บทสวดรัตนสูตร ระตะนะสุตตัง หรือรัตนปริตร เป็นพระสูตรสำคัญบทหนึ่งในพระไตรปิฎก ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระอานนท์ เพื่อใช้สวดป้องกันภัยจากโรคระบาด และสิ่งอัปมงคล โดยคาถานี้ได้รับความนิยมสวดมาจนถึงปัจจุบัน บทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์แจกบทสวดรัตนสูตร พร้อมคำแปล ดังนี้

รู้จัก บทสวดรัตนสูตร คืออะไร

บทสวดรัตนสูตร หรือที่รู้จักกันในชื่อ บทสวดรัตนสูตร ระตะนะสุตตัง เป็นพระสูตรสำคัญในพระไตรปิฎก โดยมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่สมัยพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระสูตรนี้เพื่อขจัดโรคภัยและเคราะห์ร้ายในเมืองเวสาลี ซึ่งในขณะนั้นกำลังเผชิญกับโรคระบาดร้ายแรง ความอดอยาก และอมนุษย์ที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อน

พระเจ้าลิจฉวีจึงได้อาราธนาพระพุทธองค์จากกรุงราชคฤห์ให้เสด็จมาโปรดชาวเมือง พระองค์จึงมอบหมายให้พระอานนท์ถือบาตรใส่น้ำ เดินสวดบทสวดรัตนสูตรรอบเมืองเวสาลี พร้อมประพรมด้วยน้ำในบาตร ไม่นานเมืองเวสาลีก็กลับมาสงบอีกครั้ง

ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นมาบทสวดรัตนสูตรก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระปริตร หรือคาถาป้องกันภัย ที่นิยมสวดเพื่อคุ้มครองตนเอง บ้านเรือน และสังคมจากโรคภัย ภยันตราย ตลอดจนสิ่งไม่ดีทั้งหลาย

...

บทสวดรัตนสูตรฉบับเต็ม

บทสวดรัตนสูตร ฉบับเต็มมีทั้งหมด 17 บท ดังนี้

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเขสัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุอะโถปิ สักกัจะ สุณันตุ ภาสิตังตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพเมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิงตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา ฯ

ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วาสัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตังนะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะอิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตังยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโตนะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิอิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิงสะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุสะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติอิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐาจัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติเต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกาเอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิอิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะนิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิเต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานาอิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ยะถินทะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยาจะตุพภิ วาเตภิ อะสัมปะกัมปิโยตะถูปะมัง สัปปุริสัง วะทามิโย อะริยะสัจจานิ อะเวจจะ ปัสสะติอิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติคัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิกิญจาปิ เต โหนติ ภุสัปปะมัตตานะ เต ภะวัง อัฏฐะมะมาทิยันติอิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะตะยัสสุ ธัมมา ชะหิตา ภะวันติสักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉิตัญจะสีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิจะตูหะปาเยหิ จะ วิปปะมุตโตฉะ จาภิฐานานิ อะภัพโพ กาตุงอิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะตังกาเยนะ วาจายุทะ เจตะสา วาอะภัพโพ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะอะภัพพะตา ทิฏฐะปะทัสสะ วุตตาอิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตัคเคคิมหานะมาเส ปะฐะมัสมิง คิมเหตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยินิพพานะคามิง ปะระมัง หิตายะอิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโรอะนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิอิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวังวิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิงเต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทานิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโปอิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตังเอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเขตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตังพุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเขตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตังธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเขตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตังสังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

...

บทสวดรัตนสูตร พร้อมคำแปล แบบย่อ

หากใครไม่สะดวกสวดบทสวดฉบับเต็ม สามารถบทสวดรัตนสูตรแบบย่อก็ได้เช่นกัน ดังนี้

ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา
แปล ทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น

สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง
แปล หรือรัตนะอันใดอันสูงค่า ในสรวงสวรรค์

นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ
แปล ทรัพย์หรือรัตนะนั้นๆ ที่จะเสมอด้วยพระตถาคตเจ้า ไม่มีเลย

อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
แปล ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
แปล ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง, ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต
แปล พระศากยมุนีเจ้า ทรงมีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมอันใด เป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สิ้นราคะ เป็นอมตะอย่างแท้จริง

นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ
แปล สิ่งใดๆ ที่เสมอด้วยพระธรรมนั้น ย่อมไม่มี

อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
แปล ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
แปล ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง
แปล พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดทรงสรรเสริญสมาธิว่าเป็นธรรมอันสะอาด

สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ
แปล บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวว่าสมาธิเป็นคุณธรรมอันให้ผลโดยลำดับสม่ำเสมอ

สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ
แปล คุณธรรมอื่น ที่เสมอด้วยสมาธินั้น ย่อมไม่มี

อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
แปล ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม

...

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
แปล ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัตถา
แปล บุคคลเหล่าใด นับเรียงองค์ได้เป็น 8

จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ
แปล นับเป็นคู่ได้ 4 คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว

เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา
แปล บุคคลเหล่านั้น เป็นสาวกของพระสุคตเจ้า เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน

เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ
แปล ทานทั้งหลาย ที่บุคคลถวายในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลเป็นอันมาก

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
แปล ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
แปล ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ
แปล บุคคลทั้งหลายเหล่าใด ประกอบความเพียรอย่างดี ดำเนินไปในศาสนาของพระโคดมเจ้าด้วยใจอันมั่นคง

เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ
แปล บุคคลทั้งหลายเหล่านั้น หน่วงเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์ได้บรรลุคุณอันควรบรรลุ คือพระอรหัตตผลแล้ว

ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา
แปล จึงได้เสวยอมตะรส คือความสงบเย็นจากความเร่าร้อนทั้งปวง

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
แปล แม้ข้อนี้ก็เป็นรัตนะคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
แปล ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง
แปล กรรมเก่าของพระอริยบุคคลเหล่าใดสิ้นแล้ว กรรมสมภพใหม่ย่อมไม่มี

วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง
แปล พระอริยบุคคลเหล่าใดมีจิตอันหน่ายแล้วในภพต่อไป

เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา
แปล พระอรหันต์เหล่านั้น มีพืชคือวิญญาณสิ้นไปแล้ว ไม่มีความพอใจที่จะเกิดอีกต่อไป

...

นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป
แปล เป็นผู้มีปัญญา ย่อมนิพพานเหมือนดังดวงประทีปที่ดับไปฉะนั้น

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
แปล แม้ข้อนี้ก็เป็นรัตนะคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
แปล ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

อานิสงส์ของบทสวดรัตนสูตร รัตนปริตร

การสวดบทสวดรัตนสูตรเป็นประจำเชื่อกันว่ามีอานิสงส์ดีต่อตนเอง ดังนี้

  • ปัดเป่าสิ่งอัปมงคลและโรคภัยไข้เจ็บ
  • ป้องกันภัยจากอมนุษย์ หรือภูตผีปิศาจ
  • เสริมสิริมงคลแก่ตนเอง และที่อยู่อาศัย
  • สร้างสมาธิและทำให้จิตใจสงบยิ่งขึ้น

บทสวดรัตนสูตร เป็นหนึ่งในพระปริตรที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความเก่าแก่ หากตั้งจิตให้แน่วแน่ ไม่ว่าสวดฉบับเต็ม หรือฉบับย่อ ก็ย่อมได้รับอานิสงส์แห่งความสงบ ปลอดภัย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ หรือภยันตรายต่างๆ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง