ธรรมะ สนามพระวิภาวดี วันนี้ เป็นของ หลวงปู่แบน ธนากโร เจ้าอาวาสวัดดอยธรรมเจดีย์ อำเภอโคกศรีสุพรรณ สกลนคร พระกรรมฐานสาย หลวงปู่มั่น ซึ่งละสังขารไปแล้ว ด้วยอายุ91 ปี 72 พรรษา ท่านว่าไว้ดังนี้ “คนที่ดูแลพ่อแม่อย่างดี ไม่มีทางตกต่ำ แม้ตัวเองต้องรับกรรมที่ทำมา ก็จะมีบุญ มีคนช่วย เพราะความกตัญญูของเรา” ก็อย่างที่ผู้ใหญ่สอนกันมาว่า คนกตัญญู ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ นั่นเอง.....
ต่อเข้าเวทีพระ เริ่มด้วย พระที่ “ท่านผู้ชมขอมา” ว่าอยากดู จักรพรรดิพระเครื่ององค์ดังๆ ก็เลยงัดแฟ้มภาพพระเก่า นำ พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ กทม. ระดับ องค์ครู องค์ดัง ที่มีชื่อเรียก ว่า “องค์โรงเหล็ก” มาเอาใจกัน.....
ชื่อนี้มีที่มาจากเรื่องราวว่า เดิมเป็นพระในครอบครองของเซียนพระรุ่นใหญ่ลายครามเรืองนาม เจัาสัว นิยม อสุนี แห่งเมืองนครสวรรค์ นักนิยมพระเบอร์ใหญ่ใจถึง ผู้จุดประกาย การซื้อพระ แบบผ่อนส่ง แพงไม่ว่า แต่ขอจ่ายเป็นงวด.....
องค์นี้ ได้ชื่อเป็น พระสมเด็จ วัดระฆังฯ องค์งามสภาพสมบูรณ์สวยเดิม เด่น ด้วยการ ปิดทองที่แนบสนิทแบบเข้าผิวเนื้อ ที่ทำให้องค์พระดูงดงามดั่งมีแสงรัศมี โดนตาโดนใจเสี่ยใหญ่เจ้าของโรงเหล็ก ย่านสุขาภิบาล ต้องหอบ เงินสด ๑๔ ล้าน ไปขอซื้อถึงถิ่นสำเร็จ จึงเป็นที่เลื่องลือในฝีมือการเจรจา พระจึงได้ฉายา “องค์โรงเหล็ก” เพราะก่อนหน้านั้นไม่มีใครเชื่อว่า เซียนใหญ่ จะยอมขาย .....
...
ตามมาด้วย พระหูยาน พิมพ์ใหญ่ หน้ายักษ์ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.ลพบุรี อีกองค์ของ “โป่ยเสี่ย” ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ ที่ส่งเข้าประกวดงานศรีนครพร้อมกัน กับองค์แชมป์ที่ลงภาพให้ชมอาทิตย์ก่อน.....
ตอนนั้น เล่ากันว่า กรรมการปวดหัว กว่าจะตัดสินใจให้องค์นี้ติดรางวัลที่ ๒ เพราะเหตุ ปลายพระนาสิก มี รอยสัมผัสผิว ให้เห็นนิดนึง สังเกตเห็นได้จากในภาพที่ถ่ายใหม่.....
ถึงเวลาจะล่วงเลยมาเกือบ ๕๐ ปี องค์พระก็ยังอยู่ในสภาพเดิมแบบ ๑๐๐% เพราะได้รับการเก็บรักษาอย่างรู้คุณค่า นิมนต์องค์ท่านจำวัดในตลับทองปิดสนิท แบบนานทีปีหนจึงจะได้มีโอกาสเปิดให้ได้สัมผัสอากาศ เป็นการเล่นหาสะสมพระเครื่องอย่างรู้คุณค่าในเชิงอนุรักษ์ ทั้งพุทธคุณและพุทธพาณิชย์.....
ต่อด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ไสยาสน์ วัดใหม่อมตรส (บางขุนพรหม) กรุงเทพฯ พระดีพรีเมียม นัมเบอร์ ๑ ของ พระพิมพ์ไสยาสน์ กรุบางขุนพรหม ที่เป็น พิมพ์พบน้อยที่สุด แค่หลักสิบ ส่วนใหญ่เป็นพระชำรุดหย่อนความงาม มีองค์ที่สมบูรณ์พองามไม่กี่องค์.....
และองค์นี้ สมบูรณ์งดงามเป็นที่สุด จนวัดประทับ ตราองค์พระเจดีย์ (หมึกม่วง) ที่ด้านหลัง เป็นพิเศษ ถึง ๓ ตรา และออกให้บูชาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ ใน ราคาเท่า พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ จนเป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย.....
พระอยู่ในครอบครองของอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย พิศาล มูลศาสตร์สาทร เป็นพิมพ์พระที่ผู้นิยมสะสมพระกรุบางขุนพรหม แบบครบพิมพ์ แสวงหากันมาก เพราะขาดไปก็ไม่ครบพิมพ์ แต่ก็ยากที่จะหาได้ เพราะจำนวนพระมีแค่หลักหน่วย วันนี้มีภาพองค์แชมป์ ๑ เดียวของกรุองค์นี้ ออกมาให้ชมกันอีกครั้ง ในชื่อของ เฮียวิวัฒน์ อุดมกัลยารักษ์ คนดีและมีฝีมือแม่น.....
รายการต่อไปเป็น พระกริ่งพรหมมุนี พ.ศ. ๒๔๖๐ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทว) วัดสุทัศนเทพวราราม กทม. .....
เล่าแล้วเล่าอีกได้ ว่า พระกริ่ง เป็นรูปจำลอง องค์พระไภษัชคุรุ ๑ ใน ๓ พระพุทธเจ้า ที่ได้รับการเคารพนับถือสูงสุดในพุทธศาสนิกชน ลัทธิมหายาน--ประกอบด้วย พระไภษัชคุรุพุทธเจ้า พระศรีศากยะมุนีพุทธเจ้า (ปัจจุบัน) และ พระอมิตาภพุทธเจ้า.....
พระไภษัชฯ ได้รับการเชื่อถือเป็น “พระหมอ” ผู้ชนะโรคภัย กำจัดภัยพิบัติ จึงนิยมนำมาสร้างเป็นองค์จำลองใช้บูชาติดตัว ทั้งในประเทศจีน ทิเบต เวียดนาม เขมร และไทย ที่มีตำรับวิชาสร้างสืบทอดมาจาก สมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว ต่อไปถึง สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส และ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมพระยาปวเรศฯ และ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (มา) วัดจักรวรรดิ.....
ถึงสุดท้ายที่ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระเทพโมลี ซึ่งท่านได้สนใจศึกษาอย่างลึกซึ้ง ด้วยประจักษ์ในอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระกริ่งในด้านรักษาโรค ตอนท่านเป็นที่ พระศรีสมโพธิ์ และได้เห็น สมเด็จพระวันรัต (แดง) พระอุปัชฌาย์ที่อาพาธด้วยโรคอหิวาต์ แล้ว สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ทรงเอาพระกริ่งมาอธิษฐาน แช่ทำน้ำพระพุทธมนต์ นำให้ สมเด็จพระวันรัต ฉัน โรคก็คลายหายเป็นปลิดทิ้ง.....
...
ทำให้ท่านสนใจศึกษาตำราพิธีกรรมพิธีการฤกษ์ยามสร้างพระกริ่ง ตามตำรับวิชาดังกล่าว และได้เริ่มสร้าง พระกริ่ง มาแต่ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระเทพโมลี เรื่อยมาเป็นประจำทุกปี จำนวนไม่มากนัก กำหนดชื่อรุ่นตามสมณศักดิ์ที่ครองอยู่ในปีที่สร้าง.....
อย่างองค์นี้ เป็นพระกริ่งที่สร้างขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมมุนี ช่วงปี พ.ศ.๒๔๖๐-๒๔๖๕ โดยใช้ พระกริ่งใหญ่ เป็น ต้นแบบ เนื้อพระเป็นโลหะผสมนวโลหะ สีนากกลับขาว แล้วกลับดำสนิท เทหล่อแบบกริ่งในตัว พบทั้งที่อยู่ในสภาพเดิมและที่มีการตบแต่ง อย่างองค์นี้ของ ปลั๊ก สายฟ้า เป็นองค์ที่ได้รับการตบแต่ง งดงามเป็นพิเศษตลอดองค์มาแต่เดิม ด้วยฝีมือช่างชั้นสูง เป็นพระกริ่ง ๑ ในรุ่นมาตรฐานของ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ที่มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมสูง ราคาองค์งามๆแบบนี้ ปัจจุบันอยู่ที่หลักล้านกลาง ถึงปลาย.....
สำนักต่อไป มาจาก วัดท่าลาดเหนือ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่ง หลวงปู่จีน สร้าง พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก พิมพ์ไม้ค้ำเกวียนใหญ่ ไว้เป็นมรดกของวัด.....
องค์นี้แนะนำให้ดูเน้นๆ จดจำพระพิมพ์ดั้งเดิม มีความ คมลึกแบบสุดพิมพ์ ซึ่งแม้องค์รวมดูไม่งดงามนัก เพราะเป็นแม่พิมพ์ฝีมือชาวบ้าน แต่ก็ใช้เป็น ต้นแบบ พิจารณาพระแท้ได้อย่างชัดเจน .....
ทั้ง พิมพ์พระ ที่ได้รับความนิยมเป็นพิมพ์มาตรฐานโบราณยุคแรกๆ และ เนื้อพระสีน้ำตาลแกมดำ ละเอียด แน่น แบบที่เรียกว่า เนื้อกะลา เป็น เนื้อพระปิดตาสูตรเด็ด ของ พระปิดตาสายภาคตะวันออก ที่มี หลวงปู่จีน เป็นต้นตำรับ ถ่ายทอดถึง หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ สืบต่อเป็น เนื้อพระปิดตา ๕ เสือเมืองชลฯ.....
...
ปัจจุบัน พระแท้ดูง่าย เนื้อจัด สภาพองค์สมบูรณ์สวยเยี่ยมอย่างองค์นี้ ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี หาชมได้ยากมากไม่แพ้พิมพ์นิยมเบอร์ต้น อย่าง แข้งหมอนใหญ่ แต่ราคายังห่างพอจ่ายไหว น่าสนใจมาก.....
อีกรายการเป็น เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๔ เนื้อทองแดงรมดำ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ๑ ใน ๕ เหรียญชุดเบญจภาคี พระเกจิอาจารย์ ยุคสงครามอินโดจีน.....
เหรียญนี้ก็ของ “โป่ยเสี่ย” ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ และก็เป็นเหรียญแชมป์ จากงานศรีนคร ที่แม้เวลาล่วงเลยมาเกือบ ๕๐ ปี ก็ยังไม่มีเหรียญใดมีความงามสมบูรณ์รมดำเดิมๆ เต็มร้อยเทียบเทียมได้ ประเมินราคาตามคุณภาพ อยู่ที่หลักหลายๆ ล้านเชียว.....
อีกเหรียญเป็น เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๒ เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง บล็อก ๒ ชาย ครูบาเจ้าศรีวิไชย วัดบ้านปาง อ.เมือง จ.ลำพูน เหรียญพระเกจิอาจารย์ยอดนิยมสูงสุดของเมืองเหนือ สร้างมอบสำหรับผู้เข้าร่วมพิธี งานสวดพระอภิธรรมศพ ท่านครูบาเจ้าศรีวิไชย ณ วัดจามเทวี เมื่อวันที่ ๒๑ มี.ค.๒๔๘๙ .....
...
มี ๓ แบบพิมพ์คือ ๑.เหรียญรูปทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เนื้อเงินลงยา แจกกรรมการ ๒.เหรียญทรงกลมรูปไข่ มี ๒ บล็อก คือ ๒ ชายกับ ๓ ชาย มอบผู้ร่วมงานพิธี ที่ร่วมบริจาคทรัพย์๒๕ สต.-๑ บาท ก็หยิบเหรียญในพานที่ตั้งอยู่หน้าหีบศพ ได้ ๑ เหรียญ.....
ลักษณะเป็น เหรียญปั๊ม ทรงกลมรูปไข่ ด้านหน้าเป็นแอ่งกระทะ ปรากฏรูปหลวงพ่อครึ่งองค์ ห่มผ้าคลุมไหล่ ประสานมือถือประคำ (ภาพถ่ายที่วัดศรีโคมคำ พ.ศ.๒๔๖๖) ข้างเหรียญมีอักษรไทย บอกนาม ด้านล่างบอกปี พ.ศ.สร้าง ๒๔๘๒.....
ด้านหลังกลางเหรียญบนเป็นยันต์ ๕ ด้านล่างเป็นอักขระพระคาถา ๔ แถว แบบเดียวกับ เหรียญหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ พ.ศ.๒๔๘๒ เหรียญ ชินวรสิริวัฒน์ วัดราชบพิธ พ.ศ.๒๔๘๑ หลวงพ่อคงวัดบางกะพ้อม พ.ศ. ๒๔๘๔.....
แม่พิมพ์เหรียญมี ๒ บล็อก คือ แบบ ๒ ชาย กับ ๓ ชาย (นับเส้นขีดที่ข้อมือซ้าย) เนื้อเหรียญมี ทองแดง เงินฝาบาตร กะไหล่เงินทอง อย่างนี้ของ เสี่ยเพชร-อิทธิเชาวลิตธำรง.....
อีกสำนักเป็น พระขุนแผน ผงพรายกุมาร บรอนซ์ทอง หลังยันต์ ๕ ไม่มีตะกรุด หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย ระยอง.....
สร้างขึ้นตามตำรับวิชาอาถรรพณ์ และท่านบอกกรรมการที่มาขออนุญาตจัดสร้าง เพื่อหารายได้บูรณะวัด ว่า สร้างทั้งทีต้องให้มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์จริง.....
คือ สร้างด้วย ผงพรายกุมาร ที่ทำจากกะโหลกทารกตายทั้งกลม วันเสาร์ เผาวันอังคาร ปลุกเสกกำกับ ด้วยพระคาถาบูชาคุณพระรัตนตรัย โดยครอบครูให้ศิษย์ ซึ่งเป็นสัปเหร่อของวัด รับหน้าที่สืบหาและไปนำมามอบให้ท่าน ประกอบพิธีทำผงสร้างพระ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๕.....
เป็นพิมพ์พระสิวลี พิมพ์พรายเดี่ยว พิมพ์พรายคู่ พิมพ์รูปเหมือนเศียรโต พิมพ์รูปเหมือนเศียรเล็ก พิมพ์ขุนแผนเล็ก และพิมพ์ขุนแผนใหญ่ อย่างองค์นี้ของ เสี่ยเพชร–อิทธิ ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมบล็อกแรก เนื้อละเอียด .....
ถัดไป รู้สึกดีใจด้วย เพราะหลายปีมานี้ แทบไม่มีใครพิมพ์หนังสือพระออกเลย เพราะต้นทุนสูง และอาจจะถูกกระแสดิจิทัลกลบความสำคัญของการเปิดสิ่งพิมพ์ เพราะเสิร์ชจากเน็ตได้ .....
แต่ขอบอกว่า สำหรับวงการพระ ดูรูปพระจากเน็ต ยังไงก็ ไม่มัน เท่าเปิดหนังสือดู.....
พอ ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช จัดทำหนังสือ Top 100 คัมภีร์พระหลวงพ่อทวด เพื่อนักลงทุน โดยรวมพระแชมป์พระหลวงพ่อทวดมูลค่ากว่า ๒๐๐ ล้านบาทในเล่ม ก็ขอบอกกล่าวให้ท่านผู้ชมเก็บไว้เถอะ.....
สำหรับ ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ ศาสตราจารย์คนแรกของวงการวิศวะ เป็นที่ร่ำลือกันถึงความศรัทธาในหลวงพ่อทวด จน ยอมเทขายหุ้น เช่าพระหลวงพ่อทวด จึงได้ฉายาว่า “เจ้ากรมพระหลวงพ่อทวด”.....
ท่านกล่าวว่า “พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เป็นพระมหาชน เป็นรองก็แค่พระสมเด็จวัดระฆัง ด้วยพุทธคุณ ประสบการณ์แคล้วคลาดที่เลื่องลือ และจำนวนพระเครื่องที่มีจำกัด ไม่มีการสร้างเพิ่ม แต่มีผู้นิยมสะสมและศรัทธาเพิ่มมากขึ้น ราคาหลักร้อย จึงกลายเป็นหลักล้าน มูลค่าเพิ่มมากกว่าราคาหุ้นและที่ดิน จึงเป็นที่มาของการ ขายหุ้น เช่าพระหลวงพ่อทวด.....
ท่านจึงสะสมมา ๒๐ ปี ส่งประกวดพระ จนมีพระหลวงพ่อทวดองค์แชมป์มากที่สุดในไทย จึงนำมาเรียบเรียง ประวัติ และเคล็ดลับวิธีการดูพระแท้ จากประสบการณ์นับสิบๆปี เป็นหนังสือ “หนังสือ Top 100 คัมภีร์พระหลวงพ่อทวด เพื่อนักลงทุน โดย ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช” ถือเป็นคัมภีร์พระหลวงพ่อทวด เล่มใหญ่และหนาที่สุดเล่มหนึ่ง ที่รวมพระองค์แชมป์ไว้มากที่สุด.....
หนังสือชุดนี้ ใช้เวลาจัดทำเกือบ 3 ปี มี 2 เล่ม เล่มแรก รวมสุดยอดเนื้อว่าน พระหล่อ พระปั๊ม” หนาเกือบ 450 หน้า เล่มที่สองหนากว่า 500 หน้า รวมพระแชมป์หายาก หาซื้อได้ที่ร้านเอเชียบุ๊ค ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด และร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือโทร. 09-2661-9099, 09-7220-6514 หรือ Line : @top.amulets (มีเครื่องหมาย @) หรือ orh0919.....
บอกลากันด้วยเรื่องปิดท้าย ของ เสี่ยคำนึง พ่อค้าขายส่งอาหารทะเล ซึ่งเป็นนักนิยมเล่นหวยแบบเข้าสายเลือด ทุกครั้งที่ตระเวนรับส่งอาหารทะเลก็จะแบ่งเวลาวิ่งหาเลขเด็ดมาซื้อหวยไปด้วยทุกครั้ง ซึ่งก็มีถูกบ้าง ผิดบ้าง .....
ถึงเมื่อ “ไอ้ไข่” มีชื่อเสียงว่าให้หวยแม่น เสี่ยนึง ก็ไม่ยอมพลาด วัดไหน ที่ไหนมีสร้างไอ้ไข่ ก็ขับรถไปถึงทุกที่เช่าบูชา หาเลขมาซื้อหวย โดยไม่ได้คำนึงถึงต้นทุน เพราะก็มีถูกคุ้มทุนอยู่หลายงวด.....
กำลังอินกับ ไอ้ไข่ วันก่อนก็เลยฝันเห็น ไอ้ไข่ มาหา ตื่นเช้า จึงรวบรวมเลขเด็ด “ไอ้ไข่” ทุกสำนักทั่วประเทศ ทุ่มซื้อแบบหวังผล ไปเกือบ ๓ แสน หวังจะได้ลาภมาเปิดกิจการร้านอาหารทะเลเป็นของตัวเอง.....
ทุ่มไปแล้ว ก็นั่งรอด้วยความหวังเต็มเปี่ยม ยิ้มแย้มพูดคุยกับลูกเมียอย่างมีหวัง แต่พอถึงวันหวยออก ก็ผิดหวังอย่างแรง นั่งเงียบ ซึมจนลูกเมียเป็นห่วง ก็พูดปลอบ ไม่เป็นไรหรอกเฮีย ถูกแค่เจ๊าหรือขาดทุนนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวส่งของก็ได้เงินคืน งวดหน้าค่อยลุ้นใหม่ก็ได้.....
เสี่ยนึง หน้าเครียด บอกเมียว่า งวดหน้าก็ไม่มีหวังแล้ว เพราะงวดนี้ซื้อตั้งเยอะไม่ถูกซักตัว ไม่มีทุนซื้อของขายแล้ว ลูกชายดูเหตุการณ์อยู่ จึงเดินเข้าไปพูดกับพ่อว่า ไม่เป็นไรหรอกพ่อ “ไอ้ไข่” ให้หวยไม่ถูก แต่เรายังมีทุน.....
เพราะพ่อซื้อ “ไอ้ไข่” ไว้ทุกสำนัก หลายรุ่นราคาดี ขายไปก็กำไร ได้ทุนคืนเจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง