พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ
พระสมเด็จนางพญา เป็นพระศิลปะสุโขทัย อายุการสร้างประมาณ 400 กว่าปี สันนิษฐานว่า “พระวิสุทธิกษัตรีย์” มเหสีของ “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” ทรงสร้างพระนางพญาขึ้น ในคราวบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดราชบูรณะ ราวปี พ.ศ. 2090 – 2100 พระนางพญาเป็นหนึ่งในพระชุดเบญจภาคี ที่ทุกคนใฝ่หา พุทธคุณของพระนางพญา เด่นด้านเมตตา แคล้วคลาด ด้านพุทธศิลป์ของพระนางพญานั้น เป็นพระพุทธปางมารวิชัย ไม่มีฐาน ไม่มีซุ้ม ไม่ประทับบนอาสนะ ขอบตัดเป็นรูปสามเหลี่ยมชิดกับองค์พระประธาน ในขณะนั้นพิษณุโลก เป็นเมืองลูกหลวง และพระวิสุทธิกษัตรีย์ ได้ดำรงพระอิสริยยศเป็นแม่เมืองสองแคว และพระมหาธรรมราชา ทรงพระอิสริยยศเป็นพระอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยา จึงทำให้สันนิษฐานว่า พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระมเหสีของพระมหาธรรมราชา และพระราชมารดาในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงสร้างพระนางพญาขึ้น ส่วนพระนางพญาแตกกรุเมื่อสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จะเสด็จประพาสเมืองพิษณุโลก โดยทางจังหวัดได้จัดการสร้างปะรำพิธีรับเสด็จ เมื่อคนงานขุดหลุมก็เกิดพบพระเป็นจำนวนมากก็คือ พระนางพญานั่นเอง ซึ่งทางจังหวัดและเจ้าอาวาสเก็บพระเหล่านั้นไว้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสหัวเมืองพิษณุโลก เมื่อปี พ.ศ.2444 เพื่อทอดพระเนตรการหล่อพระพุทธชินราชจำลอง และทรงเสด็จไปที่วัดนางพญาด้วย ทางวัดนางพญาก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระนางพญาแด่พระองค์ท่าน
...
นอกจากนี้ พระองค์ทรงแจกจ่ายพระนางพญาแก่ข้าราชบริพาร และผู้ติดตามเสด็จทุกคน และยังมีพระส่วนที่เหลือจากการแจกจ่าย พระองค์ท่านทรงนำกลับมาที่พระนคร ได้บรรจุกรุไว้ที่วัดสังกัจจายน์ และวัดปราสาทบุญญาวาส (ต่อมามีการพบพระนางพญาพิษณุโลกที่วัดทั้ง 2 แห่งนี้ ซึ่งหลักฐานตรงกับบันทึกการเสด็จประพาสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5) ด้วยอายุของพระที่ยาวนานกว่า 400 ปี เกิดการหดตัวของดินตามธรรมชาติ ทำให้เห็นดินที่หุ้มอยู่บนกรวดหดตัวลงด้วย เรียกว่าเม็ดผด และสีขององค์พระมี 4 สี คือ ดำ แดง เหลือง และเขียว ซึ่งเกิดจากดินที่ถูกเผาและได้รับความร้อนต่างกันในขณะวางเผาอยู่ในเตา อันเป็นที่มาของขนาดองค์พระด้วย ถ้าโดนความร้อนมากย่อมหดตัวมากที่สุดและขนาดจะเล็กที่สุดซึ่งก็คือสีเขียว พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ ในอดีตมีชื่อว่า พิมพ์สวมชฎา หรืออีกชื่อคือ พิมพ์สามเหลี่ยม จุดเด่นตามแม่พิมพ์มาจากเส้นสังฆาฏิที่หนาพาดกลางพระอุระ เส้นพระกรรณที่หนาใหญ่ เชื่อมกับพระเกศ และเส้นครอบพระเศียร มองเหมือนองค์พระสวมชฎา ส่วนชื่อพิมพ์สามเหลี่ยม เพราะมองลักษณะพิมพ์คล้ายสามเหลี่ยมเกือบด้านเท่า นั่นเอง องค์ที่นำมาให้ชมเป็นพิมพ์สังฆาฏิ เนื้อจัด พิมพ์ติดคมชัดถือว่าเป็นพระดูง่าย สามารถดูตำหนิได้ดังนี้
คาถาบูชา พระสมเด็จนางพญา
คาถาบูชา พระสมเด็จนางพญา วัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก (ใช้ได้ทุกพิมพ์)
ตั้งนะโม ๓ จบ
แล้วกล่าวตามนี้
"พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ. อานุภาเวนะ มะอะอิอุ จิเจรุนิ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ" ๓ จบ
ชี้ตำหนิ
ลักษณะด้านหน้า
ทำไมถึงเรียกพิมพ์สังฆาฏิ องค์พระมีสังฆาฏิพาด จึงเป็นที่มาของพิมพ์นี้ แขนจะหนา
จำแขน จำรายละเอียดให้ได้ ดูธรรมชาติขององค์พระเป็นหลัก แขนวางตรงพาดไปที่เข่า ซอกมีแร่ลอย มีรอยเสี้ยนไม้แสดงว่าแม่พิมพ์เป็นไม้
ลักษณะด้านหลัง
มีรอยกดนิ้วมือ เกิดจากการกดพิมพ์ แต่จะมีรอยนิ้วมือหรือไม่มีก็ได้
จะมีแร่ลอย มีคราบน้ำหมากตามธรรมชาติ เป็นบางองค์
พระเนื้อมีลักษณะคล้ายพระขุนแผนบ้านกร่าง พระอยุธยา และเม็ดแร่มะขาม
...
ลักษณะด้านข้าง
พระสมเด็จนางพญา จะตัดแบบโบราณเป็นร่องไม้ สีแร่ที่พบคือ ขาวขุ่น ขาวใส สีน้ำตาล และสีดำ
คอลัมน์ : หยิบกล้องส่องพระ by โทน บางแค
Line : @tone8888
เพจ : โทน บางแค FC.
...