เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี สร้างปี พ.ศ. 2508 องค์ที่นำมาให้ชมนี้เป็นเนื้ออัลปาก้า จุดตายของเหรียญรุ่นนี้อยู่ที่ตัวตัดข้าง เหรียญนี้เป็นตัวตัดข้างแบบหยาบ นิยม
เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์มีประสบการณ์ด้านความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ในเรื่องการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง จนเป็นที่เลื่องลือทั่วไปในหมู่ข้าราชการที่ต้องการความก้าวหน้าต่างเฟ้นหา เช่าหามาบูชากัน องค์ที่นำมา
สภาพนี้ปัจจุบันค่านิยมอยู่ที่หลักแสนกลางๆครับ
...
การสร้าง เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2508
พระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธมฺมธโร) หรือ อาจารย์ทิม อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ สร้างเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงปู่ทวด ขึ้นในโอกาสที่ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นโทพัดขาว ฝ่ายวิปัสสนา (ท่านได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น พระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี เมื่อปี พ.ศ. 2499 มีนามว่า พระครูวิสัยโสภณ)
เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ปี พ.ศ. 2508 มีหลายเนื้อ
เนื้อทองคำประมาณการกันว่าสร้างไม่เกิน 20 เหรียญ เนื้อเงินแค่หลักร้อย เนื้ออัลปาก้า 3,000 เหรียญ อัลปาก้าชุบนิเกิ้ล 10,000 เหรียญ อัลปาก้าชุบนิเกิ้ลไม่มีเส้นผ่าปาก 10,000 เหรียญ ทองแดง ไม่เกิน 2,000 เหรียญ และเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ พิมพ์นิยมแบ่งออกได้เป็น 2 บล็อก และ 2 ตัวตัด ขอบข้างเหรียญ โดยบล็อกแรกและตัวตัดแรกวงการมักจะเรียกว่า บล็อกนิยม และ ตัวตัดนิยม ซึ่งมีทั้งกรณีเนื้อทองแดงรมดำ และเนื้ออัลปาก้า
เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นเหรียญรูปทรงเสมา
ด้านหนึ่งเป็นรูปหลวงปู่ทวดนั่งขัดสมาธิ มีอักษรอักขระรอบข้าง มีรูปช้างที่ด้านข้างทั้งสองฝั่ง ที่บริเวณฐานมีอักษรคำว่า "หลวงพ่อทวด วัดช้างให้" มีห่วงในตัว ส่วนอีกด้านหนึ่งมีรูปหลวงปู่ทิมครึ่งองค์หน้าตรง มีอักษรอักขระรอบข้าง และมีอักษรภาษาไทยคำว่า พระครูวิสัยโสภณ (ทิม) งานเลื่อนสมณศักดิ์ 08
ปัจจุบันค่านิยมของเหรียญรุ่นนี้ เนื้อทองคำ อยู่ที่หลักล้านกลางขึ้นอยู่กับสภาพความสวยของเหรียญ เนื้อเงิน ค่านิยมแสนปลายถึงหลักล้านต้น เนื้ออัลปาก้า ราคาค่านิยมหลักแสนกลางและ เนื้อทองแดง ค่านิยมหลักแสนถึงล้าน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสภาพพระครับ
มีประสบการณ์จริงจากผู้ต้องการพระหลวงพ่อทวดมาบูชา ได้อธิษฐานถึงท่านและทุกครั้งที่จะออกจากบ้านหรือต้องการให้ท่านมาดูแลและช่วยเหลือให้อาราธนาคาถาอัญเชิญ หลวงพ่อทวดดังนี้
กล่าวนะโม 3 จบ
นะโมโพธิปัญโญ มหาลาโภปะริมิตตา
นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา