หลักพื้นฐานของการดูพระสมเด็จวัดระฆัง...องค์ที่เนื้อเกลี้ยงเกลาทั่วไป พิมพ์ทรงถูกต้อง เนื้อเก่าสมอายุ แต่ในกรณีองค์ในคอลัมน์วันนี้ พิมพ์ใหญ่ แม่พิมพ์มาตรฐานคุ้นตา เนื้อขาวขุ่นสึกช้ำ เห็นความหนึกนุ่มชุ่มตา แถมยังมีรักเก่า ทองเก่า หรือที่คนโบราณใช้คำว่า ลงรักปิดทอง มาเป็นข้อพิจารณาเพิ่ม
ใครดูเรื่องนี้ทางไทยรัฐออนไลน์ ผมอยากให้เพ่งดูอีกหน่อย ในแผ่นรักสีดำมุมซุ้มโค้งด้านซ้าย และที่เส้นซุ้มขวา ระดับเดียวกับพระศอ เห็นชัดเจน เป็นแผ่นรักสีแดง กลืนเป็นเนื้อเดียวกับแผ่นรักสีดำ
อย่าเผลอคิดว่า สีแดงเข้มนั้น เป็นสีชาด เพราะรักเก่าในพระสมเด็จวัดระฆัง ตามคำอธิบายของครู “ตรียัมปวาย” มีสองชนิด รักน้ำเกลี้ยง ซึ่งเห็นบางๆ มีทั้งสีดำแกมน้ำตาล และสีดำแกมเลือดหมู
ส่วนรักน้ำดำ ที่เห็นเป็นปื้นหนา ครูอธิบายว่า เฉือนเนื้อรักให้เหลือบางๆ เศษรักบางๆ ที่เห็น ก็เป็นสีแดง ใช้หลักครู ทั้งรักน้ำเกลี้ยง ที่เห็นบางๆ และรักน้ำดำ ที่เป็นปื้นหนานั้น น่าจะเป็นรักชนิดเดียวกัน ที่เห็นแดง เพราะบาง ที่เห็นดำเพราะความหนา
ครูตรียัมปวายรวบรวมพระสมเด็จวัดระฆัง ลงพิมพ์ไว้ในปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่มพระสมเด็จฯ หลังปี 2500 ไม่มาก เป็นภาพขาวดำ ทั้งขนาดภาพก็เล็ก โอกาสที่จะเรียนรู้ความลึกซึ้งเรื่องรักจากองค์ครู...ไม่มี
มาสมัยนี้ มีภาพพระขยายใหญ่ พระสมเด็จฯสูงใหญ่เท่าข้อศอก เห็นรักส่วนหนา เป็นสีดำชัด ส่วนรักที่ลอกไปเหลือเป็นฝ้าบางๆ สีก็เปลี่ยนเป็นแดง ก็ชัดเจน
นี่ก็เป็นกรณีศึกษา ที่ยืนยันว่า รักเก่าที่ว่านั้น เป็นรักชนิดเดียวกัน ลงหนาก็ดำ ลงบางก็แดง
ส่วนองค์ที่เห็น เป็นสีแดงสด จนคิดกันว่าไม่ใช่รัก แต่เป็นชาด กรณีศึกษาล่า...สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์สะเทือนวงการ คุณต้า บางแค ผ่านให้กำนันมานะ 28 ล้าน กำนันต่อให้เช็ง สุพรรณ 40 ล้าน
...
และเจ้าของคนสุดท้าย ไม่ประสงค์จะออกนาม แต่มีวี่แววว่าเป็นนักการเมืองใหญ่ ในราคาถึง 60 ล้าน
องค์นี้ ตีพิมพ์ในหนังสือภาพพระเบญจภาคี ของเช็ง สุพรรณ สองเล่ม เห็นรักสีดำหนา ถูกลอกออกแล้วไม่ถึงกับเกลี้ยงเกลา แต่ขอบข้างทั้งสี่ด้าน เห็นเป็นสีแดงสด...จนถูกเรียกกันว่า “องค์ลงชาด”
ดูกันให้ดีๆ สีแดงเหมือนชาดนั้น กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับรักดำ ไม่มีส่วนไหนชี้ให้เห็นว่าเป็นคนละเนื้อ จึงเข้าหลักพิจารณา รักดำหนา เนื้อในชั้นล่างส่วนที่แนบกับผิวพระนั้นบาง ออกเป็นสีแดง
ส่วนใครที่ฝังใจ องค์พิมพ์ปรกโพธิ์ฐานแซม ที่ครูตรียัมปวายว่า เป็นองค์ร่องชาด พิมพ์เดียว พิมพ์อื่นไม่มี ถ้ามี ก็เป็นของปลอม 99% นั้นก็ยกเป็นความเข้าใจของอาจารย์ไป
เพราะวันนี้ มีพระสมเด็จวัดระฆัง ที่ลงรักดำ แต่โชว์เนื้อในแดง แดงเหมือนชาด อยู่หลายองค์
ในหนังสือเล่มของเช็ง สุพรรณ นอกจากองค์กำนันมานะ ยังมีอีกองค์ที่ขอบข้างสีแดง ส่วนองค์ที่คุ้นตา คือองค์เล่าปี่ ใครมีหนังสือ ลองไปเปิดดู ในแผ่นรักปิดทอนั้น มีบางส่วนโผล่สีแดง ออกมาเต็มตา
ถ้าไม่มีองค์อื่นเทียบเคียง ดูสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่องค์ในคอลัมน์อีกที องค์นี้ ยังมีแผ่นทองเก่าหนา ในส่วนแกนกลางขององค์พระ ตั้งแต่ปลายพระเกศมาถึงฐานชั้นที่สาม
ในพื้นผนังแผ่นรักดำ หลุดร่อนไปบางส่วน ส่องดูเนื้อขุ่นขาวนุ่มซึ้งได้สบาย อย่าลืมแผ่นรักที่จมฝังในรอยลายงาบางๆ ซึ่งก็คือธรรมชาติของสมเด็จวัดระฆังแท้อีกประการ
พระสมเด็จวัดระฆัง ที่ลงรักปิดทอง ถึงวันนี้เหลือเป็นครูให้ดูน้อยองค์ เจอของแท้ก็พยายามดูให้คุ้นตาเข้าไว้ เพราะของปลอมทำได้ใกล้เคียง จนเซียนกลัว
เรื่องนี้เกิดไม่กี่ปี แห่กันห้าเซียนสำนักใหญ่ มาถึงเซียนเดียวทัก ราคาสี่ล้าน ก็ต้องตามขอคืนกันทันที คนเป็นพระด้วยกัน ดูแล้วก็ไม่เห็นว่าจะดูยากสักเท่าไหร่เลย.
พลายชุมพล