สนามพระ อาทิตย์นี้ เชิญคำสอนของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มาว่า “ความพอ” เป็นสิ่งหายากในหมู่คน “โลภ” “ความนิ่ง” เป็นสิ่งหายากในหมู่คน “โกรธ” “การหยุด” เป็นสิ่งหายากในหมู่คน “หลง” ธรรมะเท่านั้น ที่ช่วยท่านได้.....
พระเครื่องวันนี้ เริ่มที่ พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ กทม. ซึ่งเปิดกรุภาพพระเก่า นำภาพพระสมเด็จ “องค์ครู” ที่มีชื่อเสียง ดี เด่น ดัง สมญานาม เป็นเกียรติว่า “องค์เสี่ยดม” ตามชื่อผู้นำพระเข้าสู่วงการ ตามเสียงเรียกร้องจากแฟนคอลัมน์ รุ่นใหม่อยากเห็น มาให้เห็นตามคำขอ.....
เห็นทีไรก็ชื่นตา เพราะเป็นองค์ที่ได้รับการยอมรับยกย่องเป็น พระสมเด็จฯ ระดับท็อป ๑๐ วงการ.....
ประวัติสั้นๆ ว่าองค์นี้เดิมเป็นพระของ เสี่ยก้อนหน่ำ แซ่ใช้ (นักนิยมพระสมเด็จฯสายตรง ตัวจริง ยุคแรกของวงการ) ซึ่งเล่นพระแบบเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่บ้าน เพราะยังไม่มีสนามพระ ใครมีพระดี ต้องเอาไปให้ดูที่บ้าน.....
ถึงยุคมีสนามพระเป็นแหล่งชุมนุมซื้อขายแลกเปลี่ยน พระองค์นี้จึงเปลี่ยนมือมาอยู่กับ “เสี่ยดม” อุดม กวัสราภรณ์ นักนิยมพระสมเด็จรุ่นถัดมา พอนำเข้าเผยแพร่ในวงการก็สร้างความฮือฮา เพราะพระสมบูรณ์งดงาม หาองค์เทียบยาก จึงเรียกชื่อ กันติดปาก ว่า องค์เสี่ยดม ถึงปัจจุบัน.....
...
ล่าสุดข่าวว่า ถูกนิมนต์จำวัดนิ่งสนิท อยู่ในรังพระใหญ่ย่าน ซ.ทองหล่อ ถึงทุกวันนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหว เห็นภาพแล้วก็ต้องยอมรับว่า เป็นพระพรีเมียมเลอค่า สมราคา ที่ประมาณกันว่า หลายสิบล้าน.....
องค์ที่สอง คือ พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ กรุวัดนางพญา อ.เมือง จ.พิษณุโลก ๑ เดียวในสกุล พระนางพญา ที่นักนิยมพระเครื่อง แสวงหา เล่นเป็น พระพิมพ์กลาง เพราะขนาดที่ย่อมกว่า พระพิมพ์ใหญ่ แต่ก็ ใหญ่กว่า จะจัดเป็น พระพิมพ์เล็ก.....
ช่วงเวลาหนึ่งที่พระในหมวด พิมพ์ใหญ่ อย่าง พิมพ์เข่าโค้ง พิมพ์เข่าตรง พิมพ์อกนูนใหญ่ หายาก ขาดแคลน ประมาณว่า หมดตลาด ราคาก็วิ่งขึ้นสูง ไหนค่าทองคำทำตลับใส่ก็แพง นักนิยมพระส่วนใหญ่ จึงหันมาแสวงหาพระพิมพ์นี้ ที่ราคาพอจ่ายไหว ทำตลับทองใส่สู้ได้.....
แต่มาถึงวันนี้ก็เริ่มหายาก ขาดตลาดอีกแล้ว พระแท้ดูง่าย สภาพสมบูรณ์ สวยเดิม อย่างองค์นี้ของ เสี่ยก้อง พระสมเด็จ ราคาขยับขึ้นสูงถึง หลักมากแสน เชียว ใครเห็นแล้วชอบ ต้องรีบตัดสินใจ.....
องค์ที่สาม เป็น พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๗ ชั้น (นักเลงโต) วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง พระนอกพิมพ์มาตรฐานที่ค้นพบได้คราวเดียวกับ พระ ๓ พิมพ์นิยม.....
ได้ชื่อเรียก ก็ฟังเท่ ตามยุคสมัย ที่สิ้นสงคราม ก็เกิดแฟชั่นชายชาตรี สวมเสื้อปลดกระดุม เปิดอก พับแขน เดินวางก้าม กางข้อศอกก๋า อย่างที่เรียกว่า นักเลงโต ตรงกับลักษณะพิมพ์พระนี้เป๊ะ ทำให้ได้ชื่อเรียก “พิมพ์นักเลงโต หรือ พิมพ์นักกล้าม”.....
เป็นพิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูง แสวงหากันมากมาก่อนพิมพ์มาตรฐานซะอีก ถึงเมื่อมีการกำหนดพระ ๓ พิมพ์มาตรฐาน ความนิยมจึงกลับมาเป็นรอง แต่ก็ยังเป็นพิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูง มีพระแท้ดูง่ายสภาพกำลังใช้กำลังโชว์อย่างองค์นี้ของ เสี่ยตะวัน โบร์ดาร์ด เข้าสนามเมื่อไร ก็เมื่อนั้น มีคนมานิมนต์ไปแน่นอน.....
ต่อไป เป็น พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก พิมพ์ตะพาบ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เห็นแล้ว ไม่พูดมาก เจ็บคอ เพราะตอกย้ำความเป็นนักนิยมพระเครื่องคุณภาพ ยี่ห้อ พระคุณลุง กับพระดีทีเด็ด มาให้ชมกันแบบต่อเนื่อง.....
ครั้งนี้เป็น พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม พิมพ์ตะพาบ เนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก สภาพสมบูรณ์สวยเยี่ยมแท้ดูง่าย ไร้เทียมทาน ด้วยพิมพ์พระที่ชัดลึก ทุกจุดตำหนิ มีให้เห็นด้วยตาพิจารณาเป็น “องค์ครู” ได้สบาย.....
เนื้อรักเคลือบองค์แห้งเหี่ยวย่นเต็มร้อย บอกอายุถึงยุค เนื้อในอุดมด้วยมวลสาร ส่วนผสมตามตำรับวิชา ที่มีบันทึกไว้ว่า หลวงปู่เอี่ยม สร้างด้วยผงวิเศษ ที่ได้จากการรวบรวมผงอาถรรพณ์ อันเป็นสิริมงคลหลายประการ.....
ผสมกับผงเกสรดอกไม้ ว่านยา สมุนไพร โดยมีมวลสารหลักคือ ผงโสฬส กับ ผงไตรสร-ณาคมน์.....
...
โดย ผงโสฬส ท่านเขียนเป็น ยันต์รูปสี่เหลี่ยม ลงอักขระ เลขยันต์ซ้อนกัน ๓ ชั้น ชั้นแรกเป็น ยันต์โสฬส อยู่รอบนอก ยันต์ตรี-นิสิงเห อยู่ขั้นกลาง และยันต์จตุโร อยู่ชั้นในสุด.....
เป็น ผงพระพุทธคุณ ที่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ มีคุณวิเศษเป็นสิริมงคลสูง ท่านใช้เป็นมวลสารหลักในการสร้างพระปิดตาของท่านทุกพิมพ์ มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ปรากฏ เป็นอัศจรรย์กับผู้ใช้บูชา แบบครอบจักรวาล ทำให้พระปิดตาของท่านได้รับความนิยมเป็น ๑ ใน ๕ พระปิดตาเนื้อผงของแผ่นดิน ที่มีราคาค่าความนิยมอยู่ที่ หลักล้านต้นถึงกลาง ตามสภาพ ความไฉไล.....
ถัดไป เป็น พระปิดตากรมหลวงชุมพรฯ เนื้อผงคลุกรัก พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ ชัยนาท ซึ่ง พล ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรส ร.๕ ในเจ้าจอมมารดาโหมด มีความศรัทธาเลื่อมใส สนใจศึกษาวิชาพุทธาเวทย์ ไสยเวทย์ วิชาแพทย์สมุนไพร เดินทางไปเป็นศิษย์เรียนสรรพวิชากับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า.....
...
สำเร็จแล้ว ยังได้เรียนวิชาเพิ่มเติมกับ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว และพระเกจิอาจารย์ในยุคสมัยอีกมาก กล่าวได้ว่ามีพระเกจิฯ เก่งวิชาพลังจิตแก่กล้าที่ไหน พระองค์จะพากเพียรไปขอเรียนวิชาเพิ่มเติม.....
โดยได้จัดพิธีไหว้ครูขึ้นทุกปี โดยแบ่งจัดงานพิธีเป็น ๓ วัน คือ ๑.ไหว้ครูหมอยา ๒.ไหว้ครูมวย ๓.ไหว้ครูไสยศาสตร์.....
ถึงเมื่องานพิธีไหว้ครูเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๒ จัดพิธีใหญ่ เสร็จงานพิธีแล้ว หลวงปู่ศุข เกสโร ในฐานะพระอาจารย์ประธานสงฆ์ในพิธี ได้แจก พระปิดตา ๓ แบบ ที่สร้างปลุกเสก คือ ๑.พระปิดตาสมาธิเพชร เนื้อผงคลุกรัก ทรงสามเหลี่ยมลบมุมขนาดเล็กเท่าใบมะขาม แจกเฉพาะเจ้านายชั้นสูง ๒.พระปิดตาห้าเหลี่ยม เนื้อตะกั่ว แจกข้าราชบริพารผู้ร่วมงานทั่วไป ๓.พระปิดตา หลวงปู่ศุข พิมพ์แจกแม่ครัว แจกแม่ครัวที่มาช่วยงาน.....
...
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อข้าราชบริพารได้รับพระแล้ว มีการลองฟันกันด้วยมีดดาบทันที พอว่าไม่มีผู้ใดได้รับบาดแผล ก็เป็นที่เลื่องลือสืบมา ทำให้พระนี้ได้รับความนิยมสูงขึ้นๆ จนจัดเป็น ๑ ใน ๕ พระชุดจิ๋วยอดนิยม ถึงปัจจุบัน--พระแท้สภาพสมบูรณ์สวยเดิมแบบองค์นี้ ของ เสี่ยศิริพงษ์ วรอภิญญาภรณ์ ฟังว่าอยู่ที่ หลักแสนกลางถึงปลาย มานานแล้วนะ.....
ตามมาด้วย เหรียญยันต์สวน ๑ เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๕๓ หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดรางหมัน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงเกียรติคุณสูงสุดองค์หนึ่งของเมืองนครปฐม.....
ท่านมีชื่อเสียงแพร่หลายอย่างมากใน ยุคจตุคามรามเทพ เฟื่องฟู ทุกรายการจัดสร้างในเขตเมืองนครปฐมและใกล้เคียงต้องมีชื่อท่านปรากฏ ขนาดมีคำกล่าวว่า วัตถุมงคลรุ่นใด ไม่มีชื่อท่านร่วมพิธี วัตถุมงคลรุ่นนั้นจะไม่ได้รับความ นิยม.....
ท่านเกิดเมื่อปี ๒๔๖๖ ที่ราชบุรี อุปสมบท ปี ๒๔๘๖ ณ วัดหนองปลาไหล อ.กำแพงแสน นครปฐม มี พระอธิการหว่าง เจ้า-อาวาสเป็นพระอุปัชฌาย์ เรียนพระธรรมวินัยได้ชั้นนักธรรมเอก มาอยู่จำพรรษารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดรางหมัน เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๑ พัฒนาวัด จนมีความเจริญรุ่งเรืองมั่นคงมาถึงปัจจุบัน .....
ตลอดอายุ ท่านสร้างพระเครื่อง วัตถุมงคล ออกหารายได้พัฒนาวัด หลายรุ่นมีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูง อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยพ๊อต นครชัยศรี เป็น เหรียญยันต์สวนรุ่น ๑ เนื้อทองคำ สร้างเป็นพิเศษ จำนวน ๒๔ เหรียญ ตอกโค้ดชื่อ หมายเลขกำกับ เหนือสังฆาฏิ .....
เหรียญนี้เป็นหมายเลข ๙ เป็นเลขมงคลแห่งยุคสมัย สภาพเหรียญสมบูรณ์งดงามเต็มร้อย แบบแกะกล่อง เป็นที่คาดหมายได้ว่า จะเป็นเหรียญรุ่นนิยมหลักรุ่นหนึ่ง ที่จะมีราคาเท่าทวีคูณตามวันเวลา.....
ต่อไปขอเสนอพระราหู กะลาแกะ หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ของ เสี่ยทราย เมืองตรัง ซึ่งมี ตะกรุดไม้ไผ่ ร้อยเชือกมงคล ติดมาด้วย เสริมให้ดูมีความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์.....
พระราหู เนื้อกะลาตาเดียวแกะ รูปทรงมาตรฐาน ศิลปะการแกะละเอียด คมชัด ลายมือจารเต็มด้านหลังครบสูตร ถูกต้องตามตำราแบบนี้ โบราณาจารย์บอกว่าใช้บูชาเสริมดวงชะตา ป้องกันคุณไสย เสนียดจัญไร ได้ชะงัด เป็นเครื่องรางยอดนิยม สภาพสมบูรณ์สวยเยี่ยมแบบนี้ ราคาสูงถึง หลักแสน เชียว.....
สุดท้าย เป็น เขี้ยวเสือแกะหลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ของ เสี่ยพิทยุตม์ สุนทรกลันต์ ซึ่งก็ไม่ธรรมดา ส่งภาพ พร้อมใบเซอร์สมาคมพระเครื่องฯ บอกปีสร้างระหว่าง พ.ศ.๒๔๒๐-๒๔๓๕.....
เป็น เขี้ยวเสือกลวง แกะเต็มเขี้ยว ๑ ในฝีมือช่างมาตรฐาน ตากลมแป๋ว หูเจาะทรงกลม เป็นจุด สังเกต เก๊-แท้ เข้า ตำรา เขี้ยวโปร่งฟ้า ยันต์กอหญ้า ตา ลูกเต๋า เนื้อเขี้ยวแห้ง แตกสีน้ำผึ้งนวลตา ทั่วตัวลงอักขระลายมือครบสูตร .....
ใต้ฐานเป็นลายมือ จารยันต์ กอหญ้า ที่ใช้เป็นอีกจุดสำคัญ ในการพิจารณา ราคาค่าความนิยมตัวงามๆ สภาพเยี่ยมๆ มีใบเซอร์ การันตีแบบนี้ฟังว่าอยู่ที่ ล้านบวกลบ .....
บอกลาด้วยเรื่องปิดท้าย ของ เสี่ยจิมมี่ เจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นนักเล่นการพนัน นอกเวลางานต้องเข้าบ่อน เพราะเชื่อมั่น ในของขลังของศักดิ์สิทธิ์ที่เสาะหามาเป็นตัวช่วย ทำให้เล่นได้มากกว่าเสีย.....
ปลายปีก่อน พรรคพวกแนะนำให้รู้จักหมอดู ที่มีวิชาดูทิศทางฤกษ์ยาม ทำให้เล่นได้ไม่มีเสีย เสี่ยจิมมี่ ลองทำตามก็ได้ผล ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาเล่นไม่เป็นอันทำงาน ได้เงินมานับล้าน เกิดคิดการใหญ่ บินไปเล่นที่ลาสเวกัส โดยไม่บอกอาจารย์ ไปถึงแล้ว ให้อาจารย์บอกฤกษ์ยาม ทิศที่นั่งทางไลน์ ก็ปรากฏว่าเล่นเสียหมด หมดตัวทั้งเงินเฮงที่เล่นได้จากเมืองไทย และเงินทุนที่เตรียมไปให้เมียช็อปปิ้ง .....
กลับถึงเมืองไทย รีบไปต่อว่าอาจารย์ว่าดูฤกษ์ยามทิศที่นั่งยังไงทำให้เล่นเสียหมดตัว อาจารย์ก็แย้งว่าดูทุกอย่างถูกต้องตามตำราเป๊ะๆแล้ว ไม่น่าพลาด สงสัยเสี่ยไปทำอะไรไม่ดีให้ดวงซวยรึเปล่า เสี่ยจิมมี่ ยิ่งโกรธ บอกไปเล่นที่ลาสเวกัส จะไปทำอะไรให้ดวงซวยได้ อาจารย์ฟังแล้วร้องอ๋อ บอกรู้แล้วทำไม
เล่นเสีย ก็เพราะลื้อดันถ่อไปเล่นถึงเมืองนอก แต่ไม่ยอมบอก แล้วที่เวกัสกับเมืองไทย เวลาต่างกันเกือบ ๑ วัน เล่นอยู่ทางโน้น อาจารย์นั่งดูฤกษ์ยามอยู่ทางนี้ แล้วเวลาจะแม่นไหมอ่ะ--เสี่ยจิมมี่ ก็เลยยอมจำนนได้แต่ทำใจ ไม่เล่นเสียมากกว่านี้ก็บุญโขแล้ว เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง