กลายเป็นกระแสหลังจบงานทำบุญอุทิศถวายอดีตท่านเจ้าอาวาส วัดอนงคารามวรวิหารและบรรพชนผู้สร้างวัด (ท่านผู้หญิงน้อย บุนนาค) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) องค์ประธานงานบูรณะซ่อมแซม อาคารกุฏิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทธสรมหาเถร) ซึ่งได้เมตตามาเป็นประธานที่คณะ 2 วัดอนงคาราม แต่ก่อนเดินทางกลับ ท่านได้ให้โอวาทธรรมแก่ผู้มาร่วมงานบุญ โดย ชัชว์ บุนนาค ได้ออกมาเปิดเผยว่า
“สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีท่านขอให้ทุกคนทุกท่านครองตนด้วยความไม่ประมาท หมั่น สวดมนต์ภาวนาด้วยเหตุว่าดวงชะตาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ไปจนถึงมีนาคม 2566
พระเสาร์ผิดปกติ เดินหน้า...ถอยหลัง ส่งผลให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี ขอให้ทุกท่านที่ทราบความนี้ให้หาพระเครื่ององค์เล็กๆมาบูชาเอาไว้นั้นคือ พระนาคปรก เพราะเป็นพระประจำ วันเสาร์ โดยเฉพาะพระนาคปรกใบมะขาม ของวัดอนงคารามหามาพกติดตัวไว้เลย

...เป็นการแก้เคล็ดเสริมสิริมงคลและมีขนาดเล็ก พระนาคปรกใบมะขามวัดอนงคารามไม่ว่าจะเป็นการสร้างยุคไหนสมัยไหนล้วนแต่เป็นพระเครื่องที่มีพุทธคุณสูง ทรงคุณค่า ช่วยปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย”
...
ท่านประคุณสมเด็จฯยังขอให้ทุกคนระมัดระวังในการใช้ชีวิตในช่วงโรคระบาด เพราะเป็นโรคที่มีความรุนแรง ร้ายแรงมากให้สวด “โพฌชงค์ 7” ด้วยมีพุทธฤทธิ์ที่ยิ่งใหญ่มากจะช่วยให้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัย
กุฏิอาคารของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทธสรมหาเถร) อดีตเจ้าอาวาสวัดอนงคาราม รูปที่ 6 เป็นที่ประดิษฐาน “พระแก้วขาว” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อยู่ในซุ้มบุษบก บนชั้น 3
พระแก้วองค์นี้เป็นองค์เดียวแต่มองต่างสีได้คือเปลี่ยนสีได้ตามเวลาและตามการหักเหของแสง มีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 12 นิ้ว สูงประมาณ 15-18 นิ้ว
@ @ @ @
ปัจจุบันอาคารกุฏิเก่าแก่โบราณแห่งนี้ ซึ่งเป็นกุฏิเรือนไม้หลังใหญ่ก็มีสภาพชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา สร้างความกังวลใจให้กับโยมอุปถัมภ์ จึงพยายามระดมทุนทรัพย์มาบูรณะ เพราะถือว่าเป็นอาคารประวัติ ศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง ที่มีความผูกพันมาตั้งแต่วัยเยาว์กับสายตระกูล “บุนนาค”

ชัชว์ เล่าให้ฟังว่า ต้นตระกูลบุนนาคสายนี้เป็นโยมผู้อุปถัมภ์วัดแห่งนี้ มาตั้งแต่สมัยโบราณ...จากเดิมบริเวณนี้เป็นสวนกาแฟ สวนผลไม้ของตระกูลก็ถูกยกถวายเป็นธรณีสงฆ์
วันเวลาผ่านมาถึงวันนี้ แน่นอนว่า...จึงมีความผูกพันกับวัดแห่งนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับสมเด็จนวม ถือเป็น...ศิษย์ก้นกุฏิที่ถวายงานรับใช้สมเด็จท่าน
ที่สำคัญยังรับหน้าที่เป็นประธานกรรมการฝ่ายฆราวาส ในโครงการจัดสร้างพระเนื้อเมฆสิทธิ์ ย้อนยุคของหลวงปู่ทับ รุ่น บูชาคุณบูรพาจารย์ ในปี 2555 ซึ่งถือว่าเป็น “พระปิดตา” ย้อนยุคที่โด่งดังมาก
พระรุ่นนี้สร้างปี 2555 มีออกมาหลายพิมพ์ ประกอบด้วย พระสมเด็จปางซ่อนหา เนื้อเมฆสิทธิ์, พระปิดตาเมฆสิทธิ์ พิมพ์หลวงปู่ทับ, พระปิดตาหลวงปู่ทับ เนื้อทองแดง...เป็นที่รับรู้กันในวงการนักสะสมพระเครื่องว่า พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ของหลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม รุ่นแรก มีอายุการสร้างกว่า 100 ปี
ราคาเช่าหาแพงระยับ แถมยังมีพระปลอมเต็มตลาดพระ ว่ากันว่า...ของปลอมจะเป็นสีเขียว วาววับเหมือนปีกแมลงทับเลยทีเดียวเชียวแหละ
@ @ @ @
เสน่ห์ของพระเนื้อเมฆสิทธิ์ สูตรการสร้างหลวงปู่ทับมีความพิเศษคือผิวจะกลับเพราะในชนวน จะมีทั้งปรอท ตะกั่ว ทองเหลือง ทองแดง กำมะถัน ฯลฯ บ้างก็ว่า...หลวงปู่หย่อนทองคำหล่อลงไปด้วยซึ่งก็ไม่มีใครจะฟันธงลงชัดเจนได้เช่นกัน มีเพียงเรื่องราว...ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ทุกคนยอมรับว่า นี่คือ...ที่สุดของพระปิดตา สายฝั่งธนบุรี เด่นมากในด้านเมตตา มหานิยม ตบะบารมี ป้องกันคุณไสย

...
เมื่อมีการสร้างรุ่นย้อนยุค สร้างตามตำราตามสูตรของหลวงปู่ทับขนานแท้ เพราะตำราอยู่ที่วัด และมีพระอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของวัดเก็บรักษาเอาไว้ จึงเป็นเนื้อเมฆสิทธิ์ที่ตรงตามตำราแน่นอน
ที่สำคัญ...ในงานพิธีปลุกเสก อธิษฐานจิต ณ วัดอนงคาราม เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2555 เป็นพิธีที่สมบูรณ์มาก โดยหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว, หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อชำนาญ วัดกุฏีทอง (ในสมัยนั้น), พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา, หลวงปู่ คำบุ วัดกุดชมภู, หลวงพ่อรวย วัดตะโก ฯลฯ ท่านพระอาจารย์เมืองอินทร์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสประธานการจัด สร้างฝ่ายสงฆ์ในสมัยนั้นบอกว่ายุคนั้นแทบไม่มีโรงงานปั๊มพระที่ไหนรับเลย เพราะ กลัวผิดพลาด
“พระเนื้อเมฆสิทธิ์สูตรหลวงปู่ทับนั้นทำยากมาก จนสุดท้ายก็มีโรงงานแห่งหนึ่งรับงานหล่อ พระชุดนี้แต่บอกว่า...เนื้อเมฆสิทธิ์ตำรับหลวงปู่ทับ วัดอนงคารามสร้างยากมาก เพราะชนวนโลหะที่สร้างหลอม มาจากแร่ธาตุ 10 ชนิด สร้างแล้วจะได้ดี 30 เสีย 70”
ถามว่าที่เสีย 70% คือจำนวนเท่าไหร่ ท่านพระอาจารย์เมืองอินทร์บอก กำหนดสร้าง 10,000 องค์ พระเสียคือมีสภาพไม่สมบูรณ์ 70% คือ 7,000 องค์ หมายความว่าใช้การได้แค่ 3,000 องค์
พระปิดตาที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ จึงถูกยุบ หลอมใหม่แล้วรีดเป็นแผ่นชนวนปั๊มออกมาเป็นพระนาคปรกใบมะขาม...พิมพ์เจ้าสัว ย้อนยุคพระนาคปรกสมเด็จนวมฯ อันลือลั่นในอดีตและพระสมเด็จปางซ่อนหา ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างมากมายถูกจับจองเช่าหาไปจนเกือบหมดสิ้น

พลังศรัทธาพุทธลักษณะเป็นแบบ “พระนาคปรก” พระพุทธรูปปางประจำวันเสาร์ ที่มีคติความเชื่อกันว่า “พุทธานุภาพสูงส่ง” ในอดีต โบราณาจารย์จะนิยมสร้างพระนาคปรกเป็นพระพุทธรูปบูชาขนาดใหญ่ ด้วยเนื้อศิลา เนื้อโลหะ ประกอบกับบางอารามมีพระพุทธรูปปางนาคปรก เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด...
จึงนิยมสร้างพระพิมพ์ขนาดเล็ก เพื่ออาราธนาพกติดตัวไปที่ต่างๆได้สะดวกขึ้น เพื่อปกปักรักษาปกป้องคุ้มกันภยันตรายให้แก่ชีวิต
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อ โปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม