“พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เจดีย์” หนึ่งในสุดยอดพระเครื่องตระกูลสมเด็จที่สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ปรมาจารย์แห่งการสร้างพระเครื่องเมืองไทย พระเครื่องของท่านได้รับการยกย่องว่าเป็น หนึ่งในเบญจภาคีพระเครื่อง ซึ่งถือเป็นชุดสูงสุดของพระเครื่องที่นักสะสมทุกยุคทุกสมัยปรารถนาจะได้ครอบครอง ประวัติ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า “สมเด็จโต” ถือเป็นพระมหาเถราจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดรูปหนึ่งในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาไทย ท่านเป็นผู้สร้างพระสมเด็จอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้รับการยกย่องเป็น “จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง”


ชาติกำเนิด นามเดิม : โต เกิดวันที่ : วันแรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีวอก ตรงกับวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๓๓๑ สถานที่เกิด : ณ บ้านไก่จ้น ตำบลท่าหลวง มารดา : ชื่อ เกศ เป็นชาวบ้านตำบลท่าอิฐ จังหวัดอุตรดิตถ์ ในขณะที่ท่านยังเป็นเด็กนอนแบเบาะอยู่นั้น มารดาได้ย้ายภูมิลำเนามาอยู่ที่ ตำบลไชโย จังหวัดอ่างทอง แต่พอท่านจำเริญวัยพอนั่งยืนได้ มารดาได้ย้ายมาอยู่ที่ ตำบลบางขุนพรหม จังหวัดพระนคร สมัยเมื่อท่านยังเด็ก ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เรียนหนังสือกับท่านเจ้าคุณอรัญญิก (ด้วง) วัดอินทรวิหาร เดิมชื่อว่า วัดบางขุนพรหมนอก ส่วนวัดบางขุนพรหมในก็คือ วัดบางขุนพรหม ปัจจุบันนี้ เมื่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) 12 ขวบ ได้บรรพชาเป็นสามเณรและได้ย้ายมาที่วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี เมื่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อายุ 21 ปี ได้ไปอุปสมบทที่วัดระฆังโฆสิตาราม โดยมีพระธรรมถาวรเป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรมอย่างแตกฉาน จนสอบได้เปรียญ ๙ ประโยค ส่วนการศึกษาและวิชาอาคม สมเด็จโตมิได้เชี่ยวชาญเพียงพระปริยัติธรรม แต่ยังศึกษาวิชาอาคมและสมถวิปัสสนากรรมฐานจากพระอาจารย์ผู้ใหญ่หลายรูป ทั้งพระอาจารย์ในสำนักวัดสังเวช วัดระฆัง รวมถึงการเดินธุดงค์ไปยังหัวเมืองต่าง ๆ จนมีชื่อเสียงว่าเป็นพระที่มี ญาณบารมีแก่กล้า ตำแหน่งทางคณะสงฆ์ ดำรงสมณศักดิ์เป็นที่ “พระธรรมกิตติ”ต่อมาสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ทรงเลื่อมใส และโปรดเกล้าฯ ตั้งท่านเป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม นับเป็นตำแหน่งสูงสุดของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกายในสมัยนั้น วัตรปฏิบัติและเกียรติคุณ สมเด็จโตมีวัตรปฏิบัติสมถะ ไม่ยึดติดลาภยศ เป็นพระที่มีเมตตา โปรดญาติโยมและใกล้ชิดประชาชน มักแต่งกลอนธรรมะ คำสอนที่เข้าใจง่าย เช่น “คติธรรมคำกลอน” ที่ใช้สอนคนทั่วไป ท่านเป็นที่เคารพทั้งของชาวบ้านและเจ้านายชั้นสูงในสมัยนั้น การสร้างพระสมเด็จจะใช้ผงวิเศษ ๕ ประการ เป็นหัวใจหลัก โดยมีหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์ใหญ่, พิมพ์ฐานแซม, พิมพ์เจดีย์ ฯลฯ พระสมเด็จเป็นพระที่ถูกยกย่องว่าเป็น “จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง”

...


พระสมเด็จวัดระฆัง และพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม ได้กลายเป็น หนึ่งในเบญจภาคีพระเครื่องไทย เล่ากันว่า สมเด็จโต มีญาณสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ท่านมักใช้ธรรมะสอนคนผ่านการเปรียบเทียบแบบชาวบ้าน เข้าใจง่าย แต่ลึกซึ้ง มีเรื่องเล่าว่าเมื่อครั้งท่านเดินธุดงค์ เจอเสือโคร่ง แต่เสือกลับสงบไม่ทำร้าย อีกทั้งเรื่องราว “คาถาชินบัญชร” ที่ท่านเป็นผู้รจนาขึ้นเพื่อเป็นพระคาถาสำคัญในพระพุทธศาสนาไทย

มรณภาพ : สมเด็จโตมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๑๕ สิริอายุได้ ๘๔ ปี พรรษา ๖๔ ศิษยานุศิษย์ทั้งพระและฆราวาสต่างอาลัยทั่วแผ่นดิน

มรดกธรรมและพระเกียรติคุณ

  • พระสมเด็จ – กลายเป็นสุดยอดพระเครื่องที่เป็นเลิศทั้งทางพุทธศิลป์และพุทธคุณ
  • คาถาชินบัญชร – บทสวดที่ชาวพุทธนิยมสวดเพื่อความเป็นสิริมงคล
  • คำสอนธรรมะ – ที่เข้าใจง่ายและยังใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
  • ความเมตตา – สมเด็จโตได้รับการยกย่องว่าเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมอันสูงสุด

ประวัติการสร้าง

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เจดีย์ : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม

ปีที่สร้าง : ราว พ.ศ. 2409 – 2411

สถานที่บรรจุ : กรุเจดีย์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส (วัดบางขุนพรหมในปัจจุบัน)

วัตถุประสงค์ : เพื่อเป็นที่ระลึกและเป็นพุทธบูชาในงานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รวมถึงเป็นมรดกธรรมให้แก่พุทธศาสนิกชนรุ่นหลัง สมเด็จโตท่านได้ใช้สูตร “ผงวิเศษห้าประการ” เป็นหัวใจในการสร้างพระ คือ 1. ผงปถมัง 2. ผงอิทธิเจ 3. ผงมหาราช 4. ผงพุทธคุณ 5. ผงตรีนิสิงเห

รวมกับมวลสารศักดิ์สิทธิ์ เช่น ปูนเปลือกหอย, น้ำมันตังอิ๊ว, เกสรดอกไม้, ว่านยาศักดิ์สิทธิ์ และเถ้าธูปจากการสักการะพระพุทธรูปสำคัญ พิธีกรรมและความศักดิ์สิทธิ์ การสร้างพระสมเด็จนั้น สมเด็จโตท่านได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกโดยอัญเชิญพระเถราจารย์ผู้ทรงวิทยาคมในยุคนั้นมาร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ โดยเฉพาะในพิมพ์เจดีย์ซึ่งถือว่าเป็นพิมพ์ใหญ่ของกรุ มีตำนานเล่าขานว่า พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์เจดีย์ มักปรากฏอภินิหารแก่ผู้ครอบครอง เช่น

  • แคล้วคลาดจากภัยสงคราม
  • มีบารมีเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
  • เมตตามหานิยม ผู้คนรักใคร่เอ็นดู
  • เสริมชะตาชีวิตให้มั่นคงดุจพระเจดีย์อันเป็นสัญลักษณ์แห่งพิมพ์นี้

การเปิดกรุ พ.ศ. 2500

หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดคือ การเปิดกรุเจดีย์วัดบางขุนพรหม เมื่อปี พ.ศ. 2500 โดยวัดได้ทำการบูรณะใหญ่และจำเป็นต้องเปิดกรุเพื่อรักษาพระสมเด็จที่บรรจุไว้ไม่ให้ผุกร่อนและเสียหาย

พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ต่าง ๆ ได้ออกสู่สายตาวงการครั้งนั้น และได้รับการรับรองว่าเป็นพระแท้ที่สมเด็จโตสร้างจริง โดยแบ่งออกเป็น พิมพ์มาตรฐาน ๑๓ พิมพ์ ซึ่ง “พิมพ์เจดีย์” ถือเป็นหนึ่งในพิมพ์นิยมสูงสุด

...

พุทธคุณที่เลื่องลือ

  • คงกระพัน แคล้วคลาด – มีประสบการณ์มากในช่วงสงครามอินโดจีนและสงครามโลกครั้งที่ ๒
  • เมตตามหานิยม – ทำให้ผู้ครอบครองมีสง่าราศี เป็นที่รักนับถือ
  • อำนาจบารมี – เสริมการเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน
  • เสริมสิริมงคล – เปรียบเสมือนมีเจดีย์เป็นที่คุ้มครองอยู่กับตัว

ความนิยมในวงการ

"พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เจดีย์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเบญจภาคีพระเครื่อง เซียนพระทั่วประเทศยกให้เป็นพระชั้นสูงสุดของพระกรุ ราคาประเมินเช่าหาบูชาในปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลายล้านบาท ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และความคมชัดของพิมพ์"

ที่กล่าวคือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เจดีย์ คือ สุดยอดแห่งพระเครื่องตระกูลสมเด็จที่งดงามทั้งพุทธศิลป์และเปี่ยมด้วยพุทธคุณ ได้รับการกล่าวขานว่า “เป็นมรดกธรรมที่สมเด็จโตมอบไว้ให้ชนรุ่นหลัง” ปัจจุบันถือเป็นพระที่นักสะสมสายตรงเฝ้าแสวงหามาครอบครอง และเป็น “เพชรยอดมงกุฎ” ของวงการพระเครื่องไทย

พระคาถาบูชาองค์พระสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี

นะโม (3จบ) 

พรหมรังษี เมตตาบารมี จุติจุตัง อะระหังจุตติ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ มะอะอุ มะอะอุ มะอะอุ ภะคะวา

ชี้ตำหนิ

...

ลักษณะพิมพ์ด้านหน้า

ดูพิมพ์ทรงเป็นหลัก องค์พระมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมคล้ายเจดีย์ จึงเป็นที่มาของพิมพ์เจดีย์ มีโพรงและมีการหดตัวของมวลสาร มีคราบกรุ คราบน้ำตาล ฐานเป็นเส้นคมชัด เนื้อตุ๊บตั๊บ มวลสารเป็นก้อน มีเม็ดแดง เม็ดดำ เม็ดแดงต้องมีไม่เยอะ


ลักษณะด้านหลัง

หลังเรียบแบน แต่บางองค์มีรอยกดพิมพ์เป็นคลื่นๆ มีคราบกรุ คราบน้ำตาล พิมพ์นี้ส่วนมากจะมีรอยปริของเนื้อ

...

ลักษณะด้านข้าง

เป็นสัน (ตัดเป็นสันเหลี่ยมตรง) รอยตัดคมชัด ตัดตรง เป็นเหลี่ยมแท่ง เรียกว่า สับตอก และมีการหดตัวของมวลสารทำให้เห็นเป็นโพรง

คอลัมน์ : หยิบกล้องส่องพระ by โทน บางแค
Line : @tone8888
เพจ : โทน บางแค FC.