วิชาดูพระสมเด็จ ของครูตรียัมปวาย บางกรณีที่ท่านอธิบายถึงสี และผิว เมื่อท่านใช้คำว่า “วรรณะ” ต้องคิดตามท่านให้ทัน เพราะท่านจะแยกผิวเนื้อ และ วรรณะ ออกจากกัน

ในหัวข้อ ลักษณะเก่าเก็บ ครูบอกว่า คือพระที่ไม่ได้ใช้ หรือผ่านการสัมผัสจับต้องน้อยที่สุด ผิวเนื้อ และวรรณะของพระ จะแห้งผากไม่สดใส

และถ้าเป็นประเภทเนื้อหนึกนุ่ม จะมีวรรณะขาวนวลหม่นๆ หรือสีลานหม่น ส่วนประเภทหนึกแกร่ง วรรณะจะค่อนขาวนวล และหม่นน้อยๆ หรือสีก้านมะลิอ่อน หรือสีเทาอ่อนนวลๆ

วันนี้ ลองติดตามทำความเข้าใจ กับเรื่อง วรรณะของเนื้อสักวัน

วรรณะของเนื้อพระ เป็นส่วนที่แสดงความเก่าหรือความแท้ พร้อมกับเนื้อ ผิว และคราบ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นวรรณะที่เข้มคล้ำหรือขาวนวล ความสดใสของวรรณะเนื้อแท้ ย่อมมีความแตกต่างกับความสดใหม่ของวรรณะเนื้อปลอมอยู่เป็นอันมาก

เพราะวรรณะของเนื้อแท้นั้น ไม่ว่าจะมีลักษณะผุดผ่องสดใสประการใด ย่อมจะต้องกอปรด้วยความหม่นคล้ำ แฝงอยู่ด้วยเสมอ เนื่องด้วยเป็นวรรณะโดยธรรมชาติ ของวัสดุมวลสารต่างๆประการหนึ่ง

และอีกประการหนึ่ง วรรณะของเนื้อแท้ซึ่งถูกกลืนกินอยู่ด้วย กาลากาศ อันยาวนาน กว่าร้อยปี ย่อมส่งผลแตกต่างกับวรรณะของเนื้อประดิษฐ์ปลอมเป็นอันมาก

ยิ่งถ้าเป็นของปลอมที่พยายามแต่งสีสันวรรณะ เพื่อให้ดูคล้ำหม่นเพียงใด ก็ย่อมจะส่อพิรุธยิ่งขึ้นเพียงนั้น

เพราะของใหม่นั้น แม้จะมีวรรณะหม่นคล้ำประการใด แววความสดใหม่ของวรรณะ ย่อมจะซ่อนเร้นไว้ไม่พ้น

ในประการตรงข้าม วรรณะของของเก่า แม้จะสะอาดสดใสอย่างไร ก็ยังจะแฝงไว้ซึ่งความหม่นเก่าอยู่ตลอดเวลา

นี่คือบทเรียนที่ดูจะเป็นนามธรรม ถ้าไม่ได้ส่องพระแท้มามากพอ ก็จะทำความเข้าใจยาก พวกที่ถูกเรียกว่า “เซียน” ผ่านบทเรียนนี้แล้วทุกคน

...

วรรณะยังเป็นเครื่องบ่งชี้สำนัก ครูตรียัมปวาย บอกว่า วรรณะของผิวหนาๆ ซึ่งมีประกายเงาสว่าง ขาวใส ย่อมเป็นของบางขุนพรหม วรรณะของผิวแป้งโรยพิมพ์บางๆ และนวลๆ ซึ่งเรี่ยๆอยู่เหนือเนื้อที่มีวรรณะหม่นคล้ำ ย่อมเป็นของสำนักวัดระฆัง

วรรณะเลือดหมูซีดๆ แถมด้วยรักเก่า ซึ่งตกค้างอยู่ตามซอกๆ และในร่องเลขารัก ย่อมเป็นของวัดระฆัง

วรรณะของผิวก้านมะลิหรือเทาอ่อนนวลๆ ย่อมเป็นของบางขุนพรหม และวรรณะน้ำตาลไหม้ของคราบกรุ ซึ่งตกค้างอยู่ตามผิวหรือแทรกซึมอยู่ในเนื้อ ย่อมบ่งชี้ว่าเป็นบางขุนพรหม ฯลฯ เหล่านี้ เป็นต้น

ค่อยๆอ่าน ค่อยๆทำความเข้าใจ ยิ่งมีพระแท้ดูประกอบด้วยก็จะยิ่งดี นี่คือวิทยายุทธ์เซียนพระสมเด็จ บทที่ลึกซึ้งและซับซ้อนมากที่สุด

ครูท่านจำแนกวรรณะพระสมเด็จ ออกกว้างๆได้เป็น 12 วรรณะ พูดให้ง่ายๆ วรรณะก็คือสี

หลับตามโนตาม สีน้ำนม สีจำปี สีงาช้าง สีดินดิบ สีน้ำข้าว สีก้านมะลิ สีขี้เถ้า สีลาน สีมะกอกสุก สีเมล็ดพิกุล สีช็อกโกแลตอ่อน และสีพิกุลแห้ง

ทบทวนวิทยายุทธ์ของครูได้ที่แล้ว ลองพิจารณาพระสมเด็จวัดระฆัง ทรงเจดีย์ พิมพ์ชะลูด องค์ในคอลัมน์

ถ้าได้ดูภาพสี วรรณะองค์นี้ เหลืองสว่าง เหมือนสีมะกอกสุก ทั้งพิมพ์ทรงทั้งเนื้อหา ธรรมชาติทั้งด้านหน้าหลังครบถ้วน คนมีประสบการณ์น้อยอาจจะขยาด เพราะพิมพ์นี้ของปลอมทำออกมาใกล้เคียงมาก

แต่สภาพอย่างนี้ นี่คือพระสมเด็จวัดระฆังแท้ ที่ดูง่ายๆ ซึ้งตา ถือเป็นองค์ครูได้อีกองค์.

พลายชุมพล