ที่สองเป็นพระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าหนุ่ม กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ของ เสี่ยก้อง พระสมเด็จ ซึ่งคนที่รู้จักฝากบอกมาว่า น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น ก้อง พระเบญจฯ ได้แร้ว เพราะได้พระในชุดเบญจภาคีบ่อยๆ.....ล้วนแต่เป็นพระแท้ สวย ดูง่าย อย่างองค์นี้เป็น พิมพ์หน้าหนุ่ม น้องสุดท้องในสกุล พระผงสุพรรณ แต่ปัจจุบันที่พระพิมพ์นิยมเบอร์ต้นๆหายาก พระหมดตลาด ทำให้พระพิมพ์เบอร์รองๆ อัปเกรดขึ้น เป็นพิมพ์ที่มีผู้เสาะหามากขึ้น แบบว่าขอเป็นเพียงพระแท้ พองามและเดิมๆ แบบองค์นี้ก็ OK แล้ว

ต่อด้วย พระรอด พิมพ์ตื้น กรุวัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน ของ เสี่ยวีระชัย ไชยเจริญ พระเบญจภาคีพิมพ์ท้ายๆ ที่มีกระแสการซื้อขายคล่องตัว จนเลื่อนชั้นเป็นพระยอดนิยมเบอร์ต้นๆ ในตระกูลเหมือนกัน.....ด้วยอายุการสร้าง คุณค่า อานุภาพที่เท่ากัน แต่ราคาย่อมเยากว่า ขอเพียงเป็นพระแท้ ดูง่าย สภาพสมบูรณ์ พองามเดิมๆ อย่างองค์นี้ สายตรงบอกมาว่า ซื้อง่าย ขายเร็วกว่าพิมพ์นิยมเบอร์ต้นหลายเท่า.....ยังไม่พ้นสนามเบญจภาคี เพราะอีกองค์ก็เป็น พระนางพญา กำแพงเพชร พิมพ์ตื้น กรุลานทุ่งเศรษฐี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร

พระพิมพ์รูปทรงสามเหลี่ยม เนื้อดินเผา พุทธศิลป์สมัยสุโขทัย หมวดกำแพงเพชร ที่มี อายุศิลป์สมัยคาบเกี่ยวระหว่างพุทธศิลป์สุโขทัยกับพุทธศิลป์สมัยอยุธยา ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เป็นองค์พระนั่งลอยองค์ ปางสะดุ้งมาร เหนือฐานเขียง ที่ด้านหน้าองค์พระ ด้านหลังเรียบ มีลายนิ้วมือ

ค้นพบได้จากเกือบทุกกรุพระ ในอาณา เขตลานทุ่งเศรษฐี มีพิมพ์พระมากมายหลายแบบหลายรูปทรง อาทิ พิมพ์กลีบบัว พิมพ์เม็ดมะลื่น และอื่นๆ.....เฉพาะพิมพ์ที่มีรูปทรงสามเหลี่ยมที่ได้นามเรียก พระนางกำแพง แยกได้เป็น พิมพ์ลึกกับพิมพ์ตื้น อย่างองค์นี้ของ เสี่ยต่อ สตางค์.....พระสภาพสมบูรณ์ งดงาม หูตากะพริบ เข้าขั้นพระแชมป์ ซึ่งปัจจุบันมีราคาอยู่ที่หลักแสนต้นๆ เพราะเปลี่ยนชนชั้นจาก พระดี ราคาถูก เป็น พระดี ราคาแพง ไปแล้ว.....

ต่อด้วย พระปิดตา เนื้อเมฆพัตร พิมพ์หูกระต่าย หลวงปู่นาค โชติโก วัดห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งจัดสร้างขึ้นราวปี พ.ศ.๒๓๔๒ ด้วย เนื้อโลหะผสม ที่มีอาถรรพณ์วิเศษสุดจาก การเล่นแร่แปรธาตุ ที่ท่านได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญสำเร็จในวิชาดังกล่าว

เมื่อได้เนื้อโลหะตามสูตรแล้ว ก็นำมาเทหล่อเป็น องค์พระปิดตา ตามรูปแบบที่ท่านกำหนด ได้องค์พระเนื้อ โลหะสีดำ ผิวเกลี้ยงมันเงาวาว สวยงาม ไม่มีตะเข็บขอบข้าง แล้วนำมาลง เหล็กจารอักขระเลขยันต์ ทั่วองค์ เสกกำกับ ก่อนมอบศิษย์ไปใช้บูชา.....และพบประสบการณ์ด้านคงกระพันชาตรีถึงมหาอุด และด้านเมตตามหาลาภก็มีไม่เป็นรองพระปิดตาสำนักใด จึงได้ชื่อเป็น จักรพรรดิพระปิดตา เนื้อเมฆพัตร

และเป็น พระปิดตาอันดับ เนื้อเมฆพัตร ชุดเบญจภาคี ที่มี ๑.พระปิดตาเมฆพัตร หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม ๒.พระปิดตาเมฆพัตร หลวงพ่อปล้อง วัดหลุมดิน จ.ราชบุรี ๓.พระปิดตาเมฆพัตร หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง จ.ราชบุรี ๔.พระปิดตาเมฆพัตร หลวงปู่ทิม วัดบางปลา จ.นครปฐม ๕.พระปิดตาเมฆพัตร หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม

องค์นี้ของเสี่ยเพชรอิทธิ ชวลิตธำรง อีกแล้ว เป็น พระปิดตาห้วยจระเข้ เนื้อเมฆพัตร พิมพ์หูกระ-ต่าย ๑ใน ๒ พิมพ์นิยมมาตรฐาน สภาพสมบูรณ์ สวยเดิม พิมพ์พระเนื้อโลหะถูกต้อง ตามตำราอักขระเลขยันต์ ลายมือถูกต้อง--อยู่ถูกที่ถูกทาง ครบตัวแบบนี้ ถามราคารุ่นใหญ่สายตรงพระปิดตา บอกต้องเริ่มเจรจาที่หลักล้านขึ้นไป

อีกรายการ พระชัยวัฒน์ สิงหเสนี พระพุฒาจารย์ท่านเจ้ามา วัดจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ซึ่ง เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ขออนุญาต ท่านเจ้ามา จัดสร้างตอนปฏิสังขรณ์วัดจักรวรรดิ เพื่อมอบญาติมิตร ก่อน
ท่านเจ้าพระยาถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๓

ลักษณะเป็นพระนั่งปางสมาธิ ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ เทหล่อลอยองค์ด้วยเนื้อโลหะสำริดแดงกลับดำ.....พระหายากมากในปัจจุบัน เพราะสร้างน้อยเฉพาะคนใกล้ชิด ซึ่งก็เก็บตกทอดในครอบครัว ไม่ค่อยมีออกนอกตระกูล องค์นี้ อิทธิ ชวลิตธำรง ไม่ได้บอกว่าได้มาจากญาติคนไหน แต่มืออาชีพ พระกริ่งพระชัยวัฒน์เห็นก็ตาโต บอกเป็นพระแท้ดูง่าย ที่งดงามด้วยเส้นสายลายศิลป์ ซึ่งผ่านการตกแต่งด้วยฝีมือช่างชั้นครู แบบนี้ประเมินราคาได้ว่า มากแสน.....พระปิดตา อีกสำนักเป็น พิมพ์ชะลูด เนื้อเมฆสิทธิ์ ของหลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม เขตคลองสาน กรุงเทพฯ

จาก พระปิดตา เนื้อเมฆพัตร ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับ ๑ ของวงการ มาถึง พระปิดตา เนื้อเมฆสิทธิ์ ยอดนิยมอันดับ ๑ ของวงการ องค์นี้ เป็นพระปิดตาที่สร้างสำเร็จด้วย เนื้อโลหะ ผสมเมฆสิทธิ์ ที่ หลวงพ่อทับ ท่านทำสำเร็จจาก การเล่นแร่แปรธาตุ ได้รับการยกย่องเป็น ต้นตำรับวิชาทำเนื้อโลหะผสมเมฆสิทธิ์ สีเขียวปีกแมลงทับ

ในตำราเล่นแร่แปรธาตุบอกไว้ว่า เนื้อโลหะผสมเมฆสิทธิ์ เป็น ธาตุกายสิทธิ์ มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวด้านคุ้มครองป้องกันภัย และเสริมส่งดวงชะตาผู้ใช้บูชาให้มีความเจริญรุ่งเรืองไม่ตกต่ำ

ทำให้ พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับ ได้รับความนิยมสูง แต่จำนวนพระที่มีน้อย โดยเฉพาะพระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ พิมพ์ต่างๆ ที่หลวงพ่อทับสร้างไว้ ปัจจุบันมีราคาค่าสูงถึง หลักแสนปลายๆ

อย่างองค์นี้ของ เสี่ยแมน รัตนา ที่เป็น พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ พิมพ์ชะลูด สภาพสวยสมบูรณ์เดิมๆ เป็น ๑ ในพระปิดตาพิมพ์นิยมมาตรฐาน ที่มีน้อยกว่าพระปิดตาพิมพ์อื่นๆ นานทีปีหนจะได้มีภาพมาให้ชมกันชัดๆแบบนี้

ตรงนี้ขอแทรกตอบ คำถามสนามพระ เรื่อง การเล่นแร่แปร ธาตุ หรือ รสายนเวท ว่า มีมาตั้งแต่ยุคโบราณ เป็นพันปี ระบาด ไปทั่วโลก ด้วยความเชื่อว่าสสารทุกชนิดประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม และไฟ ถ้านำมาผสมกันตามสัดส่วน และใช้เวทมนตร์ ขอพรอ้อนวอนเทพเจ้า ก็จะได้สารที่ต้องการทุกชนิด

วัตถุประสงค์ในการเล่นแร่ฯมีมากมาย ที่นิยมมากคือ ความพยายามแปรธาตุต่างๆ เช่น ทองแดง เงิน ตะกั่ว ตามสูตรแต่ละสำนักคิดค้นเองให้เป็น ทองคำ แต่ไม่มีใครทำสำเร็จ.....แต่ก็ทำให้ได้ ธาตุใหม่ๆ มากมาย ซึ่งในสมัยนั้นก็เชื่อว่าเป็นเรื่องของพระเจ้า เวทมนตร์ คาถา จึงกลายเป็นคล้ายๆลัทธิ ที่ใครเชื่อนักเล่นแร่ฯคนไหน ก็เป็นสาวกไป เชื่อไปต่างๆนานา เช่น สามารถทำยาอายุวัฒนะ ทำให้คนมีอายุถึง ๒,๐๐๐ ปี แต่เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญขึ้นก็ตรวจสอบได้ว่า นักเล่นแร่แปรธาตุ ต่างอวดอ้าง

พูดง่ายๆคือ การเล่นแร่แปรธาตุ ก็คือการผสมธาตุตาม ตำราเคมี ฟิสิกส์ เพื่อให้ได้ธาตุที่ต้องการ ซึ่งสมัยนี้ โรงหล่อ แล็บ ที่ไหนก็ทำได้--แต่ยุคก่อนคนไม่มีความรู้ ก็เลยเป็นเรื่องอัศจรรย์ เชื่อง่ายๆว่าเป็นการบันดาลของพระเจ้า ทำให้นักเล่นแร่แปรธาตุ ถือโอกาสตั้งตัวเป็นปราชญ์ เป็นเจ้าลัทธิ

สำหรับเมืองไทย เมื่อความเชื่อเรื่อง เล่นแร่แปรธาตุ แผ่มาถึงก็มีความนิยมบ้าง แต่ส่วนใหญ่ ผู้ที่นิยมเล่นแร่แปรธาตุ จะเป็นพระเกจิ และระดับปราชญ์ เช่น กวีเอกสุนทรภู่ ซึ่งสนใจคิดค้น โดยจะเห็นได้จากการสอดแทรกเรื่อง เล่นแร่แปรธาตุ ไว้ในกลอนของท่านหลายตอน

ถัดไปเป็น เหรียญรุ่นพิเศษ ยันต์สวน๑ พ.ศ.๒๕๕๓ เนื้อทองคำ หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดรางหมัน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ของ เสี่ยเต่า พระเครื่อง .....มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังว่า หากจะมีการพูดกันถึงพระเกจิอาจารย์ ผู้มีชื่อเสียง ด้านความเข้มขลังในวิชาพุทธาคม ยุคปัจจุบัน ต้องมีชื่อ หลวงปู่แผ้ว วัดรางหมัน ลำดับต้นๆ แน่นอน เพราะท่านมีวัตรปฏิบัติเคร่งครัด เป็นพระแท้ สมถะ ทำให้มีผู้เคารพศรัทธาทั่วสารทิศ ทำให้พระเครื่องวัตถุมงคลที่ท่านสร้างมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ครบครอบรอบด้านเป็นที่เลื่องลือ สร้างกี่แบบ กี่รุ่น มากน้อย ยังไงก็ไม่พอ

อย่าง เหรียญรุ่นพิเศษ ยันต์สวน๑ ที่ท่านสร้างออกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๓ แค่เห็นรูปคนก็แห่จองจนหมด ก่อนกำหนด จึงทำให้ เหรียญเนื้อทองคำ เลขมงคลหมายเลข ๙ ในภาพนี้ มีราคาถึงหลักล้านไปแล้ว

มาถึงเรื่องปิดท้ายของ เสี่ยอู๋ เจ้าของร้านขายส่งข้าวสาร แถวพุทธมณฑล ซึ่งเป็นนักนิยมสะสมพระเครื่องขาใหญ่ในย่าน .....วันหนึ่ง กำลังกินข้าวกับครอบครัว ก็ปวดท้องอย่างแรงต้องนำส่ง รพ.ด่วน หมอตรวจแล้วบอกไส้ติ่งอักเสบ ก็ให้ยาแล้วนัดผ่าตัดวันรุ่งขึ้น ทันที

รุ่งเช้า เสี่ยอู๋ ไปถึง รพ.ตามหมอนัด พอชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันเสร็จแล้ว ก็เข้าไปนั่งยิ้มอยู่ในห้องตรวจ หมอมาถึงก็ยิ้มทักทาย แต่พอดูผลชั่ง นน.แล้ว หมอก็ทำหน้าเครียดถาม เสี่ยอู๋ ว่าไปทำอะไรมา แค่วันเดียว นน.ขึ้นตั้ง ๓ กก.

เสี่ยอู๋ ยิ้มแป้น บอกไม่ได้ไปทำอะไรมาหรอกครับ แต่เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้าน ผมตื่นเต้นที่จะต้อง ผ่าตัด เลยอาราธนาพระเครื่องที่ผมศรัทธามาด้วย เพื่อความสบายใจ.....แล้วเปิดอกเสื้อให้หมอดูพระเครื่องที่คล้องอยู่เต็มคอ บอกว่า ผมมั่นใจว่าพระจะช่วยคุ้มครองให้ผมผ่านการผ่าตัดได้อย่างปลอดภัยแน่ๆครับ

หมอฟังแล้วหัวเราะ บอกว่า แต่ครั้งนี้ขอให้เชื่อมือหมอก่อนดีกว่า ตอนนี้ให้ถอดพระออกให้หมดก่อนเลย ไม่งั้นหมอพาเข้าห้องผ่าตัดไม่ได้ .....เสี่ยอู๋ เลยต้องยอม เพราะหมอบอกว่า ถ้าไส้ติ่งแตกก่อน พระเครื่อง ๓๐ องค์ที่ระดมมา ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง