สี่ห้าปีที่แล้ว พระกริ่งปวเรศฯเก๊สภาพเพิ่งแต่งเสร็จใหม่ๆ ไม่มีการทำสนิมให้เก่า ที่หาซื้อได้จากแผงพระราคา/2 ถึง 5 พัน เพื่อนพาเพื่อนมายื่นให้ดู ผมไม่ต้องเข้าแว่นก็บอกไปตรงๆ “ไม่ดี”

เจ้าของพระเปรยว่า เวลาเอาพระให้ใครดู มีคนบอกว่า “พระท่านดูคน” แล้วสำทับองค์นี้ มีคนให้แล้ว 20 ล้าน

เจอเข้าไม้นี้ นึกถึงประโยค “ขำกลิ้ง ลิงกับหมา” ไปน่ะซี

ปลงตกได้ ก็ถือว่าเป็นบทเรียน ไม่จำเป็นก็อย่าเผลอไปทำตัวเก่งดูพระให้ใคร แต่ประโยค “พระดูคน” ก็มีแง่มุมน่าสนใจ ผมขอเอามาใช้กับ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ในคอลัมน์วันนี้

ท่านมาฟอร์มใหญ่...ใส่ตลับทองฝังเพชร คนถือพระบอกว่า เอาไปให้เซียนดูแล้ว เซียนว่าเก๊

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงมาตรฐานคุ้นตา สภาพด้านหน้า เนื้อส่วนที่ถูกมือจับ ออกประกายเหลืองอมขาว ส่วนที่ลึกในซอกแขน และพื้นผนัง ผิวแป้งโรยพิมพ์จับหนา ฝ้าสีดำแกมน้ำตาลบางๆ เห็นความนุ่มนวลซึ้งตา

“ก้อนขาว” ก้อนใหญ่ขนาดเม็ดถั่วเขียว มุมซุ้มโค้งด้านขวา และก้อนขาวเล็กๆ อีกหลายก้อน บางก้อนจมอยู่ในชิ้นรักเก่าสีน้ำตาล เป็นหมดรับประกัน ประทับตรา ให้พระที่ดูง่าย ยิ่งเพิ่มความง่าย

พระสมเด็จวัดระฆัง ด้านหน้า สภาพที่ต้องใช้คำ “จัดจ๋า” ไปทุกมิติอย่างนี้ สำหรับคนเป็นพระ

ถ้าไม่แพงนัก ซื้อได้โดยไม่ต้องดูหลัง

ยิ่งได้เห็นด้านหลัง ริ้วรอยธรรมชาติ แบบหลังสังขยา ผสมรูพรุนปลายเข็ม รอยปริที่ขอบบางด้าน

หลังพระสมเด็จวัดระฆังอย่างนี้ เซียนพระบางคนคุยว่า ซื้อได้โดยไม่ต้องดูด้านหน้า

...

รวมความว่า ถ้าให้เป็นคะแนน ด้านหน้าเต็มร้อย ด้านหลังก็อีกเต็มร้อย พระสมเด็จที่ซึ้งตาทั้งพิมพ์ทรงเนื้อหา คราบไคลธรรมชาติ กลมกลืนไม่ขัดตา อย่างนี้ สำหรับผม คนนอกตลาดพระ นานๆปี จะมีโอกาสได้เห็นสักองค์

พระสมเด็จองค์นี้ มีที่มาดี มีคนเอามาใช้แทนหนี้หนึ่งล้าน ถือว่า เจ้าของเดิม และผู้เกี่ยวข้องก่อนหน้า เป็นคนเก่งเป็นคนดี...ดูพระแท้เป็น นี่ไง... พระท่านดูคนได้อย่างนี้เอง

แต่กับเซียน ที่เจ้าของปัจจุบันเอาไปให้ดูว่าเก๊...พระท่านก็ดูออกว่า ดูพระไม่เป็น หรือเป็นไม่จริง

ตั้งประเด็น พระดูคนแล้ว คนถือพระอยากพิสูจน์ให้เห็นจริง ถือพระเข้าตลาดพระใหญ่ มีอภิมหาเซียนคับคั่ง เรียกแบบนิยายกำลังภายในก็ได้ว่า ชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์

ใจหนึ่งก็อยากจะขายในราคา ที่ตั้งใจ ถ้าขายไม่ได้ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่า ชุมนุมที่ว่า มีพยัคฆ์มังกรซุ่มซ่อนอยู่มากน้อย

ร้านใหญ่มีชื่อชั้นร้านแรก ได้ยินราคาบอก “12 ล้าน” ก็แทบจะไม่ดู ถามว่า “บรรยากาศเศรษฐกิจอย่างนี้ ใครจะซื้อ” ร้านที่สอง ที่สาม ไม่ซื้อ ร้านสี่ห้า บอกข่าวให้เซียนใหญ่ หุ้นส่วนร้านพระที่โปรโมตว่า ซื้อสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซม 8-9 ล้าน ซื้อพระรอด 20 ล้าน...

ในฐานะเซียนใหญ่ เซียนที่เห็นพระก่อน เบิ้ลราคา เป็น 20 ล้าน งานนี้ถ้ามีการขายจริง เขาคงหวังส่วนแบ่งก้อนใหญ่ เซียนใหญ่รักษามาดเซียนใหญ่ ไม่ต่อราคา ส่องๆดูแล้ว ก็ไม่พูดอะไร

หรือ...“สถานการณ์ เป็นเช่นที่ว่า เศรษฐกิจอย่างนี้ บอกราคานี้ได้ยังไง” จริง

งานถือพระสมเด็จวัดระฆัง พิสูจน์เซียนเดินหน้าไป อีกหลายร้าน ร้านหนึ่ง แนะนำ ทำไม ไม่เอาพระลงไปขอใบเซอร์ (ใบรับประกัน) ข้างล่าง แสดงว่า เซียนรายนี้ ซื้อพระด้วยกลไกตลาดที่เขาตั้งใจตั้งไว้ ไม่ได้ใช้ตาตัวเอง

พูดให้เต็มปาก ที่ยืดอกวางท่าเซียนใหญ่ ขายพระแพงแสนแพงแล้ว เอาเข้าจริง ดูพระไม่เป็น

ร้านสุดท้าย ให้ความประทับใจที่สุด...เขาถามว่า ตลับทองคำฝังเพชร จะขายเท่าไหร่... ตีความได้ เขาดูว่าเป็นพระสมเด็จปลอม จึงไม่สนใจเลย

ที่เล่ามานี้ ร้านเซียนดังๆ ทั้งนั้น ไม่ระบุชื่อกันนะครับ ไม่อยากบาดหมางใจให้มากกว่านี้ จบงานนี้แล้ว ก็แน่ใจว่า ยี่ห้อชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์ ที่ระบือลือลั่นนั้น เป็นแค่ราคาคุย

และที่สำคัญ งานนี้พิสูจน์ว่า ราคาหลักหลายสิบล้าน ที่คุยกันนั้น เป็นราคาเซียนขาย แต่ราคาเซียนซื้อนั้น เป็นหนังคนละม้วน.

พลายชุมพล