บทกรวดน้ำแบบย่อ หลังใส่บาตร เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำบุญและอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ โดยหลังจากใส่บาตรเสร็จ ก็จะมีการกรวดน้ำลงภาชนะ บ้างก็กรวดน้ำลงดิน พร้อมสวดบทกรวดน้ำ ตามด้วยการแผ่เมตตาไปให้ผู้เสียชีวิตและสรรพสัตว์ทั้งหลาย

ทำความรู้จัก "กรวดน้ำ" คืออะไร?

การกรวดน้ำ คือ การเทน้ำ ในทางพระพุทธศาสนามักจะกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ  ซึ่งการกรวดน้ำอาจทำได้ทั้ง 2 แบบ ได้แก่

  • กรวดน้ำใส่ภาชนะที่รองรับ โดยน้ำก็เปรียบเสมือนการหลั่งบุญ และกรวดน้ำลงดิน
  • กรวดน้ำลงดิน ไม่ต้องมีภาชนะรองรับ แต่เทน้ำลงดินเลย เปรียบให้พระแม่ธรณีเป็นพยาน

นอกจากนี้ ก็ยังมีการ "กรวดน้ำแบบแห้ง" ที่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำ หรือภาชนะใดๆ เพียงแค่ทำบุญแล้วตั้งจิตอธิษฐาน หลังจากนั้นให้ท่องบทแผ่เมตตาได้เลย

บทกรวดน้ำ (แบบสั้น) อิทังเมฯ อุทิศส่วนบุญกุศลแบบย่อ

...

อิทัง เม ญาตินัง โหนตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย 

คำแปล : ขอบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าเถิด ขอญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุขด้วยเถิด

บทกรวดน้ำ อิมินาฯ (แบบยาว) อุทิศส่วนกุศลแผ่บุญให้ไพศาล

(บทนำ) หันทะ มะยัง อุททิสะนาธิฏฐานะ คาถาโย ภะณามะ เสฯ

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
อาจะริยูปะการา จะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา
สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
พรหมะมารา จะ อินทา จะตุ โลกะปาลา จะ เทวะตา
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
สุขัญจะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
นัสสันตุ สัพพะทาเยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
มารา ละภันตุ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
พุทธาทิปะวะโร นาโถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มาฯ

คำแปล : บทกรวดน้ำ อิมินาฯ เป็นสวดบทกรวดน้ำหลังตักบาตรหรือทำบุญ ความหมายโดยรวมจะเป็นการสวดส่งผลไปให้แก่บุพการีชน บรรพบุรุษ และญาติที่ล่วงลับ ตลอดจนผู้มีพระคุณทั้งหลาย เช่น อุปัชฌาย์ ครูบาอาจารย์ พ่อแม่ เทพและเทวดาทั้งหลาย เพื่อให้ได้รับส่วนบุญกุศลโดยทั่วกัน อีกทั้งยังเป็นการสวดเสริมอานิสงส์ส่งบุญให้แก่ตัวเองอีกด้วย เพื่อมุ่งหวังจะเป็นผู้มีสติปัญญา เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้ประกอบการกุศลมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต

บทกรวดน้ำ ยะถาฯ (แบบเต็ม) ความต่างระหว่าง "ยถา" และ "สัพพี"

หลายคนคงเคยได้ยินบทกรวดน้ำที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า "ยถา" ซึ่งเป็นบทที่เรียกว่า บทอนุโมทนารัมภคาถา ซึ่งพระสงฆ์จะสวดเพื่อให้ผู้มีร่วมทำบุญได้เตรียมตัวรับพร โดยเมื่อขึ้นท่อน "ยถา วาริวะหา..." ก็จะเริ่มเทน้ำไปเรื่อยๆ จนสิ้นสุดที่ท่อน "มะณิ โชติระโส ยะถา" ซึ่งบทกรวดน้ำ ยะถาฯ แบบเต็ม มีดังนี้

ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง
เอวะเมวะ อิโต ทินนัง เปตานังอุปะกัปปะติ
อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง
ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ
สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา
จันโท ปัณณะระโส ยะถา
มะณิ โชติระโส ยะถา

คำแปล : ห้วงน้ำที่เต็มย่อมยังสมุทรสาครให้บริบูรณ์ได้ฉันใด ทานที่ท่านอุทิศให้แล้วแต่โลกนี้ย่อมสำเร็จประโยชน์ แก่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้วฉันนั้น ขออิฐผลที่ท่านปรารถนาแล้ว ตั้งใจแล้ว จงสำเร็จโดยฉับพลัน ขอความดำริทั้งปวง จงบริบูรณ์ เหมือนดังพระจันทร์วันเพ็ญ และเหมือนแก้วมณีอันสว่างไสว

...

หลังจากสิ้นสุดคำว่า "มะณิ โชติระโส ยะถา" ก็จะตามด้วย บทสามัญญานุโมทนาคาถา เมื่อเริ่มด้วยคำว่า "สัพพีติโย" ให้ผู้ร่วมทำบุญหยุดกรวดน้ำ แล้วนั่งประนมมือเพื่อฟังการให้พรต่อจนจบบทสวด

สัพพีติโย วิวัชชันตุ
สัพพะโรโค วินัสสะตุ
มา เต ภะวัตวันตะราโย
สุขี ทีฆายุโก ภะวะ
สัพพีติโย วิวัชชันตุ
สัพพะโรโค วินัสสะตุ
มา เต ภะวัตวันตะราโย
สุขี ทีฆายุโก ภะวะ
สัพพีติโย วิวัชชันตุ
สัพพะโรโค วินัสสะตุ
มา เต ภะวัตวันตะราโย
สุขี ทีฆายุโก ภะวะ
อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน
จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ
อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดของการกรวดน้ำไม่ว่าจะแบบสั้นหรือแบบเต็ม ก็คือการตั้งจิตใจมั่นในการทำบุญอุทิศส่วนกุศลด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์นั่นเอง

ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานราชบัณฑิตยสภา